- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 2 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 day ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
SSP โชว์งบสวยหรู Q2/65 กำไรโตกระฉูด 168%
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/06/SSP-300x334.jpg)
บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น(SSP) โชว์ผลงาน Q2/65 กำไรสุทธิพุ่งกระฉูด 168.3% แตะระดับ 644.9 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้กำไรพิเศษจากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะในญี่ปุ่น ส่วนกำไรหลักจากการดำเนินงานโตไม่แพ้กันเพิ่มขึ้น 26.1% ขณะที่บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด อัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น พร้อมกำหนดรายชื่อผู้ได้รับสิทธิวันที่ 25 สิงหาคม 2565 นี้ ฟากบิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” มั่นใจผลงานปีนี้ สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ลุ้นปิดดีล M&A เพิ่ม หลังมีฐานทุนที่แข็งแกร่ง เร่งขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ วางเป้า 2-3 ปี มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือแตะ 500 เมกะวัตต์
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SSP เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงวดไตรมาสที่ 2/2565 อยู่ที่ 644.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 404.5 ล้านบาท หรือ 168.3% จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการรับรู้กำไรพิเศษในไตรมาสที่ 2/2565 จากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกำไร 348.4 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว SSP มีกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาสที่ 2/2565 ที่ 293.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.1% ขณะที่ EBITDA หลักจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 657.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 181.0 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานหลักที่เติบโตต่อเนื่อง ได้รับปัจจัยหนุนรับรู้รายได้ของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ , โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 1 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ ,โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าวินด์ชัยฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 25% และจะเห็นว่า โครงการต่างๆที่บริษัทฯเข้าไปลงทุนล้วนเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จสามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดี
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2565 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 249.8 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date)ในวันที่ 25 สิงหาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 กันยายน 2565
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า สำหรับแผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต โดยมีความคืบหน้าในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ เตรียมจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 2 ปี 2567 และการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ขนาดใหญ่ ในประเทศเวียดนาม ตามแผนพัฒนาพลังงานที่กำลังจะประกาศเร็วๆนี้ โดยบริษัทฯวางเป้าหมายกำลังการเผลิตเพิ่มเท่าตัวแตะ 500 เมกะวัตต์ ภายใน 2-3 ปี จากปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 232 เมกะวัตต์
“ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดว่าพอร์ตโรงไฟฟ้าของ SSP ไม่ได้มีเฉพาะโซลาร์ฟาร์มเพียงเท่านั้น ตลอดช่วงเวลา 1 ปี เราประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนทำให้ SSP เป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเต็มรูปแบบ โดยใช้กลยุทธ์ทำ M&A strategy มากขึ้น รวมถึงการลงทุนใน brown field โดยการเข้าซื้อโครงการใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงอย่างโครงการพลังงานลมและชีวมวล และการขายโครงการโซลาร์ฟาร์มฮิดากะสามารถให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งทำให้มีเงินทุนมาต่อยอดโครงการใหม่ๆ ต่างจากในอดีตที่เราทำแต่ green field โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้เห็นพัฒนาการในการเติบโตอย่างชัดเจน”นายวรุตม์กล่าวในที่สุด
You must be logged in to post a comment Login