วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

Dual Keys Concept: Global Living Trends เทรนด์การอยู่อาศัยที่นิยมในระดับโลก ที่เหมาะสมกับคนไทย ในปี 2022

On July 15, 2022

สถานการณ์ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้วิถีการใช้ชีวิตของคนต้องปรับเปลี่ยนไป ทั้งด้านสุขอนามัย การเดินทาง การใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการเลือกที่อยู่อาศัยก็เช่นกัน ที่ต้องเปลี่ยนไป โดยจะขอสรุปแนวโน้มการอยู่อาศัยที่ปรับเปลี่ยนไป ที่น่าสนใจ 5 เทรนด์ ในปี 2022 – 2025

1. Digital Lifestyle – ในปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นเรื่องใกล้ตัว และ เข้ามามีบทบาทในการยกระดับการใช้ชีวิตยุคใหม่ให้สะดวกสบาย เห็นได้จากการที่หลายโครงการได้นำเทคโนโลยีมาใช้มากยิ่งขึ้น จนแทบจะกลายเป็นฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานที่ที่อยู่อาศัยยุคใหม่ต้องมี การที่บ้านและคอนโดมิเนียมใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ในการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านนั้น นอกจากจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้นแล้ว ยังเพิ่มความอุ่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งในเรื่องการเฝ้าระวัง การตรวจสอบ การเปิด หรือปิดการใช้งานระบบไฟฟ้าได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และที่สำคัญ เทคโนโลยีต่างๆในปัจจุบัน มีราคาไม่สูงมากนัก ง่ายต่อการใช้เป็นอย่างมาก

2.Health & Wellness ในยุคปัจจุบันเรื่องสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะโควิด19 ฝุ่น PM 2.5 เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ต่างก็สร้างความกังวลให้เราทุกคน ดังนั้นคงจะดีไม่น้อย ถ้าเราปรับบ้าน และคอนโดให้พร้อมรับมือกับความกังวลเหล่านี้ เพื่อดูแลสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กเล็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การเลือกที่อยู่อาศัยเลือกที่ตั้งอยู่ในสถานที่โปร่ง โล่งอากาศสะอาด สามารถสูดลมหายใจเข้าได้เต็มๆปอด ก็จะดีกว่าในที่แออัดอากาศไม่ถ่ายเท และมีมลพิษ

3.Sustainable Living ความยั่งยืนเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญ หลายคนหันมาใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม ประหยัดทรัพยากร ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยต่อผู้อาศัย ซึ่งแนวทางการเลือกสรรก็ไม่ยากอย่างที่คิดเมื่อผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเทรนด์ความยั่งยืน ภาคธุรกิจรวมถึงตลาดอสังหาฯ จึงต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์นี้ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดฯ ที่ผ่านมาที่ผู้บริโภคต้องอยู่กับบ้านมากขึ้น จึงมองหาบ้านที่มาพร้อมฟังก์ชันประหยัดพลังงานและรักษ์โลกต้องการบ้าน/คอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซลาร์เซลล์ (Solar Rooftop) เพื่อสร้างพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า ระบบระบายความร้อนเพื่อลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศและสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้หลายโครงการยังได้เพิ่มจุดบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลาง รองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง

4.Transformation ทุกวันนี้บ้านและคอนโด ได้กลายเป็น “Multi-functional Space” ที่เป็นทั้งบ้าน ออฟฟิศ โรงเรียน ฟิตเนส ที่พักผ่อน มุมทำงาน ค้าขาย ฯลฯ หลายคนจึงหันมาปรับและต่อเติมพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะกับการใช้งานของสมาชิกแต่ละคนโดยเน้นให้มีความยืดหยุ่น และใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์มากที่สุด เช่น แบ่งสัดส่วนห้องทำงาน/ห้องเรียนในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น จัดสรรพื้นที่ในห้องครัวเป็นโซนนั่งชิล โต๊ะทำงาน และทานอาหาร ตกแต่งสวนหน้าบ้านให้เป็นสนามเด็กเล่น พื้นที่ออกกำลังกาย มุมพักผ่อน และโรงจอดรถ เป็นต้น

5.More Value การเพิ่มมูลค่าให้กับที่บ้านและคอนโด เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน เรียกได้ว่า คนยุคใหม่ต้องเพิ่มมูลค่าในทุกๆสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นตัวเองต้องพัฒนาความสามารถที่ทำได้มากกว่า 1 โทรศัพท์มือถือที่ใช้มากกว่ารับสายและโทรออก บ้านและคอนโดก็เช่นกัน ไม่ได้เป็นแค่ที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว อาจเพิ่มมูลค่าด้วยการปรับเป็นที่ทำงาน แทนที่จะไปเช่าออฟฟิตข้างนอก ปรับพื้นที่ให้เช่าได้ และอยู่เองด้วย เพื่อแบ่งให้เช่าทั้งหมดเพื่อสร้างรายได้ที่มากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ที่อยู่อาศัย

จากการที่ได้ไปดูงานด้านที่อยู่อาศัยในต่างประเทศ ได้ไปเจอรูปแบบที่ตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยทั้ง 5 ข้อนี้ นั้นก็คือ คอนโดในรูปแบบ Dual Key Concept หรือเรียกเข้าใจง่ายๆ 1 ห้อง 2 กุญแจ ซึ่งเป็นที่นิยมในหลายๆประเทศ เช่น สิงคโปร์ , ฮ่องกง หรือ ในยุโรป ในเมืองไทยยังไม่ค่อยมีคอนโดในรูปแบบนี้ มีข้อดี

  1. สามารถเลือกอยู่เองก็ได้แถมปล่อยเช่าได้ด้วย หรือปล่อยเช่าได้สองสัญญาในห้อง ๆ เดียว ห้องแบบ Dual Key ได้มีการแบ่งพื้นที่อยู่อาศัยที่เป็นสัดส่วน และครบครัน มีครัว มีแชร์ห้องน้ำ แถมมีความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ในตัวยูนิตของตัวเอง โดยผู้อยู่อาศัยใช้ร่วมกันแค่โถงทางเข้าของห้องเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ ที่อยากจะปล่อยเช่าคอนโดมิเนียม แต่ตัวเองก็ต้องการที่อยู่อาศัยด้วย ห้องแบบ Dual-Key ถือว่าตอบโจทย์มาก เพราะสามารถกู้ซื้อในครั้งเดียว สามารถได้ทั้งห้องปล่อยเช่า และห้องอยู่อาศัยของเราเองเลย อีกข้อดีคือ ถ้าปล่อยเช่าห้องแบบ Dual-Key นั้น เพื่อน ๆ จะสามารถขอดูห้องที่เราใช้ปล่อยเช่าได้ง่าย สามารถนัดแนะวันขอเปิดห้องเพื่อตรวจสอบสภาพห้องได้ ไม่ต้องเดินทาง-ไป นอกจากนี้ ถ้าไม่ต้องการอยู่เอง หรือมีที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว ก็สามารถปล่อยเช่า 2 ห้องพร้อมกันได้เลย
  2. แบ่งพื้นที่การใช้งานได้อย่างลงตัว ยืดหยุ่นสูง ตามความต้องการ ใน 1 ยูนิต ที่เป็นแบบ Dual Key สามารถแบ่งความต้องการใช้ได้หลากหลาย ตัวอย่าง 1. อยู่อาศัย และ ออฟฟิตขายของ Online 2. อยู่อาศัย และ ปล่อยเช่า 3. อยู่อาศัย แบบ 2 ครอบครัว 4. อยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ 5. ออฟฟิตและที่อยู่พนักงาน แค่รูปแบบเบื้องต้น จริงๆสามารถปรับได้มากกว่านี้ ตามความต้องการเลย
  3. การเสียภาษีที่อยู่อาศัย แค่ 1 ห้อง แต่ได้ครอบครองถึง 2 ห้อง ลดภาระค่าภาษีที่อยู่อาศัย โดยปกติ ถ้าจะปล่อยเช่าคอนโด 2 ห้อง ก็ต้องครอบครองถึง 2 ห้อง การเสียภาษีที่อยู่อาศัยก็ต้องเสีย 2 ห้อง เช่นกัน ถือว่าลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก
  4. โอกาสราคาห้องจะปรับสูงขึ้นมากกว่า ซึ่งรูปแบบห้อง Dual Key ยังมีไม่มากในประเทศไทย การที่ได้ครอบครองถือได้ว่าเป็นเจ้าของก่อนใคร หากในอนาคตห้องรูปแบบนี้มีน้อยแต่ความต้องการมีมากขึ้นจะทำให้ห้อง Dual Key มีราคาที่สูงขึ้นมากกว่าในห้องแบบอื่นๆ เป็นไปตาม อุปสงค์ อุปทาน ความต้องการห้องมีมาก แต่ ห้องมีมีน้อย ทำให้ราคาปรับสูงขึ้นเร็วกว่าห้องแบบอื่นๆ

จากเทรนด์การอยู่อาศัยในปี 2022 – 2025 มาถึง ห้องในรูปแบบ Dual Key Concept ทางผู้เขียนก็ได้ไปเจอมาซึ่งตอบโจทย์ทุกข้อที่ได้กล่าวมา ยอมรับว่าหายากมาก แต่ก็เจอ พิกัดอยู่ที่ โครงการ เดอะเซนโทร คอนโด บางแสน จังหวัดชลบุรี พัฒนาโดยบริษัท เวนเจอร์โกลบอล โฮลดิ้ง จำกัด จากที่ได้หาข้อมูลมา ก็ไม่แปลกใจที่ทำไมโครงการนี้ถึงมีรูปแบบห้อง Dual Key เพราะเป็นบริษัทที่ร่วมทุนกันระหว่างนักลงทุนไทยกับสิงคโปร์ ซึ่งภาพรวมโครงการทั้งทำเลที่ตั้งเหมาะกับการอยู่อาศัยเอง ปล่อยเช่าก็ง่าย ใกล้ ม.บูรพา , ห้างแหลมทอง ติดกับตลาดปาร์คอิน ที่สำคัญใกล้หาดบางแสน เรื่องสภาพอากาศถือว่าดีเลย ที่สืบทราบมา ห้อง Dual Key มีเพียง 14 ห้องเท่านั้น ทางโครงการ ได้เก็บไว้ 7 ห้องสุดท้ายเพื่อนำมาขายตอนตึกเสร็จ เดือน มิ.ย.65 นี้ คาดว่าคงจะได้รับความสนใจจองหมดเร็วๆนี้แน่นอน ยังไงลองสอบถามหรือหาข้อมูลได้ที่ Website : thecentrocondo.com หรือ Facebook : thecentrocondo

ข้อมูลโดย

นาย ทรงพล  ศรีวงศ์ทอง

ผู้เชี่ยวชาญด้านงานขายและการตลาด มีประสบการณ์วงการอสังหาริทรัพย์มากว่า 20 ปี ผ่านประสบการณ์บริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งระดับเริ่มต้นบริษัท จนถึง ระดับบริษัทมหาชนระดับ 10,000 ล้าน ผ่านการดูแลโครงการกว่า 100 โครงการ ปัจจุบันทำงานด้านการตลาดบริษัทอสังหาฯระดับมหาชน บริษัทหนึ่ง , เป็นที่ปรึกษาบริษัทอสังหาฯ และ ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กๆ


You must be logged in to post a comment Login