- อย่าไปอินPosted 21 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ครั้งแรกของมหกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะและอาชีพอย่างยั่งยืน ไทยแลนด์ ไลฟ์ลอง เลิร์นนิ่ง แอนด์ เอ็ดดูเคชัน เอ็กซ์โป 2022
กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ อิมแพ็ค เตรียมจัดงานมหกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะและอาชีพอย่างยั่งยืน หรือ Thailand Lifelong Learning & Education Expo 2022 รวมผู้ประกอบการด้านการศึกษาและการพัฒนาตนเองกว่า 200 ราย นำเสนอบริการสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะแห่งอนาคต เพื่ออัพสกิล-รีสกิล ให้กับทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยทำงาน วัยเกษียณ รวมถึงผู้มีความบกพร่องด้านต่างๆ ระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2565 ณ อาคาร 8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดมีองค์กร หน่วยงาน และผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 15,000 รายจากทั่วประเทศ
นางสุดคนึง ขัมภรัตน์ นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย กล่าวระหว่างการเสวนาหัวข้อ “ทักษะแห่งอนาคต (Future Skill) ปรับทักษะเดิม (Up skill) และค้นหาทักษะใหม่ (Reskill)” ภายในงานแถลงข่าวความพร้อมจัดงานไทยแลนด์ ไลฟ์ลอง เลิร์นนิ่ง แอนด์ เอ็ดดูเคชัน เอ็กซ์โป 2022 ว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก สิ่งที่หลายคนต้องตระหนักถึงคือความเข้าใจตนเองที่เป็นชุดความรู้ที่สำคัญ เพราะการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติ ดังนั้น ถ้าเข้าใจโลก เราจะเรียนรู้ว่าควรจะพัฒนาตนเองไปในทิศทางไหนให้อยู่ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะ Digital Skill หรือทักษะทางดิจิทัล เพราะเราต้องอยู่กับดิจิทัล ไม่ว่าจะอายุเท่าไรหรืออาจจจะไม่ชอบ แต่ต้องทำความเข้าใจ ยอมรับกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เพราะต่างก็มีผลกับชีวิตได้
ยุคดิจิทัลเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ต้องปรับตัวการทำงาน หลายๆ องค์กรปรับเข้าสู่รูปแบบ Hybrid Working แต่อย่างไรก็ตามต้องอยู่ภายใต้แนวคิด Win-Win คือจะทำอย่างไรให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการและผู้ทำงานเกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องมุ่งเน้นในแกน 2 เรื่องด้วยกัน คือ สถานที่ และ เวลา ทุกฝ่ายต้องคุยกันเรื่องความเหมาะสม Win-Win Productivity รวมไปถึง Well-being ประสิทธิภาพงาน คุณภาพชีวิตของพนักงาน แต่หากต้องการอยากทำงานรูปแบบใหม่ให้ยั่งยืน ควรจะให้กำหนดเป็นนโยบายและต้องมีวัฒนธรรมในการเชื่อมั่น เชื่อใจ ซึ่งกันและกันด้วย และยังมีสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเรื่องการวัดผลจะวัดผลการทำงานและตอบแทนพนักงานอย่างไรให้เหมาะสม
นายโอชวิน จิรโสตติกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Future Skill เทรนด์ของ Soft Skills เป็นสิ่งที่เราต้องใช้เมื่อเราต้องทำงานกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีมหรือลูกน้องของเราเพราะว่าเราไม่ได้ทำงานคนเดียวทักษะตรงนี้จึงสำคัญกับทุกๆคน ซึ่งจะมี Soft skills อยู่สามหมวดหมู่ที่เราจะต้องพัฒนาสิ่งแรกคือทักษะการสื่อสาร ทักษะการเป็นผู้นำและการบริหาร รวมไปถึงทักษะการทำงานร่วมกัน “แพลตฟอร์มออนไลน์ในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมาก สมัยก่อนการเรียนออนไลน์เป็นแค่การนั่งดูวีดีโออย่างเดียวแต่ในยุคจะมีการโต้ตอบกันมากขึ้น เช่น มีการให้เราลงมือทำการ มีการทำ Project และการทำ Peer feedback การเรียนออนไลน์เหมาะกับชุดทักษะเล็กๆ เรียนระยะสั้น แต่ถามว่าถ้าเราเรียนแค่ Soft skills ได้ไหม? ต้องบอกว่าได้ แต่เราต้องนำสกิลเหล่านั้นออกไปฝึกฝนด้วย พยายามเอาไปใช้จริง การเรียนออนไลน์จะช่วยในมุมของการอำนวยความสะดวกและค่าใช้จ่ายถูกลง
นายชญาน์ทัต วงศ์มณี Head of Storytellingตัวแทนจาก SEAC –Southeast Asia Center กล่าวว่า โลกหลังโควิด-19 จะเห็นว่าหลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด รวมไปถึงวิธีการทำงานของเรา ดังนั้น สิ่งที่พนักงานต้องมีคือการมีสกิลใหม่ๆ รวมไปถึงพัฒนาสกิลเดิมที่มีอยู่แล้ว การ Reskilling และ Upskilling จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น และวัตถุประสงค์ต้องชัดเจน ต้องลงลึกไปจนถึงองค์กร เวลามีการจัดเทรนนิ่งต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่จัดตามกำหนด แต่ต้องรับฟัง feedback ของผู้เรียนหรือพนักงานองค์กรว่าการจัดอบรมหัวข้อนั้นๆ มีผลกับชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างไร? ต้องมองปลายทาง ให้พนักงานมีส่วนร่วมก่อเกิดประสิทธิภาพ เช่น เมื่อเปลี่ยนมุมมองความเห็นพนักงานได้จะมีการตั้งคำถามของพนักงานจะเปลี่ยนไปไม่ใช่ตั้งคำถามว่าใครผิด? แต่มีความคิดว่าเราจะช่วยกันแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร? ดังนั้นตอนนี้จะไม่ใช่เรื่องของการ Learn what to learn แต่จะเป็น Learn how to learn สิ่งที่เขาเรียนรู้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง
นายเอกพงษ์ ณ ระนอง ผู้อำนวยการบริหาร สถานสอนภาษาเอยูเอ กล่าวว่า สำหรับ AUA เป็นสถาบันสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งเปิดบริการมากกว่า 70 ปี เจอกับการเปลี่ยนแปลงหลายๆ ด้าน และมีการปรับตัวมาตลอด เช่นกันการนำเสนอหลักสูตรก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นความหลากหลาย มีทั้งเจาะเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ตรงจุดประสงค์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน ที่จะแยกออกตามประเภทงานด้วย เช่น ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ งานขาย งานวิศวกรรม ฯลฯ มุ่งเน้นการใช้จริง ดังนั้น ในแง่ของทักษะที่สอนในเรื่องของภาษาอังกฤษ คือ เน้นการเข้าใจในเรื่องของวัฒนธรรม เศรษฐกิจ รวมถึงการเมืองของแต่ละประเทศ เพื่อการเป็น Global Citizenship การสื่อสารที่ดี การเป็นผู้นำ รวมไปถึงความสร้างสรรค์และการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ รวมไปถึงการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นทักษะที่สำคัญ เพราะฉะนั้น AUA มองเรื่อง Lifelong Learning เป็นสำคัญ ในการเรียนการสอนของ AUA นอกจากจะมีการสอนเรื่องภาษาแล้วยังมีเรื่อง Global Citizenship ด้วยเพื่อวางรากฐานให้กับเด็กนักเรียนตั้งแต่ยังเด็ก และการเรียนการสอนของเราไม่ใช่แค่สอนเพียงอย่างเดียว ยังมีกิจกรรมให้ได้ทำร่วมกันเพื่อสร้างพื้นฐานการทำงานร่วมกันด้วย
นายปวินท์ เจริญรุ่งศิริ ผู้ก่อตั้งและบริหาร PSO Academy กล่าวถึงอาชีพเด่นในอนาคตจากนี้ เป็นเกี่ยวกับ Digital Nomads หรือบุคคลที่ทำงานโดยใช้เทคโนโลยีเป็นหลักและใช้ชีวิตแบบอิสระ ซึ่งสายอาชีพที่น่าจะเป็น Digital Nomads ได้ดีน่าจะเป็นในสาย Tech และ Digital ด้วยดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การใช้สื่อและสกิลการตลาดออนไลน์จะช่วยให้คนโดยเฉพาะในยุคหลังจากนี้จะสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ สกิลที่สำคัญอีกหนึ่งสกิลคือการวิเคราะห์เพราะเมื่ออยู่ในยุคที่เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลและกราฟต่างๆ สกิลต่อมา คือ Human Development เรื่องคนเป็นได้ทั้งปัญหาและเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกทางไหน เพราะเรื่องคนเป็นเรื่องใหญ่ต่อให้เรื่องเทคโนโลยีจะไปไกลแค่ไหนเรื่องคนก็ยังสำรคัญเสมอ สุดท้ายคือเรื่องของ Entrepreneurship คือ เรื่องของการเป็นผู้ประกอบการและการทำธุรกิจ สมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน ยุคนี้การเริ่มธุรกิจต่างๆ ทำได้ง่ายผ่านทาง Social Media ก็มีลูกค้าและมีคนรู้จัก การเป็นผู้ประกอบการสมัยนี้อาจเป็นผู้ประกอบการคนเดียวก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ ตัวอย่างเช่นการเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือการทำ affiliate ซึ่งหากมีสกิลเหล่านี้จะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตสบายได้มากขึ้นในอนาคต
นางสาวพีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จํากัด กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, อิมแพ็ค และหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน พันธมิตรธุรกิจ ในการจัดงานมหกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะและอาชีพอย่างยั่งยืน หรือ Thailand Lifelong Learning & Education Expo 2022 ครั้งแรกของกิจกรรมมุ่งเน้นการสร้างคน สร้างอนาคต ด้วยการเสริมทักษะพัฒนาตนเองให้กับคนไทย โดยรวบรวมความรู้ โปรแกรมการอัพสกิล-รีสกิลเพื่อคนทุกเพศทุกวัยไว้ในงานเดียว มีกำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2565 ณ อาคาร 8 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
วัตถุประสงค์มุ่งเน้นสร้างความตระหนักและให้ความสำคัญเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาและการต่อยอดทักษะ การปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเอง และการศึกษาในประเทศไทย โดยการจัดงานอีเว้นท์เพื่อเป็นจุดนัดพบของผู้เรียนรู้ ทุกเพศทุกวัย ตลอดจนองค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเปิดโอกาสให้ได้พบปะและแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านนวัตกรรม ทิศทาง ข้อคิด และแนวทางต่างๆ เกี่ยวกับการศึกษา เทคโนโลยี และการเรียนรู้ตลอดชีวิต สอดรับกับเทรนด์โลกอนาคต ช่วยกระตุ้นให้ผู้คนตื่นตัวเรื่องการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับกลุ่มคนทุกช่วงวัย เช่น กลุ่มผู้ปกครองที่ต้องการสนับสนุนการเรียนรู้ของลูก ด้วยหลักสูตรเสริมสร้างความรู้เดิม เพิ่มเติมทักษะใหม่ หรือหลักสูตรค้นหาตัวตนความถนัด และความชอบของตนเอง เพื่อนำไปต่อยอดการเรียนให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ภายในงานนี้ได้รวมผู้ประกอบการกว่า 200 บริษัทชั้นนำมานำเสนอโปรแกรมการอัพสกิลและรีสกิล รวมถึงยังมีการจัดฝึกอบรม สัมมนา การให้คำปรึกษาต่างๆ ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน หรือ SEAC 42 Bangkok Futureskill สถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ ทูเก็ตเตอร์ บริษัท ฮอลลีวู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โรงเรียนสอนภาษาโค้ชชิ่ง อิงลิช บริษัท หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนฟินโนมีนา จำกัด บริษัท พีเอสโอ สเปซ จำกัด มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนสถานสอนภาษาเอยูเอ สถาบันการจัดการธุรกิจบริการและการโรงแรมแห่งเอเชีย ด้วยความร่วมมือกับ เลส์ โรชส์ และ Flywithcream Academy เป็นต้น
ตลอดจนได้เชิญองค์กร หน่วยงาน ที่ต้องการพัฒนาทักษะแห่งโลกอนาคตให้กับองค์กร เสริมความแข็งแรงให้ธุรกิจที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแบบฉับพลัน ผ่านกิจกรรม การอบรม เวิร์กชอป และลงมือปฎิบัติจริงภายในงานฯ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามหกรรมการเรียนรู้ในครั้งนี้ ผู้ร่วมงานจะสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้จริง และต่อยอดเป็นการเรียนรู้สู่อนาคตที่ยั่งยืนของตนเอง สำหรับวัยเด็ก วัยทำงาน และวัยเกษียณ
อีกทั้งยังมีโปรแกรมเจรจาธุรกิจที่เปิดโอกาสในการขยายและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เวิร์กชอปเพื่อพัฒนาและต่อยอด สกิลจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานชั้นนำด้านการศึกษา และงานสัมมนาจากกูรูชั้นนำมาร่วมบรรยายในหลากหลายแง่มุม ประกอบด้วย 3 เวทีทางความรู้ ได้แก่ Main Stage Zone Activity Upskill and Reskill Zone Activity และ Work Shop Zone Activity รวบรวมกูรูด้านการศึกษาตลอดชีวิต การพัฒนาทักษะ Upskill Reskill ไว้มากกว่า 50 รายคลอบคลุม 80 หัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ โซลูชันการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบดิจิทัล (Digital LLL Solutions) เพิ่มการพัฒนาคนและสังคมไทย, คิดแบบผู้บริหาร ทำงานอย่างผู้ให้, พัฒนาศักยภาพให้คุณเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแบบมืออาชีพ, แชร์เทคนิคพูดอังกฤษได้ภายใน 1 เดือน, เรียนรู้อย่างไรให้เป็นคนค่าตัวแพงในปี 2023, อาชีพยุคใหม่ทำอะไรแล้วปัง และอีกมากมาย คาดมีตัวแทนองค์กร หน่วยงาน ผู้สนใจทางด้านการพัฒนาตนเองเข้าร่วมงานมากกว่า 15,000 รายจากทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ ฟรี โดยลงทะเบียนล่วงหน้าที่ https://bit.ly/3fWYCyY สำหรับหัวข้อการสัมมนาประเด็นรายละเอียดต่างๆ ติดตามได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.thailandlifelonglearning.com หรือเฟซบุ๊ค www.facebook.com/Thailandlifelonglearning สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรศัพท์.02-833-6336 หรืออีเมล info@thailandlifelonglearning.com
You must be logged in to post a comment Login