- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ที่มาของพิธีฮัจญ์
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8 ก.ค. 65)
จากเรื่องราวการสร้างอาดัมที่ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอาน อาดัมรู้จักพระเจ้าว่าเป็นผู้ทรงสร้างเขาขึ้นมา แต่เมื่ออาดัมถูกส่งมายังโลกนี้ มนุษย์ที่เป็นลูกหลานของเขาได้หันไปเคารพกราบไหว้วัตถุบูชาที่สร้างกันขึ้นมาเองแทนที่จะเคารพสักการะพระเจ้าที่เป็นผู้สร้าง ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าที่แท้จริงจึงขาดสะบั้นลง
เมื่อหลงกราบไหว้วัตถุบูชาที่ไม่สามารถให้คำสั่งสอนทางศีลธรรม มนุษย์ก็ทำอะไรตามใจชอบจนเกิดความเสื่อมทราม แม้พระเจ้าจะส่งนบีมาตักเตือน แต่ผู้คนกลับปฏิเสธ พระเจ้าจึงทำลายผู้คนในชุมชนเหล่านั้น เช่น ชุมชนของโนอาห์ในตอนเหนือของอิรัก ชาวอ๊าดและชาวษะมูดในคาบสมุทรอาหรับ
หลังจากนั้น คัมภีร์กุรอานได้เล่าว่าการกราบไหว้วัตถุบูชาได้เกิดขึ้นอีกที่เมืองอูร์ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรตีสในอิรักปัจจุบันเมื่อประมาณสามพันกว่าปีก่อน พระเจ้าจึงให้หนุ่มน้อยที่ชื่อว่าอับราฮัม(อิบรอฮีม)มาเตือนสติผู้คนในชุมชนนั้น
พ่อของอับราฮัมเป็นคนทำรูปปั้นขายให้ผู้คนนำไปสักการบูชา อับราฮัมสงสัยตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้วว่ารูปปั้นที่พ่อของเขาทำขึ้นมาจะเป็นพระเจ้าได้อย่างไรในเมื่อรูปปั้นเหล่านั้นไม่สามารถขับไล่แม้แต่แมลงวันและหนูที่ไต่อยู่บนตัวและกินอาหารที่ผู้คนนำมาเซ่นไหว้ได้ เขาจึงเริ่มแสวงหาพระเจ้าที่แท้จริง
อับราฮัมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคิดว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นพระเจ้า แต่เมื่อเขาเห็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หายลับขอบฟ้าไป เขาก็สรุปได้ทันทีว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ไม่ใช่พระเจ้า แต่ผู้สร้างและผู้วางกฎการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ต่างหากที่เป็นพระเจ้า เขาจึงเกิดความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าที่แท้จริงต้องเป็นผู้สร้างและผู้ควบคุมทุกสิ่ง
ในเวลานั้น อับราฮัมเป็นเยาวชนคนเดียวเท่านั้นที่เชื่อในพระเจ้าองค์เดียวและเขาต่อต้านการกราบไหว้บูชารูปปั้น ผู้คนทั้งหมดจึงไม่พอใจเขา แม้แต่พ่อของเขาเองก็ไม่พอใจถึงขั้นขับไล่เขาออกไปจากบ้าน
เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้ชาวเมืองเห็นว่าวัตถุบูชาและรูปปั้นที่ผู้คนกราบไหว้นั้นไม่ใช่พระเจ้าและไม่มีความศักดิ์สิทธิ์พอที่จะป้องกันตนเอง เขาได้แอบทำลายรูปปั้นที่ผู้คนกราบไหว้และให้ผู้คนถามรูปปั้นเหล่านั้นดูว่าใครเป็นคนทำ ท่าทีของอับราฮัมสร้างความโกรธแค้นให้ผู้คนเป็นอย่างมาก ผู้คนจึงนำเขาไปให้กษัตริย์ตัดสินและเขาถูกพิพากษาลงโทษด้วยการเผาทั้งเป็น
คัมภีร์กุรอานเล่าว่าพระเจ้าได้ช่วยอับราฮัมไว้โดยการทำให้ไฟเย็นไม่เผาไหม้อับราฮัม เมื่อผู้คนกลับไปแล้ว อับราฮัมกับนางซาราห์ภรรยาของเขาและโลทลูกพี่ลูกน้องของเขาจึงออกจากเมืองอูร์มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปอาศัยอยู่ในดินแดนกันอานหรือปาเลสไตน์และโลทแยกตัวไปยังเมืองโซดอมในจอร์แดนปัจจุบัน
ระหว่างทาง อับราฮัมวิงวอนต่อพระเจ้าให้เขามีลูกชายเพื่อสืบสานอุดมการณ์แห่งความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว แต่เขาก็ยังไม่มีลูกกับนางซาราห์ ดังนั้น เขาจึงแต่งงานกับหญิงพื้นเมืองชาวอียิปต์คนหนึ่งชื่อฮาการ์(หรือฮาญัรฺ)และมีลูกคนแรกกับนางชื่ออิสมาอีลผู้เป็นต้นตระกูลเผ่ากุเรชที่นบีมุฮัมมัดถือกำเนิด
ขณะที่อิสมาอีลยังแบเบาะ พระเจ้าได้บัญชาให้อับราฮัมนำนางฮาการ์และลูกน้อยไปยังหุบเขาบักก๊ะฮฺ(ในคัมภีร์ไบเบิลเรียกว่า บากาหรือเบกา) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองมักก๊ะฮฺในปัจจุบันและทิ้งนางฮาการ์และอิสมาอีลลูกน้อยของเขาไว้ที่นั่น
เมื่ออิสมาอีลเติบโตเป็นเด็กหนุ่ม อับราฮัมได้กลับมายังหุบเขาบักก๊ะฮฺอีกครั้งหนึ่ง และในการกลับมาครั้งนี้ พระเจ้าได้บัญชาให้เขาสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺขึ้นมาเป็นสถานที่สำหรับเคารพสักการะพระเจ้าองค์เดียว สองพ่อลูกจึงช่วยกันลงมือสร้างตามคำบัญชาของพระเจ้า เมื่อสร้างเสร็จ พระเจ้าได้สั่งอับราฮัมให้ไปเรียกร้องผู้คนมาเวียนรอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺและละหมาดในสถานที่แห่งนี้
นับแต่นั้นมา ก๊ะอฺบ๊ะฮฺได้กลายเป็นมัสยิดแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นบนหน้าแผ่นดินและเป็นสถานที่ที่ผู้ศรัธาในพระเจ้าองค์เดียวจะมาเวียนรอบในพิธีที่เรียกว่าฮัจญ์
You must be logged in to post a comment Login