- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
พร้อมไม่พร้อมรับน้ำท่วม
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 16 ส.ค. 65)
ช่วงนี้ต้องเรียกกันว่า ข่าวน่ากลัว ข่าวที่สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจอย่างเหลือหลายก็คือ ข่าวน้ำท่วมซัดเศรษฐกิจ “แม่สาย” อ่วม พื้นที่ย่านการค้าสำคัญ “ตลาดสายลมจอย” ได้รับความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท นอกจากนี้ ตลาดท่าล้อ ฝั่งท่าขี้เหล็ก ได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน จึงหวั่นจะกระทบการค้าชายแดน ซึ่งน้ำท่วมที่แม่สายครั้งนี้ ทำให้จังหวัดที่เคยมีชายแดนติดประเทศพม่า เขาบอกว่า น้ำมาจากทางพม่า ท่าขี้เหล็ก ไม่ทราบว่า เราไม่ทันจะเตรียมตั้งท่ารับ หรือรับกันไม่ทันก็เสียหายเป็น 100 – 200 ล้านบาท
นางสาวผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย บอกว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ในฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ถือเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งแรกที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้มาก่อน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ หากมองที่ผลกระทบของฝั่งไทย มีผู้ประกอบการร้านค้ามากกว่า 100 ร้านค้าที่ได้รับผลกระทบ คาดว่าตัวเลขความเสียหายเบื้องต้นราว 200 ล้านบาท
โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้าในตลาดสายลมจอยทั้งหมด ซึ่งถือเป็นย่านการค้าที่สำคัญ รวมถึงร้านค้าที่ตั้งอยู่แนวริมน้ำสาย ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน สำหรับในฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ก็ได้รับความเสียหายรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณตลาดท่าล้อ ซึ่งเป็นย่านการค้าเศรษฐกิจที่สำคัญของท่าขี้เหล็ก ซึ่งพบว่าร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหมด ปัจจุบันด่านชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณแม่สาย-ท่าขี้เหล็กยังคงปิดอยู่จากสถานการณ์โควิด ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้จึงถือเป็นผลกระทบที่เข้ามาซ้ำเติมเศรษฐกิจการค้าแม่สาย ที่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เมื่อไหร่
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องเรียกกันว่า ค่อนข้างจะหนัก และปีนี้ดูข่าวทั่วโลก หลายประเทศ ก็เจอคำว่า หนัก น้ำท่วมหนักจนอยู่ในลักษณะที่เรียกกันว่า มันอาจจะส่งผลไปทางเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งเป็นเมืองที่เรียกว่า ตลาด รายได้ ซื้อขาย จ่ายกันแบบเป็นเมืองเศรษฐกิจอย่างที่ 1 ของจังหวัดภาคเหนือก็ว่าได้ที่เป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดกับพม่า การค้า การขาย เป็นรายได้ที่สูงทางภาคเหนือแห่งหนึ่ง ทีนี้ ถ้าเรามองสถานการณ์ดู กลัวเหลือเกินว่า ทางเจ้าหน้าที่น้ำของเราเตรียมตัวมาดีหรือไม่
กลัวว่า ถ้าเตรียมตัวไม่ดี มันจะร่นมาเรื่อยๆจนภาคเหนือก็น่าจะต้องมาภาคกลาง กรุงเทพฯ ปริมณฑล ซึ่งก็ได้เตรียมประกาศกันแล้ว ทั้งนนทบุรี ทั้งปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ยังไงก็ต้องมาถึงแน่ นี่แหละเขาถึงบอกท่วมๆ แล้งๆนี่ สาหัสทั้งคู่ แต่ว่า ท่วมน่าจะสาหัสกว่าแล้ง พืชผล ต้นไม่ก็ลำบากทั้งคู่ ท่วมก็ตาย แล้งก็ตาย เพราะฉะนั้น ก็ต้องระวังเตรียมตัว เตรียมใจ น้ำมา ก็กรอกน้ำใส่ขวด ใส่ตุ่ม ใส่ถัง โดยเฉพาะที่วัดสวนแก้วปีนี้ เตรียมเต็มที่ เต็มสุดๆ
เรียกว่า กลัวขาดแคลนน้ำ ถ้าไม่ขาดแคลน เราก็ไม่สิ้นเปลือง น้ำประปา ต้นทุนไม่สูง เพราะน้ำฝนเก็บไว้รดทุเรียนได้ อะไรได้ ก็ขอฝากกันว่า ช่วยๆกันนะ อย่าให้ล่มจม เพราะน้ำท่วม เพราะอ่วมมาหลายครั้งแล้ว ควรที่จะระวังตัวให้ดี และสรุปว่า พร้อม ไม่พร้อมนี่ เอาอยู่ ไม่อยู่ ถ้าเอาไม่อยู่ ต้นไม้ พืชผลทางการเกษตรก็จะไม่อยู่กับเรา เมื่อไม่อยู่กับเรา ๆ จะเอาอะไรกิน เอาอะไรใช้ ตรงนี้ต้องคิดใคร่ครวญให้ดี
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login