- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 day ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
“โลตัส” เตรียมออกหุ้นกู้ครั้งแรก ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/09/001-17.jpg)
“โลตัส” (Lotus’s) ผู้นำค้าปลีก New SMART Retail ดำเนินงานภายใต้ชื่อจดทะเบียน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (“บริษัทฯ”) เตรียมเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบันได้จองซื้อหุ้นกู้ที่จะออกและเสนอขายเป็นครั้งแรก จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วยหุ้นกู้รุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยรอประกาศ, และรุ่นอายุ 3 ปี, อายุ 5 ปี และอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ โดยคาดว่าอยู่ระหว่าง 3.00-4.00% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและของหุ้นกู้ที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่” โดย ทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 พร้อมแต่งตั้งสถาบันการเงินชั้นนำ 8 แห่ง คาดเสนอขายในเดือนตุลาคม 2565 มั่นใจเป็นโอกาสที่ดีและเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่แสวงหาการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่งทั้งฐานะการเงินและโอกาสการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงยังเป็น “ครั้งแรก” กับการลงทุนในหุ้นกู้ของธุรกิจค้าปลีกแบบ omni-channel
บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำขนาดใหญ่ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยรอประกาศ, อายุ 3 ปี ประมาณการช่วงอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้น [3.00-3.25]% ต่อปี, อายุ 5 ปี ประมาณการช่วงอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้น [3.30-3.55]% ต่อปี และอายุ 7 ปี ประมาณการช่วงอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้น [3.75-4.00]% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศอีกครั้งในภายหลัง เสนอขายให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย 8 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเสนอขายในเดือนตุลาคม 2565
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/09/004-13.jpg)
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า การออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของผู้ลงทุนที่จะได้ลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทฯ ที่มีโอกาสเติบโตอย่างมีศักยภาพในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต โดยบริษัทฯ มั่นใจว่า หุ้นกู้ “โลตัส” (Lotus’s) จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนรายใหญ่และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน
ทั้งนี้ หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A+” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งอยู่ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยเป็นการจัดอันดับ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2565 สะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกแบบ omni-channel ที่มีช่องทางหลากหลายและครอบคลุม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยทริสเรทติ้งระบุว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของบริษัทฯ ยังมีปัจจัยเสริมความแข็งแกร่งจากการมีพื้นที่เช่าในทำเลที่ดีและลักษณะของธุรกิจค้าปลีกที่สร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยคาดว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งในธุรกิจค้าปลีกและพื้นที่ให้เช่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ของโรคระบาดที่ดีขึ้น และเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/09/002-15.jpg)
ปัจจุบัน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) ถือเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกแบบ omni-channel ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายหลายรูปแบบ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 “โลตัส” (Lotus’s) มีร้านค้าปลีกจำนวน 2,597 แห่งทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต 224 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 202 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต 2,171 แห่ง ซึ่งธุรกิจในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนระบบการกระจายสินค้าและเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายร้านค้าทั้ง 2,597 แห่งทั่วประเทศในการเป็น fulfillment center จัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั่วประเทศไทย รวมทั้งยังร่วมมือกับธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Marketplace) อาทิ Grab, Shopee และ Lazada เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภค ตลอดจนการเปิดตัวธุรกิจใหม่ ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งสะท้อนการปรับตัวของ “โลตัส” (Lotus’s) ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า โดยมีพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 201 แห่ง (ไม่รวมศูนย์การค้าที่มีการลงทุนโดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท หรือ LPF จำนวน 23 แห่ง) มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 784,612 ตารางเมตร โดยมีร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตของ “โลตัส” (Lotus’s) เป็นร้านค้าหลัก โดยในจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมด บริษัทฯ ถือกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าจำนวน 69 แห่ง ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ของศูนย์การค้าอยู่ที่ประมาณ 89% และบริษัทฯ ถือหน่วยลงทุน 25% ในกองทุนรวม LPF ที่ลงทุนในศูนย์การค้า 23 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 339,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ ผลประกอบการในปี 2563 (ระหว่าง 1 มีนาคม 2563-28 กุมภาพันธ์ 2564) บริษัทฯ มีรายได้รวม 174,932 ล้านบาท ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 (ระหว่าง 1 มีนาคม 2564-31 ธันวาคม 2564) บริษัทฯ มีรายได้รวม 143,854 ล้านบาท และจากผลประกอบล่าสุดครึ่งปีแรกของปี 2565 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2565) บริษัทฯ มีรายได้รวม 91,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 85,114 ล้านบาท ส่งสัญญาณในทิศทางบวกจากการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจ ซึ่งเป็นผลจากการที่สามารถเปิดให้บริการศูนย์การค้าได้ตามปกติ
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/09/003-12.jpg)
“จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ “โลตัส” (Lotus’s) สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสในการเติบโต แม้ว่า ที่ผ่านมาในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ “โลตัส” (Lotus’s) ก็สามารถผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านั้นมาได้ โดยเรายังคงพร้อมที่จะช่วยให้ลูกค้าของเรา “รู้สึกดีดีทุกวัน ที่โลตัส” ด้วยการจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง และการส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อผ่านช่องทาง omni-channel ควบคู่ไปกับการทำสิ่งที่ดีเพื่อลูกค้า พนักงานและชุมชน โดยปัจจุบัน เราให้บริการลูกค้ากว่า 11 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ผ่านช่องทางออมนิแชนนัล ทั้งออนไลน์และผ่านสาขา เรายังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน บนหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตลอดจนความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ สังคม และส่วนรวม ซึ่งเชื่อว่า การดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลา 28 ปีของ “โลตัส” (Lotus’s) จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ” นายสมพงษ์กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบันที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ Lotus’s สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้
สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ ติดต่อผ่านสถาบันการเงินทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วย
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือ 02-645-5555
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร 0-2111-1111
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร 1428 กด#4
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-285-1555
บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-165-5555
* ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
** ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน ติดต่อผ่านสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
You must be logged in to post a comment Login