วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

จริงหรือที่คัมภีร์กุรอานคัดลอกมาจากคัมภีร์ไบเบิล

On November 4, 2022

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่   4 พ.ย.  65)

หลายคนสงสัยว่าทำไมคัมภีร์กุรอานจึงมีเรื่องราวของบุคคลสำคัญๆที่คัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว  ความสงสัยนี้ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่านบีมุฮัมมัดไปคัดลอกเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลมาตัดเสริมเติมแต่งแล้วนำมาใส่ไว้ในคัมภีร์กุรอาน

ขอเรียนว่าคัมภีร์ไบเบิลประกอบด้วยโตราห์หรือกฎหมายที่พระเจ้าประทานแก่โมเสสเพื่อใช้ในการปกรครองพวกลูกหลานอิสราเอล  หลังจากนั้น เมื่อโตราห์ได้รับความเสียหาย  พระเจ้าจึงประทานกฎหมายอีกฉบับหนึ่งแก่เดวิดผู้ก่อตั้งอาณาจักรอิสราเอล ใจความสำคัญของกฎหมายที่พระเจ้าประทานแก่เดวิดและโมเสสส่วนหนึ่งสามารถหาได้ในพันธสัญญาเก่าของคัมภีร์ไบเบิล

หลังสมัยกษัตริย์โซโลมอน  อาณาจักรอิสราเอลล่มสลาย  พวกลูกหลานอิสราเอลต้องตกเป็นทาสของชาติอื่น พวกลูกหลานอิสราเอลจึงไม่ได้ใช้กฎหมายจากคัมภีร์ของตน  เมื่อกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียปลดปล่อยพวกลูกหลานอิสราเอลให้เป็นอิสระ พวกลูกหลานอิสราเอลจึงกลับไปยังเมืองเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่งและสร้างโบสถ์หลังที่สองขึ้นมา

ถึงแม้ลูกหลานอิสราเอลบางคนพยายามรวบรวมคำสอนในคัมภีร์ที่พระเจ้าประทานแก่โมเสสและเดวิดขึ้นมาใหม่  แต่ความพยายามนี้ได้ทำให้คำสอนสำคัญๆที่เป็นคำสอนหลักถูกปกคลุมไปด้วยเรื่องราวและตำนานต่างๆที่จริงบ้างเท็จบ้าง  ในที่สุด พระเจ้าได้ประทานคัมภีร์แก่เยซัสไครสต์เพื่อมายืนยันธรรมบัญญัติเดิมของพระองค์ที่ถูกประทานแก่โมเสสและเดวิด

คัมภีร์ที่พระเจ้าประทานแก่เยซัสไครสต์นี้ถูกเรียกในภาษาอาหรับว่า “อินญีล” ความจริงแล้ว สิ่งที่เรียกว่าคัมภีร์นี้ก็คือกฎหมายที่ใช้ในการปกครองพวกลูกหลานอิสราเอล  แต่เยซัสไครสต์ไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อเป็นผู้ปกครองทางโลก แต่ถูกส่งมาเพื่อรวบรวมและนำทาง “ฝูงแกะอิสราเอล”  ดังนั้น  เมื่อความพยายามของท่านสร้างความกระทบกระเทือนแก่กลุ่มที่มีอิทธิพลในพวกลูกหลานอิสราเอล  ท่านจึงถูกกำจัด

หลังสมัยเยซัสไครสต์  คำสอนและเรื่องราวของท่านได้ถูกบันทึกไว้โดยสาวกผู้ใกล้ชิดซึ่งสามารถหาอ่านได้ในคัมภีร์ไบเบิลฉบับพันธสัญญาใหม่ที่มีหลายฉบับเนื่องจากมีการแก้ไขปรับปรุงโดยคริสตจักร

หลักคำสอนสำคัญของโมเสส  เดวิดและเยซัสไครสต์คือการศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวและการเชื่อฟังคำบัญชาของพระองค์  แต่พอบุคคลทั้งสามจากไป  ผู้คนได้หันมาทำวัตถุบูชาเพื่อเคารพสักการะกันอีก พวกลูกหลานอิสราเอลจึงประสบการลงโทษจากพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง

หลังสมัยเยซัสไครสต์ 70 ปี (ค.ศ.70)  เมืองเยรูซาเล็มรวมทั้งโบสถ์หลังที่สอง ศูนย์กลางทางด้านจิตวิญญาณของพวกลูกหลานอิสราเอลถูกกองทัพโรมันทำลาย พวกลูกหลานอิสราเอลต้องแตกกระจัดกระจายหนีไปหลบภัยอยู่ในประเทศต่างๆ  ในจำนวนนี้มีสามเผ่าอพยพมาอยู่ในเมืองยัษริบหรือเมืองมะดีนะฮฺในคาบสมุทรอาหรับ

อย่างไรก็ตาม  ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน  พวกลูกหลานอิสราเอลยังคงยึดถือคำสอนในคัมภีร์ของตนและมีความทะนงว่าเผ่าพันธุ์ของตนเป็นกลุ่มชนที่พระเจ้าทรงเลือกเพราะพวกตนมีบรรพบุรุษที่เป็นนบีหลายคนและเป็นกลุ่มชนที่มีการศึกษาเพราะพวกตนมีคัมภีร์ที่บรรพบุรุษได้รับมาจากพระเจ้า และในคัมภีร์ของชาวยิวนี้เองที่พูดถึงการมาของนบีที่พระเจ้าจะส่งมาช่วยเหลือพวกตนเหมือนกับที่พระเจ้าเคยส่งโมเสสมาช่วยให้พ้นจากการถูกกดขี่ข่มเหงโดยฟาโรห์

หลังจากสมัยเยซัสไครสต์ 610 ปี ในแผ่นดินอาหรับ มุฮัมมัดได้ประกาศตัวเป็นนบี  แต่พวกลูกหลานอิสราเอลไม่ยอมรับ เพราะคนพวกนี้ถือว่าถ้าพระเจ้าจะให้มีนบีเกิดขึ้น นบีต้องมาจากพวกลูกหลานอิสราเอลเท่านั้น ทั้งนี้เพราะชาวอาหรับเป็นคนเถื่อนไร้การศึกษาในสายตาของพวกลูกหลานอิสราเอล นบีมุฮัมมัดเองก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเป็นผู้ไม่รู้หนังสือและบรรพบุรุษของชาวอาหรับไม่เคยเป็นนบีหรือมีคัมภีร์ที่พระเจ้าประทานให้

ด้วยเหตุนี้เองที่พระเจ้าได้ประทานเรื่องราวของนบีต่างๆในอดีตที่มีกล่าวไว้ในคัมภีร์ก่อนๆและพวกลูกหลานอิสราเอลรู้ดีแก่นบีมุฮัมมัด ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักฐานและความมหัศจรรย์ยืนยันการเป็นนบีของท่าน


You must be logged in to post a comment Login