- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
โลกนี้ไม่มีความยุติธรรมที่แท้จริง
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 30 ก.ย. 65)
ถ้าความยุติธรรมหมายถึงความเสมอเหมือนกันทุกอย่าง บางที ความเสมอเหมือนกันอาจทำให้บางคนเกิดความไม่พอใจก็เป็นได้ เช่น ถ้าพ่อซื้อเสื้อขนาดเดียวกันให้ลูกสามคนที่มีรูปร่างแตกต่างกัน ลูกคนที่ได้เสื้อขนาดพอดีตัวก็คงดีใจ แต่ลูกอีกสองคนที่ได้เสื้อขนาดเล็กหรือใหญ่กว่าตัวคงไม่พอใจเป็นแน่
ความยุติธรรมจึงไม่ได้หมายถึงการที่ทุกคนได้รับสิ่งที่เหมือนกัน แต่หมายถึงการที่แต่ละคนควรจะได้รับสิ่งที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง ที่ไหนไม่มีความยุติธรรม ที่นั้นจะไม่มีความสุข
ในอิสลาม พระเจ้ามีพระนามและคุณลักษณะอย่างหนึ่งคือผู้ทรงยุติธรรม ดังนั้น เมื่อพระเจ้าสร้างมนุษย์ พระองค์จึงประทานคุณสมบัติแห่งความยุติธรรมให้เป็นคุณสมบัติทางธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์ ดังนั้น มนุษย์จึงมีความรู้สึกเรื่องความยุติธรรมตั้งแต่เด็ก
นักเรียนประถมรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมได้ทันทีถ้าครูไม่สอนวิชาใด แต่ครูจะให้สอบวิชานั้น หรือครูให้นักเรียนสอบ แต่ไม่ประกาศผลสอบ หรือให้คะแนนสอบไม่ยุติธรรม
โลกใบนี้เป็นเหมือนห้องสอบที่พระเจ้าผู้สร้างมนุษย์ต้องการทดสอบว่ามนุษย์เลือกที่จะทำความดีหรือทำความชั่ว และเฉลยข้อสอบได้ถูกส่งมาแล้วในรูปคำสอนของศาสนาที่บอกให้มนุษย์รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว อะไรจริงอะไรเท็จตั้งแต่มีมนุษย์บนโลกใบนี้
แต่เมื่อคนชั่วมีอำนาจ การให้คะแนนสอบการทำความดีและความชั่วของมนุษย์ในโลกนี้จึงผิดเพี้ยนไป ความยุติธรรมที่แท้จริงและสมบูรณ์จึงไม่มีบนโลกใบนี้ คนทำดีบางคนจึงยังไม่ได้รับรางวัลตอบแทนหรือได้รับอย่างไม่เหมาะสม ส่วนคนชั่วบางคนรอดพ้นจากการถูกลงโทษเพราะผู้มีอิทธิพลให้ความช่วยเหลือหรือถูกลงโทษอย่างไม่สาสม หรือบางคนยังไม่ทันถูกลงโทษก็ตายเสียก่อน หรืออาชญากรสงครามที่สังหารชีวิตผู้คนจำนวนมากไม่สามารถที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาเพื่อรับโทษประหารชีวิตสำหรับทุกคนที่ตัวเองสังหารไปได้อีก
เมื่อโลกนี้ไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมได้ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่พระเจ้าประกาศว่าพระองค์เป็นผู้ทรงยุติธรรม ดังนั้น พระองค์จึงต้องสร้างความยุติธรรมขึ้นในอาณาจักรของพระองค์ที่อยู่นอกโลกแห่งชีวิตชั่วคราวของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ทุกศาสนาต่างมีคำสอนเรื่องโลกหน้าไว้ในรูปของสวรรค์และนรกเป็นสิ่งตอบแทนอย่างยุติธรรมสำหรับมนุษย์
ในคำสอนของอิสลาม การกระทำของมนุษย์อยู่ภายใต้การเฝ้ามองของพระเจ้าตลอดเวลาและการเฝ้ามองของพระเจ้านั้นมิได้มองแค่เพียงการกระทำที่แสดงออกมาเท่านั้น แต่พระเจ้ายังมองลึกไปถึงเจตนาอันเป็นที่มาของการกระทำด้วยและการกระทำจะถูกตัดสินจากเจตนา มนุษย์ทุกคนจะมีทูตสวรรค์เฝ้าติดตามเพื่อบันทึกการกระทำทุกอย่างไว้และบันทึกการกระทำนี้จะถูกนำขึ้นไปเก็บไว้ที่พระองค์ในทุกวันพฤหัส
ในทุกการละหมาด มุสลิมทุกคนถูกกำหนดให้อ่านข้อความจากคัมภีร์กุรอานตอนหนึ่งเพื่อย้ำเตือนตัวเองว่า “พระเจ้าเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในวันพิพากษา” ดังนั้น เมื่อวันพิพากษาหลังวันโลกาอวสานมาถึง บัญชีความดีความชั่วของมนุษย์ทุกคนจะรออยู่ที่นั่นแล้ว การตัดสินของพระเจ้าไม่ต้องอาศัยพยาน เพราะบันทึกการกระทำของแต่ละคนอยู่ที่พระเจ้าแล้ว และอวัยวะที่มนุษย์ใช้กระทำสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หู ตาจะเป็นพยานยืนยันให้เอง
คัมภีร์กุรอานกล่าวว่าในวันนั้น ใครที่ทำความดีแม้เพียงอณูหนึ่งก็จะได้เห็นความดีนั้น และใครที่ทำความชั่วแม้เพียงอณูหนึ่งก็จะได้เห็นความชั่วนั้น หลังจากนั้น ความยุติธรรมอย่างแท้จริงและสมบูรณ์ก็จะเกิดขึ้น ทุกคนจะได้รับการตอบแทนตามที่ตัวเองสมควรจะได้รับ
คนที่มีความเชื่อในโลกหน้าจึงสามารถอดทนต่อความไม่ยุติธรรมในโลกนี้และมีความหวังที่จะได้รับความยุติธรรมจากพระเจ้าในโลกหน้า
You must be logged in to post a comment Login