- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ฆาตกรทางธรรมวินัย
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 พ.ค. 65)
ช่วงนี้กระสุนปลิวว่อนตกไปที่คณะสงฆ์ ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดทำไมถี่บ่อย เยอะมาก ต่อเนื่องจนคนวิตกกังวลว่า ศาสนาพุทธในเมืองไทยจะหมดสิ้นตอนนี้หรือไร ถึงได้เกิดเรื่องเหมือนอย่างกับลางร้าย หรือเป็นเมืองกระสุนอย่างที่เขาพูดกัน และเรื่องที่เกิดล่าสุดนี่ ก็เป็นเรื่องที่น่าอดสูใจ หลวงปู่อายุมากมายยังไปล้วง ไปคลำ ทั้งอก ทั้งก้นสีกา แล้วพระลูกศิษย์ก็บอกว่า หลวงปู่อาจจะเป็นโรคอัลไซเมอร์
ที่จริงตอนที่ผู้หญิงถอยออกมาแล้ว พระลูกศิษย์หนุ่มๆอยู่ข้างๆ ดันไปบอกว่า หลวงปู่เมตตาเข้าไปเถอะ ทั้งๆที่ผู้หญิงคนนั้นเขาเตรียมถอยออกมาแล้ว ซึ่งน่าจะพ้นขีดอันตรายแล้วว่างั้นเถอะ ไม่ควรจะปล่อยให้เกิดเรื่องเสียหายบานปลาย แต่แล้วการที่พระที่ไม่รู้แล้วชี้ แค่บอกว่า หลวงปู่เมตตาเข้าไปเถอะ เมตตาแบบนี้ขอถามท่านหน่อยว่า เป็นเมตตาอวิชชาหรือเปล่า เป็นเมตตาแบบชาวนากับงูเห่ามั้ย
ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านจะยินดีรับสภาพความให้หลวงปู่เหมือนกับชาวนากับงูเห่า ไปสงสารเมตตาผู้หญิง เด็กกับหนุ่มสาวแบบนั้นไม่มีใครยอมรับได้ พูดตามตรงว่า รับไม่ได้กับการที่บอกว่า ท่านเมตตา ขอบอกนิดหนึ่งว่า ไม่รู้แล้วไม่ชี้ดี แต่ถ้าไม่รู้แล้วไปชี้ ก็เรียกว่า ท่านก็เหมือนกับฆาตกรทางธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า เลยบอกว่า ถ้าทำได้ เดี๋ยวพระอื่นรุ่นลูกหลานจะพลอยทำตามหลวงปู่บ้าง แล้วก็อ้างว่า เมตตา
เพราะฉะนั้น เมตตาต้องสัมปยุตด้วยปัญญา ไม่ใช่เมตตาอวิชชาอย่างที่เห็นที่เป็นกันอยู่ ซึ่งมันจะเป็นเรื่องที่ทำให้พระศาสนา เรียกว่า หมดความน่าเลื่อมใส น่าเชื่อถือ ถ้ายังมีลักษณะที่ล้วงล้ำกล้ำเกินเพศตรงข้าม ซึ่งไม่ใช่เรื่องรื่นเริงเลย พระพุทธเจ้าบอกไม่ให้อยู่สองต่อสอง ไม่ให้จับเนื้อต้องตัวหญิงด้วยความกำหนัด ถึงแม้ว่า ไม่มีความกำหนัดจับต้องมันก็แลเป็นโลกวัชชะ เป็นข้อติฉินนินทา แล้วทำไมหลวงปู่จึงต้องไปล้วง ไปโอบ ไปกอดอย่างนั้น
องค์ดาไลลามะ ท่านเคยทำ แต่ก็มีคนท้วงติงเหมือนกัน ถึงแม้ว่า จะเป็นพระผู้ใหญ่ที่ชื่อเสียงกระฉ่อนดีงามอะไรก็ตาม แต่สังคมก็ยอมรับไม่ได้ ต้องถือว่า ถูกตำหนิในส่วนนี้ แต่ส่วนอื่นอาจจะดี อย่างนั้นหลวงปู่เป็นพระที่เอาล่ะเป็นที่เคารพนับถือก็ควรจะอยู่ให้น่าเลื่อมใส ไม่ใช่ไปล้วง ไปลูบ ไปจับ ไปคลำ แล้วก็ไปมาบอกว่า เมตตา ซึ่งเมตตาปัญญาอ่อนแบบนี้ ทำให้ศาสนาพุทธเรา เรียกว่า ตกต่ำไปโดยปริยาย
ก็หวังว่า พระคุณเจ้าที่เป็นลูกศิษย์ ลูกหาหลวงปู่อย่าได้ชี้ช่อง ชี้ทาง แล้วก็บอกว่า ทำไปด้วยความเมตตา เป็นเรื่องที่รับไม่ค่อยได้ มีแต่เขาพูดกันว่า ยังไง อย่างนี้ หมอปลาเลยต้องไป อะไรกัน ก็หวังว่า พวกลูกศิษย์ ลูกหา อย่าเชิดชูอาจารย์ไปในทางไม่ถูก ไม่ดี ไม่งาม มันจะเป็นเรื่องทำให้เสียหมู่ เสียคณะ เสียระเบียบแบบแผน ถ้าแบบแผนเราไม่เคยไปลูบ เคยจับกันมา แล้วมาลูบ มาจับ มาคลำกัน อย่างนี้ควรจะติดเบรก แล้วหยุดได้แล้ว อย่าไปเดินหน้าต่อ
พอเดินหน้าต่อคลำล้วงลึกเข้าไปอีก แล้วไปเจอคนที่ไม่เอาด้วย ที่จริงผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่เอาด้วย สามีของผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่เอาด้วย ถึงบอกว่า พามาผิดที่ซะแล้ว หมดความเลื่อมใสซะแล้ว ก็ต้องบอกกันว่า ไม่รู้อย่าชี้ได้มั้ย ให้เป็นอย่างที่เขาว่า ไม่รู้ ไม่ชี้ดีที่สุด ถ้าไม่รู้แล้วไปชี้ว่า เป็นเรื่องเมตตาๆ พอได้แล้ว เมตตาปัญญาอ่อนหรือเปล่า ถ้าเมตตาปัญญาดี มีเหตุ มีผล ปัญญาเขาถึงได้บอกว่า เมตตาต้องสัมปยุตด้วยปัญญา
ไม่อย่างนั้นก็เหมือนชาวนา พวกงูเห่า ไม่มีที่อยู่รอดปลอดภัยได้ หวังว่า เราคงจะไม่ทำกันต่อไป ควรจะยุติเรื่องเหล่านี้เสีย ทำเรื่องใหม่ ทำเรื่องที่ดี ที่งาม เรื่องเสียต่ำทรามอย่าทำเลย เห็นใจพระพุทธเจ้ากว่าจะตั้งศาสนาให้เรื่องดับทุกข์เกิดขึ้นกับมนุษยชาติ นี่ไปทำเรื่องทุกข์ สร้างทุกข์ให้มันทุกข์มากขึ้นมาทำไม ต้องเรียกกันว่า พอกันที สำหรับเรื่องโลกีย์วิสัยที่ทำให้ต้องอับอาย ขายหน้า เสียชื่อ ไม่ควรจะทำอีกต่อไปเลย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login