สู้กันแบบมีสวรรค์

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 27 เม.ย.  65)

เหลือเวลาไม่ถึงเดือน เราก็จะได้เห็นผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ออกมาทำงานลุยเพื่อประชาชนชาวกทม.ตอนนี้เขาบอกโพลก็นำโด่งไปแล้ว แต่ยังมีที่ปรึกษาดีมาช่วยวางยุทธศาสตร์ให้โดนใจชาวกทม.มากขึ้น นั่นก็คือ คนที่เคยเป็นคนเก่า คนแก่ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ว่า ถอนตัวมาช่วย มาอยู่กับทางนี้แล้ว ซึ่งคนผู้นี้มีชื่อว่า นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร New Dem หรือ กลุ่มคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ ลูกชายของนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ 

เรียกว่า ย้ายค่ายผันตัวมาเป็นผู้ช่วยของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระที่ติดโผนำโด่ง โดยนายพรพรหม ชูข้อดีผู้ว่าฯเที่ยงคืน ดูแลแสงสว่างทั่วกทม.เพิ่มรถเมล์กลางคืน เน้นปลอดภัย ค่าใช้จ่ายถูก คุมงานซ่อมบำรุง ก่อสร้าง รับมืออุบัติเหตุ อุบัติภัยเฉพาะหน้าทันที ทันท่วงที พ่วงด้วยการจัดระเบียบตลาด ฟื้นพื้นที่เศรษฐกิจคนกลางคืน ส่งเสริมพื้นที่กิจกรรมสร้างสรรค์ ถือเป็นอีกหนึ่งประเภทลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

นี่ก็เรียกว่า คนเราเวลาจะขาขึ้นมันก็ขึ้น มีโน้น มีนี่มาเป็นนั่งร้าน คอยส่งเสริม คอยเติมข้อดีให้ แต่ว่า คนที่จะขาลงก็มีไอ้นั่นท่วม มีไอ้นี่ล่ม ไอ้นั่นมาเป็นข่าวตัดตอน ตัดคะแนน เขาเรียกกันว่า ช่วงขาลงมันเป็นอย่างนั้น แต่ว่า คนเราเวลาจะลง จะขึ้น แต่ขอให้ทำหน้าที่หาเสียงไปยังไม่เป็นทุกข์ได้มั้ย หาเสียงไปพลาง ขึ้นสวรรค์ไปพลาง อย่าไปร้องรำทำทุกข์ รำพึง รำพัน ต่อว่า ต่อขาน บางคนก็ดีนะ รู้ตัวว่า เราไม่ได้เป็นแน่ๆ แต่ก็อยากจะแสดงความเห็นเผื่อไปโดนใจใครสักคนที่ฝากเอาไว้ว่า จะเป็นไปได้ ไม่ได้

ก็แล้วแต่อนาคตว่าไป แต่ว่า ตอนหาเสียงมันเหมือนกับทำศึก แต่เราต้องรบกันไปพลาง คว้านิพพานกันไปพลาง ไม่ใช่รบกันไปพลาง ตกนรกกันไปพลาง หาเสียงแบบทำสงครามสู้กัน แต่ต้องไม่ทุกข์ ต้องมีจิตใจเยือกเย็น สงบ นำนโยบายมาเสนอ เดินหาเสียง แต่ใจนั้นไม่เป็นทุกข์ อย่างนี้เขาเรียกว่า สู้กันไปพลาง คว้านิพพานกันไปพลาง ถ้าคว้านิพพานไม่ได้ ก็ขอให้ได้สวรรค์ไปพลางๆ คือ มีความสุขใจ สบายใจ

เขาถึงบอกว่า สวรรค์ในอก นรกในใจ ดีใจไปสวรรค์ ร้อนใจไปนรก เย็นใจไปนิพพาน เพราะฉะนั้น ขอให้หาเสียงกันไป แข่งกันไป สู้กันไปแบบสวรรค์มีด้วย อย่าเอาแต่นรกสาดใส่กันด้วยความเคียดแค้น โกรธเคือง ฉุนเฉียว เกรี้ยวโกรธ ก็อย่าทำเลย มันจะกลายเป็นการเมืองนรกอีก เป็นการแข่งขันแบบนรกอีก เรามาไข่วคว้าสวรรค์ไว้บ้างดีกว่า อย่าทำอะไรที่มันต้องทุกข์ไปทุกเรื่อง มันต้องทำแบบไม่รู้จักทุกข์ สู้กันไป แพ้ก็แพ้ ไม่ได้เป็นก็ไม่ได้เป็น

ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ก็ไม่เป็นอะไร ไม่ได้ทุกข์อะไร ถ้าฉลาดอยู่เป็น ถ้าอยู่เป็นอยู่แบบช่วยๆ อย่าอยู่แบบฉกๆ ฉวยๆ อย่าไปฉวยโอกาสซ้ำเติมใครเขา เอาแต่นโยบายของเราทำอะไร อย่างนี้จะเป็นผู้ว่าฯเที่ยงคืน สนับสนุนคนหากินกลางคืน ให้เขาทำมาหากิน อยู่รอดปลอดภัย เศรษฐกิจดีขึ้นมา คนกรุงเทพฯบอบช้ำที่สุดในรอบ 10-20 ปีก็ว่าได้ มีการค้าขายมันเหมือนกับตายซากเลย นอกจากมีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่มั่งมี ศรีสุข ขายดิบ ขายดี

อาจจะมีอย่างกรณีข้าวเหนียวมะม่วง อันนี้ต้องเรียกกันว่า “น้องมิลลิ” ออกมาทำคะแนนได้เยอะเลย เมื่อก่อนก็นึกดูว่า ใครเนี่ย อยากจะเกลียดใครอย่าลืมนะ เผื่อวันหน้าอาจจะรักเขาขึ้นมาก็ได้ น้องมิลลิ เคยโดนปรับ รู้สึกจะเป็นพันบาท ที่ร้องเพลงไปกระทบรัฐบาลมากไปหน่อย แต่พอคราวนี้ช่วยเศรษฐกิจ ช่วยการค้า การขาย มะม่วงที่เคยตกต่ำ โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้กระเด้งขึ้นมา 10 บาท เพราะน้องมิลลิช่วยปลุกกระแส

ถ้ารัฐบาลจะไปเกลียดคนที่เคยแซะเราบ้าง ก็ดูเถอะ เผื่อวันดีๆข้างหน้า ที่จริงนักการเมืองที่ลงแข่งขันกันทางกทม.เนี่ย ก็เอาอันดับ 2 และอันดับ 3 เอาไปร่วมกันเลย เอาไปเป็นรองผู้ว่าฯ เอาไปเป็นผู้ว่าฯระดับไหน แผนกไหน ส่วนไหน ดึงเข้ามาร่วมกัน ไหนๆก็อยากจะแข่งขันกันแล้ว ก็มาแข่งขันกันอีกรอบหนึ่ง แข่งขันกันทำนโยบายที่ตัวเองเคยประกาศ และคนที่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ก็ควรจะใจกว้าง

จะดึงคนที่แพ้เรานิดๆหน่อยๆเนี่ย แพ้กันไม่ห่างมาก แสดงว่า คนเขานิยม ประชาชนก็จะปลาบปลื้มว่า ไม่มีผู้ว่าฯกทม.คนไหนใจกว้างเท่ากับคนปัจจุบันนี้ หมายถึงคนในอนาคตนี้ อาตมาก็หวังว่า การเลือกตั้งจะเป็นผู้ว่าฯกทม. ผู้ว่าฯพัทยา ก็ขอให้เป็นการเลือกตั้ง แข่งฃันกันแบบนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีสปิริต มีจิตวิญญาณนักแข่งขันที่ไม่เคยอาฆาต พยาบาท น้อยอก น้อยใจ ไม่ใช่ว่า แข่งขันแพ้ แต่ไปเล่นเกมข้างนอกอีกก็วุ่นวาย หวังว่า คงจะเป็นไปในทางดีงาม สร้างสรรค์

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login