- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
บุหรี่ไฟฟ้าภัยร้าย : สารตั้งต้นทำลายสมอง
จำได้หรือเปล่ากับโฆษณาที่มีหนูตัวหนึ่งได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่ไฟฟ้า จนไม่สามารวิ่งหาเนย อาหารสุดโปรดของมันได้จากเขาวงกต แม้ว่ามนุษย์จะยกแผงกั้นออกไปแล้วก็ตาม โฆษณาชุดนี้ทำให้เราเห็นว่าแม้แต่หนูตัวเล็กๆยังได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่ไฟฟ้า และถ้าเป็นสมองคนที่ได้รับควันจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเวลานานๆแล้วอะไรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะสมองของเด็กและเยาวชน ที่จะเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
“ไอคิวของเด็กไทยลดลง ถ้าเราเพิ่มปัญหาที่มีต่อสมองจะส่งผลกระทบต่อเด็กที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอีก 20 อีกปีข้างหน้า” จากการกล่าวสรุปถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าของ รศ.นพ.ชัยยศ คงคติธรรม ตัวแทนราชวิทยาลัยกุมารเแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่พูดถึงผลกระทบของควันบุหรี่ไฟฟ้าในการเสวนา “ได้เวลา….เสวนาผลกระทบบุหรี่ไฟฟ้าต่อสุขภาพ” ในงานประชุมวิชาการ “บุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ” ครั้งที่ 20 เรื่อง”บุหรี่ไฟฟ้า : ภัยซ่อนเร้นในสังคม” ที่จัดขึ้นโดยศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ(ศจย.) สำนักงานทองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และเครือข่ายควบคุมยาสูบ
รศ.นพ.ชัยยศ กล่าวว่า สมองของมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตลอดเวลาตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์จนถึงอายุ 25 ปีวัยรุ่นก็เป็นช่วงอายุหนึ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาของสมอง มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ของสมองได้แก่ การเรียนรู้จากประสบการณ์จะกระตุ้นให้มีการเพิ่มขึ้นของการเชื่อมต่อ (synapse) ของเซลล์ประสาท และมีการสูญสลาย (pruning) ของการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทที่ไม่มีการใช้งาน ทำให้การทำงานของสมองที่สำคัญๆ
ในสหรัฐอเมริกาพบว่า ในกลุ่มเด็กและเยาวชนมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น และกลุ่มนักเรียนที่อยู่เกรด 8-9 จะมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้นถึง 3.4 เท่า ส่วนใหญ่เป็นการชักชวนจากเพื่อน และเป็นที่ทราบกันดีว่านิโคตินเป็นสารสำคัญที่มีผลกระทบต่อสมองของเด็ก ดังนั้นนิโคตินที่มีจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำยาที่ใช้สูบ ซึ่งวัยรุ่นเป็นช่วงที่สมองมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ระบบสารสื่อประสาทที่จำเป็นต่อการพัฒนาของสมองในช่วงวัยนี้จะถูกรบกวนโดยตรงจากสารนิโคตินจะถูกดูดซึมได้เร็วกว่าภายใน 7-10 วินาทีจะเข้าสู่สมองไปกระตุ้นตัวรับในเซลล์ประสาท (nicotineacetylcholine receptors) ให้หลั่งโดปามีน ก่อให้เกิดความสุข ความสบาย อารมณ์ดี และทำงานได้ดี แต่ก็จะถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเกิดอาการอยากและ ‘เสพติด’ (addictivity) และมีแนวโน้มที่จะติดสารเสพติดชนิดอื่น เฮโรฮีน โคเคน กัญชา และยาบ้า นอกจากนี้ยังพบว่า หากใช้บุหรี่ไฟฟ้าร่วมกับน้ำมันกัญชายิ่งจะทำให้เกิดอันตรายเพิ่มขึ้นอีก
สมองของเด็กมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบมากขึ้นหากเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อนอายุ14 ปี โดยเด็กที่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าพบว่ามีแนวโน้มที่ประสิทธิภาพการทำางานของสมองลดลงมากกว่าเด็กที่ไม่เคยสูบถึง 3-4 เท่า ที่ผ่านมามีผลงานวิจัยพบความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับประสิทธิภาพการทำางานของสมองลดลง โดยพบว่า ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าสูบบุหรี่ไฟฟ้าประสิทธิภาพการทำางานของสมองลดลงมีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง เช่น ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนหรือการทำงาน ความจำหรือการตัดสินใจแย่ลงกว่าคนที่ไม่สูบ
ทั้งนี้อาจจะกล่าวได้ว่า สมองของคนเราสามารถจะตัวกำหนดได้ว่าเราจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่แบบไหนได้ ดังนั้นการใช้สารนิโคตินจะทำให้สมาธิ การเรียนรู้ ของเด็กแย่ลง ไม่มีความสุข พอไม่มีความสุขก็จะเกิดอาการหงุดหงิด กระสับกระส่าย ซึมเศร้า และจะเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมา
รศ.นพ.ชัยยศ สรุปถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ว่า นิโคตินมีผลต่อการเรียนรู้ และการเติบโตของสมอง รวมถึงปัญหาทาด้านจิตเวชด้วย และนำไปสู่การใช้สารเสพติดของเยาวชน ซึ่งเราต้องพยายามปกป้องสมองของเยาวชนให้ได้มากที่สุด
You must be logged in to post a comment Login