วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สวรรค์มีไว้ตอบแทนผู้ที่เหมาะสม

On November 18, 2022

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่   18  พ.ย.  65)

นอกจากปัจจัยสี่ที่สำคัญสำหรับชีวิตบนโลกใบนี้แล้ว  มนุษย์ยังต้องการหลักประกันในการทำความดีเพื่อชีวิตในโลกหน้าด้วย  หากมนุษย์ไม่แน่ใจว่าการทำความดีมีรางวัลตอบแทน มนุษย์ก็ไม่ทำความดีที่มีผลต่อการอยู่รอดและการมีชีวิตที่ดีในอนาคตของคนรุ่นหลัง

การเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องชาติเป็นการเสียสละอย่างสูง  ด้วยเหตุนี้ ทุกชาติจึงมีหน่วยงานดูแลสวัสดิการของทหารผ่านศึกเพื่อรับประกันว่าทหารกล้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในการปกป้องมาตุภูมิจะได้รับรางวัลตอบแทนและครอบครัวของทหารกล้าจะได้รับการดูแล  นี่คือหลักประกันการทำดีที่ทำให้ทหารหมดห่วงและยอมรบแบบพลีชีพ

แต่การตอบแทนบนโลกนี้เป็นการตอบแทนทางด้านร่างกายและมีระยะเวลาสั้น และชีวิตไม่ได้มีแค่ร่างกายอย่างเดียว  ชีวิตยังมีวิญญาณที่เป็นผู้บงการการกระทำของมนุษย์  แต่การตอบแทนวิญญาณที่ทำความดีไม่อาจทำได้ในโลกนี้  ดังนั้น การตอบแทนความดีจึงต้องมีขึ้นในโลกหลังความตายในรูปของสวรรค์ แต่การทำดีนั้นต้องยิ่งใหญ่ในสายตาของพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของสวรรค์

แน่นอน  คนที่พระเจ้าเลือกสรรขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจของพระองค์ด้วยความเสียสละย่อมต้องได้รับสวรรค์เป็นรางวัลตอบแทนก่อนใคร ถัดจากนั้นก็เป็นบุคคลที่ได้รับการบอกข่าวดี เช่น บรรดาผู้ป้องกันตนให้พ้นจากความชั่ว และสวรรค์มิได้มีไว้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น  ผู้หญิงบางคนก็ได้รับข่าวดีว่าจะได้เข้าสวรรค์ด้วยเช่นกัน

นบีมุฮัมมัดกล่าวว่ามีผู้หญิงบางคนจะได้เข้าสวรรค์ หนึ่งในนั้นคือนางอาซียะฮฺภรรยาของฟาโรห์  นางอาซียะฮฺเป็นหญิงผู้ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวในขณะที่ฟาโรห์บูชารูปเคารพและเรียกร้องให้ชาวอียิปต์กราบไหว้เขา  ในปีที่ฟาโรห์สั่งฆ่าทารกชาวอิสราเอลตามคำแนะนำของโหรที่ทำนายฝันของเขา  นางอาซียะฮฺคนนี้เองที่เก็บทารกน้อยโมเสสในกล่องที่ถูกลอยน้ำมาและขอให้ฟาโรห์เลี้ยงดูจนโตในวังของฟาโรห์เอง

วันหนึ่ง ฟาโรห์เข้าไปกอดโมเสสในตอนเป็นเด็ก  แต่ฟาโรห์ถูกเด็กน้อยโมเสสตบหน้าและเอาไม้ตีหัว  ฟาโรห์จึงเกิดความระแวงว่าวันหนึ่งเขาอาจได้รับอันตรายหากเด็กน้อยที่เป็นลูกของชาวอิสราเอลโตขึ้น  ดังนั้น เขาจึงสั่งให้เอาทารกโมเสสไปฆ่า  แต่นางอาซียะฮฺได้ห้ามไว้ นางจึงเป็นผู้ช่วยชีวิตเด็กที่จะเติบโตมาเป็นศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าถึงสองครั้ง

เมื่อนางอาซียะฮฺเปิดเผยความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวของนาง  ฟาโรห์ได้ทรมานนางเพื่อให้นางหันมาศรัทธาในเทพเจ้าที่เขาเคารพ  แต่นางอาซียะฮฺไม่ยอมคลายความศรัทธาแม้จะถูกทรมานอย่างหนัก  เมื่อฟาโรห์สั่งคนของเขาให้ใช้หินก้อนใหญ่ทุ่มใส่นางให้ตาย  ทูตสวรรค์ได้มารับเอาวิญญาณของนางไปก่อนที่หินก้อนใหญ่จะถึงตัวนาง  วีรกรรมของนางในการรักษาชีวิตของโมเสสและรักษาความศรัทธาในพระเจ้าไว้จึงสมควรที่นางจะได้สวรรค์เป็นรางวัลตอบแทน

ผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่นบีมุฮัมมัดกล่าวไว้ว่าจะได้เข้าสวรรค์คือนางมารีย์หรือมัรฺยัมหญิงพรมจารีที่พระเจ้ากำหนดมาให้เป็นผู้กำเนิดเยซัสไครสต์โดยที่นางไม่เคยมีชายใดแตะต้อง

การกำเนิดเยซัสไครสต์หรือนบีอีซาจากนางมารีย์โดยไม่มีพ่อเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติ  พระองค์ต้องการให้พวกลูกหลานอิสราเอลที่ดื้อรั้นฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์มาโดยตลอดได้เห็นอำนาจอันมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของพระองค์

ถึงแม้จะรู้ถึงความบริสุทธิ์ของนางมารีย์เป็นอย่างดี  แต่ถึงกระนั้น ในขณะตั้งครรภ์ พวกลูกหลานอิสราเอลก็ยังกล่าวร้ายนางด้วยคำพูดหยาบคายต่างๆนานาที่ทำให้เธอต้องเจ็บปวดรวดร้าวเพื่อทำภารกิจที่พระเจ้ากำหนดมาให้ลุล่วงไป นั่นคือ การให้กำเนิดเยซัสไครสต์เพื่อเป็นสัญญาณแสดงถึงอำนาจอันไม่มีขอบเขตจำกัดของพระองค์

จึงไม่เป็นเรื่องแปลกแต่ประการใดที่การรับใช้พระประสงค์ของพระเจ้าด้วยความเจ็บปวดและทรมานทำให้เธอสมควรได้รับสวรรค์เป็นรางวัลตอบแทน


You must be logged in to post a comment Login