วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับคัมภีร์กุรอาน

On September 2, 2022

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่   2 ก.ย. 65)

มีคนถามว่า “เป็นไปได้ไหมที่คนเขียนกุรอานอาจได้ยินหรืออาจลืมบางส่วนของกุรอานไป?”

คำตอบคือ “ไม่เลยทั้งสิ้นในทุกกรณี”

ขออนุญาตทำความเข้าใจเป็นเบื้องตนเสียก่อนว่านบีมุฮัมมัดมิได้เป็นผู้เขียนคัมภีร์กุรอาน เพราะท่านเป็นผู้ไม่รู้หนังสือและชาวอาหรับในสมัยของท่านรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี  ในคัมภีร์กุรอานซึ่งเป็นบันทึกวจนะของพระเจ้าก็ยืนยันว่านบีมุฮัมมัดมิได้เป็นคนเขียน  เหตุผลที่พระเจ้าเลือกผู้ไม่รู้หนังสือมาทำหน้าที่รับคัมภีร์กุรอานที่เป็นวรรณกรรมอันสูงส่งก็เพื่อที่มนุษย์จะได้ไม่ครหาว่านบีมุฮัมมัดเป็นผู้เขียนคัมภีร์กุรอาน

การประทานคัมภีร์กุรอานแก่นบีมุฮัมมัดเป็นการสื่อสารโดยมีทูตสวรรค์เป็นตัวกลางที่เราไม่อาจมองเห็นเหมือนกับสัญญาณโทรศัพท์หรือกลิ่นที่สัตว์บางชนิดใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน

คัมภีร์กุรอานประกอบไปด้วยข้อความ 6,236 วรรคตอนที่สั้นบางยาวบ้าง  วรรคตอนเหล่านี้ไม่ถูกเรียกว่าประโยค  แต่ถูกเรียกว่า “อายะฮฺ” ที่มีความหมายว่า “สัญญาณ, หลักฐาน, สิ่งมหัศจรรย์” เพื่อยืนยันถึงการมีอยู่ของพระเจ้าองค์เดียว  คัมภีร์กุรอานถูกทยอยประทานแก่นบีมุฮัมมัดตามสถานการณ์เพื่อตอบคำถาม แก้ปัญหาและเป็นทางนำในการดำเนินชีวิต  กว่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ใช้เวลาถึง 23 ปี

เมื่อนบีมุฮัมมัดได้รับวจนะจากพระเจ้า  ท่านจะสั่งสาวกให้บันทึกสิ่งที่ท่านได้ยินไว้บนแผ่นหนัง หลังจากนั้น ท่านจะให้ผู้บันทึกอ่านทบทวนสิ่งที่ท่านบอก  เมื่อท่านยืนยันว่าสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ถูกต้องตรงกับที่ท่านได้รับมา  ท่านก็จะให้ทุกคนอ่านและจดจำตามนั้น

ในการละหมาดวันละห้าเวลาโดยเฉพาะในตอนกลางคืน  นบีมุฮัมมัดจะนำคัมภีร์กุรอานบางตอนหรือบางบทมาอ่านเพื่อให้สาวกที่ละหมาดตามหลังได้ยินและจดจำ และทุกวันนี้ มุสลิมทุกคนเมื่อละหมาดก็จะอ่านคัมภีร์กุรอานบางตอนจากความจำของตัวเอง

ในเดือนรอมฎอนของทุกปี  ทูตสวรรค์จะมาหานบีมุฮัมมัดเพื่อทบทวนว่าท่านได้อ่านกุรอานตามการจัดเรียงอย่างถูกต้องตามพระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่ และในเดือนรอมฎอนปีสุดท้ายของนบีมุฮัมมัด  ทูตสวรรค์ได้มาทบทวนกุรอานกับท่านถึงสองครั้ง  ในเวลานั้น มีสาวกหลายคนของท่านสามารถจดจำคัมภีร์กุรอานได้ทั้งหมดแล้ว

ในสมัยของนบีมุฮัมมัด  คัมภีร์กุรอานมิได้อยู่ในรูปเล่มเหมือนปัจจุบัน  แต่อยู่ในความจำและแผ่นบันทึกที่มีทั้งหนังสัตว์  กระดูกสัตว์และแผ่นไม้  แต่เนื่องจากสาวกหลายคนที่จดจำคัมภีร์กุรอานได้ต้องเสียชีวิตในสงครามและแผ่นบันทึกคัมภีร์กุรอานเป็นวัสดุที่ไม่คงทน  หลังจากนบีมุฮัมมัดเสียชีวิตได้ประมาณสามสี่ปี  การรวบรวมกุรอานเป็นรูปเล่มจึงเกิดขึ้น  แผ่นบันทึกกุรอานที่มีอยู่ทั้งหมดได้ถูกนำมารวมกันโดยมีกลุ่มสาวกที่สามารถจดจำกุรอานได้มาตรวจสอบและมีผู้คอยจดบันทึกเพื่อจัดทำต้นฉบับ

เมื่อบรรดาสาวกตรวจสอบความถูกต้องตรงกันครบถ้วนแล้ว  วัสดุต่างๆที่บันทึกคัมภีร์กุรอานไว้ได้ถูกทำลายทิ้งหมดเพื่อมิให้เกิดการตัดเสริมเติมแต่งในวันข้างหน้า  ต้นฉบับคัมภีร์กุรอานจึงเกิดขึ้นและถูกใช้เป็นแหล่งทำสำเนาเพื่อส่งไปยังหัวเมืองต่างๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิมในยุคของเคาะลีฟะฮฺอุษมาน

เมื่อมีการพัฒนาเรื่องตัวเลขในอินเดียในศตวรรษที่ 8 และพวกพ่อค้าได้นำตัวเลขไปยังโลกอาหรับและยุโรปในศตวรรษที่ 9  ต้นฉบับคัมภีร์กุรอานซึ่งเดิมทีไม่มีตัวเลขบอกวรรคตอน(อายะฮฺ)และบท(ซูเราะฮฺ) จึงได้นำตัวเลขวรรคตอนและบทมาใส่ในคัมภีร์กุรอาน  นอกจากนี้แล้ว เนื่องจากต้นฉบับดั้งเดิมที่เป็นภาษาอาหรับไม่มีสระกำกับซึ่งอาจทำให้คนรุ่นหลังอ่านผิด จึงได้มีการนำสัญลักษณ์สระมาใส่ดังที่เห็นในคัมภีร์กุรอานที่เป็นรูปเล่มในปัจจุบันเพื่อให้ทุกคนอ่านกุรอานเหมือนกับที่ท่านนบีมุฮัมมัดอ่าน

คัมภีร์กุรอานเป็นวจนะของพระเจ้า  พระองค์จะเป็นผู้รักษากุรอานไว้โดยการที่ในปัจจุบัน นอกจากกุรอานจะถูกบันทึกด้วยการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มแล้ว  กุรอานยังอยู่ในความจำของมุสลิมทั่วโลกอีกนับแสนคน


You must be logged in to post a comment Login