- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 day ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป กางแผนสยายปีกสร้างความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนในไทย เปิดโรงแรมใหม่ 100 แห่งในปี 68
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/06/9766.jpg)
เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป เดินหน้าเต็มที่รับแผนฟื้นฟูตลาดท่องเที่ยวและโรงแรมในประเทศไทย พร้อมแผนการขยายตัวของธุรกิจแบบทวีคูณ ตั้งเป้าเปิดโรงแรมและรีสอร์ทครบ 100 แห่งในไทย ในปี 2568 โดยแผนการเติบโตทางธุรกิจสำหรับประเทศไทยนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายธุรกิจในวงกว้างที่เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป วางเป้าหมายไว้ว่าจะขยายการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในเครือที่ปัจจุบันมีอยู่ 400 แห่ง ให้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 2,000 แห่งภายในปี 2568 ในปัจจุบันโรงแรมในเครือเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ในประเทศไทยมีจำนวน 6 แห่ง โดยมีโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่ 4 แห่งในกรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 2 แห่ง ที่ภูเก็ตและพัทยา
การที่เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป วางแผนกลยุทธ์ที่มีความท้าทายเช่นนี้เป็นกลไกลขับเคลื่อนรูปแบบทางธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนให้ตรงกับความต้องการของนักลงทุนและเจ้าของโรงแรมแต่ละคนโดยเฉพาะ เป็นการตอบสนองเชิงกลยุทธ์ที่มาจากแรงผลักดันทั้งภายในและภายนอกรวมกัน ทั้งการเติบโตแบบออร์แกนิก (Organic Growth) ที่เกิดขึ้นด้วยศักยภาพขององค์กรเอง การควบรวมกิจการ รวมถึงการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธ์ในการบริหาร (master license agreements) โดยทุกแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มบริษัทในเครือเรดิสันนั้น มีโครงสร้างการออกแบบของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น เรดิสัน คอลเลคชั่น (Radisson Collection) เรดิสัน บลู (Radisson Blu) และ เรดิสัน (Radisson) ขณะเดียวกันก็มุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรีสอร์ทและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โดยเน้นเลือกทำเลที่ตั้งที่เป็นแหล่งธุรกิจและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ และเกาะสมุย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ที่กำลังมาแรงของไทยในขณะนี้
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/06/2857.jpg)
กลุ่มโรงแรมเรดิสันเล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตของประเทศไทยที่มีแรงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง และเห็นศักยภาพมหาศาลในการเติบโตของแบรนด์ต่างๆ ในเครือ ดังนั้น สำหรับการเจาะตลาดในประเทศไทย จึงมุ่งเน้นที่แบรนด์ เรดิสัน อินดิวิดวลส์ (Radisson Individuals)โดยเฉพาะ ที่เป็นแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดที่กำลังกระแสแรงฉุดไม่อยู่ทั่วโลก และคาดว่าจะสามารถดึงดูดและได้รับความนิยมจากเจ้าของและนักพัฒนาธุรกิจโรงแรมในไทยที่ต้องการทำธุรกิจกับกลุ่มโรงแรมคุณภาพ ที่มาพร้อมสัญญาที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และมูลค่าการลงทุนที่ลดลง ขณะเดียวกันยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ลักษณะและบุคลิกภาพของโรงแรมไว้ ส่วนอีกแบรนด์ที่กำลังผลักดันให้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในไทยตอนนี้คือแบรนด์ระดับ upper midscale อย่าง Park Inn by Radisson ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับกลางค่อนไปทางระดับบนที่นำเสนอบริการแบบปัจจัยพื้นฐานที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยคำนึงถึงความอบอุ่นและสะดวกสบายของผู้เข้าพักเป็นหลัก ด้วยการให้บริการที่เป็นมิตร มีความพิเศษและให้ความรู้สึกที่ดียิ่งขึ้น และอีกหนึ่งแบรนด์ที่เน้นคือ Radisson RED เป็นแบรนด์ระดับ upscale ที่ผสมผสานระหว่างรูปลักษณ์โรงแรมในแบบเดิมมาปรับให้เข้าพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัวให้มีความสนุกสนานด้วยสไตล์การออกแบบที่โดดเด่น ซึ่งทำให้แขกของเราสามารถสัมผัสได้ถึงแรงบันดาลใจ มีความรู้สึกเชื่อมโยงและเข้าใจถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างลึกซึ้ง
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/06/733.jpg)
นอกจากนี้ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ยังมีการเซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระดับภูมิภาคกับผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัทจินเจียง อินเตอร์เนชั่นแนล (Jin Jiang International) และบริษัทในเครือเพื่อเร่งการขยายตัว ซึ่งบรรดาเจ้าของธุรกิจและนักพัฒนาจะสามารถเข้าถึงกลุ่มแบรนด์หลากหลายที่มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในตลาดทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในประเทศไทย กลุ่มโรงแรมเรดิสันได้รับสิทธิ์ในการบริหารและพัฒนาธุรกิจกับแบรนด์ 7 Days และ Metropolo โดยได้มีการทำสัญญาอนุญาตและสิทธิหลักในการเป็นผู้ดำเนินงานบริหารจัดการธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือจินเจียง เพื่อเจาะกลุ่มตลาดระดับบนและระดับกลาง ซึ่งปัจจุบันมีแบรนด์ที่ เรดิสัน โฮเทล กลุ่ม ได้รับสิทธิเข้าพัฒนาธุรกิจแล้ว ได้แก่ โกลเด้น ทิวลิป (Golden Tulip) คีเรียด (Kyriad) และ คัมพานิล (Campanile) จาก ลูฟวร์ โฮเทล กรุ๊ป (Louvre Hotels Group)
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/06/611.jpg)
โดยตลอดปี 2564 ที่เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้ถือหุ้นของ จินเจียง และ Sino-Ceef ทำให้สามารถดำเนินการตามแผนการปฏิรูปในระยะ 5 ปีอย่างต่อเนื่อง วิธีการนี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีซึ่งถือว่าเป็นการนำระบบที่ดีที่สุดมาใช้ในการดำเนินการที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มโรงแรมในเครือ ตลอดจนทำให้มีการลงทุนอย่างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระบบปฏิบัติการ ซึ่งส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนนงานมากที่สุดในอุตสาหกรรมนี้
ด้วยความมุ่งมั่นของเรดิสันในการเดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการของประเทศไทยในอนาคตอย่างเต็มที่ จึงมีแผนเปิดสำนักงานเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ประจำประเทศไทยขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับพันธมิตรทางธุรกิจชาวไทย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีอันยาวนานระหว่างกันและกัน
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/06/3211.jpg)
“ดิฉันคิดว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางซึ่งเป็นที่ปรารถนาและส่งมอบประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับนักเดินทางทุกประเภท การประกาศยกเลิกมาตรการเข้าราชอาณาจักรจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่งในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ และเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป คาดหวังที่จะเห็นภาพของการเดินทางเข้ามีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เรา เตรียมพร้อมและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่สำหรับอนาคตของธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในประเทศไทย และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำงานร่วมงานกับพันธมิตรของเราเพื่อสร้างอนาคตที่สดใสให้กับในประเทศที่มีเสน่ห์แห่งนี้” มิส. แคทรีน่า จีอานูกา ประธาน เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป เอเชียแปซิฟิก กล่าว
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/06/2469.jpg)
มร. เดวิด เหงียน กรรมการผู้จัดการ ด้านยุทธศาสตร์ความร่วมมือในภูมิภาคอินโดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กล่าวเสริมว่า “เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของโรงแรมในเครือเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ทีมงานของเรารวมถึงตัวผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับพันธมิตรในประเทศเพื่อขยายพอร์ตการลงทุนของกลุ่มบริษัทของเรา เพื่อเตรียมพร้อมรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวขาเข้า”
การที่ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องกักตัวหรือแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสในขณะนี้ จึงเป็นก้าวที่สำคัญในการฟื้นฟู “สยามเมืองยิ้ม” แห่งนี้ให้เพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองให้กลับมาเยือนจุดหมายปลายทางที่พวกเขาโปรดปรานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรัฐบาลไทยคาดการณ์ว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศได้มากกว่า 7 ล้านคนในปี 2565
ในระยะยาวนั้น การกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเยือนประเทศไทย จะมีบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของกลุ่มโรงแรมเรดิสันและประเทศไทยโดยรวม ก่อนโรคระบาดจะเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดของประเทศ เมื่อการท่องเที่ยวขาออกจากประเทศจีนกลับมาดำเนินการอีกครั้ง ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ได้รับผลประโยชน์ ดังนั้น การเป็นพันธมิตรระหว่าง เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป กับ จินเจียง อินเตอร์เนชั่นแนล จะสามารถสร้างอรรถประโยชน์จากตลาดที่สำคัญนี้จำนวนมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ ยังมีช่องทางการทำจองเป็นภาษาจีนและ การชำระเงินดิจิทัลเพื่อเข้าถึงสมาชิกทั้งหมดของลอยัลตี้โปรแกรมที่มีมากกว่า 182 ล้านคน
นอกจากนี้ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ยังจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีอนาคตที่ยั่งยืน บริษัทได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างแน่วแน่กับแนวคิดในการจัดการเพื่อทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมหรือผลิตภัณฑ์โดยกระบวนการกำจัดคาร์บอน (carbon net zero) ภายในปี 2050 รวมถึงการจัดงานประชุมของโรงแรมในเครือเรดิสันทั้งหมดนั้นปลอดคาร์บอน 100% โดยร่วมมือกับผู้นำในภาคอุตสาหกรรมหลายองค์กร เช่น สมาคมโรงแรมภูเก็ต เป็นต้น นอกจากนี้ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ยังเป็นพันธมิตรของ Hotel Sustainability Basics ซึ่งเป็นองค์กรภาคอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ในการขับเคลื่อนการเดินทางอย่างยั่งยืน
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มโรงแรมเรดิสัน ได้ที่เว็บไซต์ www.radissonhotels.com
You must be logged in to post a comment Login