- ตำรวจไทยโชว์ฝีมือPosted 48 mins ago
- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 22 hours ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 2 days ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 3 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 6 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 7 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
สนจ. จัดงาน “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2565” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระปิยมหาราช
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/10/004-38.jpg)
สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนจ.) จัดแถลงข่าว “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2565” เชิญคนไทยน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระปิยมหาราช พระผู้พระราชทานกำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมชวนคนรุ่นใหม่บริจาคเลือด “เติม ‘เลือดใหม่’ ช่วยคนไทย ไม่ขาดเลือด” ผ่าน Line OA ‘เลือดใหม่’ โดยมี อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นายกสมาคมฯ, ผศ. ดร. ชัยพร ภู่ประเสริฐ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานปิยมหาราชานุสรณ์ 2565 ร่วมแถลง ณ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/10/001-41.jpg)
ผศ. ดร. ชัยพร ภู่ประเสริฐ รองอธิการบดี จุฬาฯ กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “ในทุกๆ ปีที่ผ่านมา เมื่อถึงวันปิยมหาราช พวกเราชาวจุฬาฯ จะจัดงานปิยมหาราชานุสรณ์ขึ้น โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Siam Renaissance” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระปิยมหาราช ธ ผู้ทรงพระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ และทรงเล็งเห็นว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันสมัยเทียบเท่าอารยประเทศ จึงบุกเบิก ด้านการศึกษา ทรงจัดตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของประเทศไทย โดยถือกำเนิดจากโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน ณ ตึกยาวข้างประตูพิมานชัยศรีในพระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ. 2442 และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมหาดเล็ก เมื่อ 1 เมษายน พ.ศ. 2445 ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเล็งเห็นว่า ภาคราชการและเอกชนมีความต้องการบุคลากรทำงานในสาขาวิชาต่างๆ กว้างขวางมากขึ้น จึงทรงมีพระราชดำริขยายการศึกษาสู่ประชาชนทั่วไปที่ต้องการศึกษาขั้นสูง และทรงโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อเป็น “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2459
สำหรับจุฬาฯ ก้าวสู่ปีศตวรรษที่ 2 ได้น้อมนำระบบบริหารราชการแผ่นดินที่จำเป็นต้องผลิตบุคลากรที่มีความเป็นเลิศ จึงได้วางรากฐานสำคัญด้าน Future Leader เป็นผู้นำแห่งอนาคต ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในยุคนี้ พร้อมนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าแข่งขันได้บนเวทีโลก และด้าน Impactful Research & Innovations ที่ต้องควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนหรือ Sustainability ด้วยเช่นกัน”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/10/002-41.jpg)
นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่รับใช้ประชาชน สมเกียรติภูมิของชาวจุฬาฯ และขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนชาวจุฬาฯ และชาวไทยทุกหมู่เหล่าร่วมรำลึกถึงพระปิยมหาราชพระผู้เป็นที่รักและเทิดทูนยิ่ง โดยทุกปี สนจ. จะจัดงานปิยมหาราชานุสรณ์ รวมถึงจะมีการระดมทุนจุฬาสงเคราะห์ให้กับนิสิตที่อาจมีปัญหาด้านค่าครองชีพ เพื่อดูแลค่าเทอม ค่าหอพัก อุปกรณ์การเรียน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว จนจบการศึกษา ปัจจุบันยังคงให้ทุนมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ซึ่งในปีที่ผ่านมา สามารถจัดสรรทุนได้ 476 ทุน รวมถึง ทุนอาหารกลางวัน ซึ่งปรับจากในอดีตที่ใช้อาคาร สนจ. เป็นโรงอาหารเป็นการให้ทุนรายเดือน
นอกจากนี้ สนจ. ยังมีกิจกรรมด้านสาธารณกุศลอื่นๆ เช่น โครงการข้าวแสนกล่อง กล่องรอดตาย เกิดขึ้นในยามที่ประเทศเกิดวิกฤติ และจัดหาทุนให้กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจในพระอุปภัมภ์ เป็นต้น ล่าสุดได้เปิดกิจกรรมใหม่“CU-DSR : เติมเลือดใหม่ ช่วยคนไทย ไม่ขาดเลือด” ชวนคนรุ่นใหม่ทั่วไทยมาบริจาคโลหิตวิถีใหม่ เพียงแอด Line OA “เลือดใหม่” ลงทะเบียนนัดหมายเตรียมบริจาคเลือดล่วงหน้าได้ทั้งปี 1 ปี บริจาคเลือดได้ 4 ครั้ง ใกล้ที่ไหน ไปบริจาคที่นั่น”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/10/003-42.jpg)
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานฯ กล่าวเสริมว่า “งานปิยมหาราชานุสรณ์ 2565 ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Siam Renaissance” นำพาคนไทยย้อนกลับไปซึมซับพระราชกรณียกิจแห่งการวางรากฐานและพระราชทานกำเนิดกิจการต่างๆ จนรุ่งเรืองจวบจนถึงปัจจุบัน
ในปีนี้ เราได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานองค์กรในกิจการต่างๆ มาร่วมกันเทิดพระเกียรติ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายทั้งแบบออนกราวด์และออนไลน์ อาทิ ผลงาน Digital Art ชุด “Siam Renaissance” นำภาพเก่ามาเล่าใหม่ให้ร่วมสมัยโดนใจคนทุกวัย กิจกรรมเพื่อระดมทุนบริจาคให้กับทุนจุฬาสงเคราะห์ และทุนอาหารกลางวัน รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ สามารถร่วมบริจาคกันได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่าน 5 ช่องทาง
- สแกน QR Code เข้าสู่เว็บบริจาค www.chula-alumni.com/donation
- App CHAM
- LINE OA “CHULA ALUMNI” เลือกเมนู “บริจาค”
- K Plus ที่ฟีเจอร์ K Plus Market และ TTB ให้เข้าไปที่ “ปันบุญ”
- บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 038-4-62388-9 ชื่อบัญชี “สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/10/005-28.jpg)
สำหรับ กิจกรรมตลอดทั้งวันปิยมหาราชานุสรณ์นี้ ภาคเช้าพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพระบรมรูปทรงม้า ลานพระราชวังดุสิต ภาคค่ำ “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2565 : The Charity Gala Night” ณ ศาลาพระเกี้ยว กับคอนเสิร์ตการกุศล โดยนักร้องและศิลปินนิสิตเก่าจุฬาฯ ชื่อดัง นำโดย รัดเกล้า อามระดิษ, วสุ แสงสิงแก้ว, รศ.ดร.นรอรรถ จันทร์กล่ำ, กิตตินันท์ ชินสำราญ, น้ำฝน ภักดี, รัฐพงศ์ ปิติชาญ ติดตามรับชม Live สดได้ทาง FB page : MONO29, Chulalongkorn University และ Chula Alumni”
ในส่วนของการบริจาคเลือดกับกิจกรรม “ผนึกกำลัง CU–DSR : จุฬาฯชวน เติม ‘เลือดใหม่’ ช่วยคนไทยไม่ขาดเลือด” นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยกล่าวถึงภาวะการขาดแคลนเลือดว่า “ปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการใช้เลือดประมาณวันละ 7,000 – 9,000 ยูนิต แต่สามารถจ่ายโลหิตเฉลี่ยได้เพียงวันละ 3,000 ยูนิต โดยผู้ที่สามารถบริจาคเลือดได้จะอยู่ในช่วงอายุ 18 – 70 ปี ตามกำหนดของสภากาชาดไทย และในแต่ละปีกลุ่มผู้สูงอายุที่นิยมบริจาคเลือดต่างล้มหายตายจากไป ในขณะที่คนรุ่นใหม่ไม่นิยมบริจาคเลือด ทำให้ทุกวันนี้ สภากาชาดไทยต้องประสบกับสภาวะการขาดแคลนเลือดอย่างหนัก จึงหวังว่ากิจกรรมครั้งนี้จะสามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้มาร่วมชุบชีวิต เป็นการได้บุญกุศลอย่างยิ่งใหญ่”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/10/006-22.jpg)
ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกิจกรรม CU-DSR กล่าวเสริมว่า “สนจ. เรามีเครือข่ายนิสิตจุฬาฯ อยู่ทั่วทุกมุมโลก และเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จึงมีการรับบริจาคและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันเสมอ โดยที่ผ่านมา สนจ. ได้ปรับแนวทางการดำเนินงานให้เป็น สนจ. 4D โดย D ตัวที่ 4 นั่นคือ DSR : Digital Social Responsibility กิจกรรมเพื่อสังคมแบบออนไลน์ให้รองรับกับทุกสถานการณ์ และที่ผ่านมา ได้นำเงินบริจาคส่วนหนึ่งมาจัดซื้อ Tablet ให้กับนิสิต เพื่อเข้าร่วมในกิจกรรม สนจ. แบ่งเป็น 8 ด้านตามความสนใจ ได้แก่ Startups, Esport, Chula the master, Media Content, Music Charity, ICT Support, กล่องรอดตาย และ CU Blood โดยปรัชญาในการทำกิจกรรมยังคงเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลง คือ การปรับกิจกรรมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยนำหลักคิด Digital Platform มาใช้ในการสื่อสาร”
นางสาวภัทรพร เลิศศิริโรจน์ นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ในฐานะประธานโครงการ CU Blood เชิญชวนให้มาร่วมกันบริจาคเลือด กล่าวว่า “ปีนี้เราตั้งเป้าเชิญชวนคนรุ่นใหม่ ช่วยกันเติมเลือดใหม่ โดยจะสื่อสารผ่าน Line OA “เลือดใหม่” เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย สามารถบริจาคเลือดที่ไหนก็ได้ที่รับบริจาคใกล้บ้าน เพียงแจ้งรหัสที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น ก็ได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมนี้แล้ว และทุกครั้งที่บริจาคเลือด ยังมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากองค์กรพันธมิตรของ สนจ. เพิ่มขึ้นอีกด้วย และเมื่อใกล้ถึงวันบริจาคเลือด Line OA เลือดใหม่ ยังจะช่วยเตือนล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการทำดีอีกด้วย”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/10/007-22.jpg)
สำหรับกิจกรรมในงานปิยมหาราชานุสรณ์ 2565 และกิจกรรมต่างๆ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ทางเพจ Chulalongkorn University และ Chula Alumni และสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ และสามารถร่วมบริจาคกันได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่าน 5 ช่องทาง
- สแกน QR Code เข้าสู่เว็บบริจาค www.chula-alumni.com/donation
- App CHAM
- LINE OA “CHULA ALUMNI” เลือกเมนู “บริจาค”
- K Plus ที่ฟีเจอร์ K Plus Market เลือกเมนูบริจาค และTTB ให้เข้าไปที่ “ปันบุญ”
- บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 038-4-62388-9 ชื่อบัญชี “สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์”
You must be logged in to post a comment Login