- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวคือศรัทธาเดิมของมนุษย์
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 25 พ.ย. 65)
ถ้าศึกษาคำสอนของทุกศาสนาจากคัมภีร์ที่เป็นแหล่งอ้างอิงของศาสนา เราจะพบว่าไม่มีคำสอนของศาสนาใดสอนให้คนเคารพกราบไหว้บูชารูปเคารพที่มนุษย์ทำขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติ แต่การกราบไหว้บูชารูปเคารพได้เป็นพิธีกรรมของมนุษย์หลังจากอาดัมถูกส่งมายังโลกนี้ไม่นาน
เราทราบจากคัมภีร์กุรอานว่าการทำรูปเคารพขึ้นมากราบไหว้บูชาหรือเพื่อบนบานอธิษฐานเกิดขึ้นครั้งแรกบนโลกใบนี้ก่อนสมัยของโนอาห์ รูปเคารพเหล่านี้ถูกทำขึ้นเพื่อระลึกถึงคนดีที่ผู้คนนับถือล่วงลับไป เมื่อมีภัยพิบัติเกิดขึ้น ผู้คนคิดว่าวิญญาณของคนดีจะช่วยยับยั้งหรือทุเลาภัยพิบัติได้ จึงได้วิงวอนหรืออธิษฐานต่อรูปเคารพเหล่านั้น พิธีกรรมเซ่นไหว้บูชารูปเคารพจึงเกิดขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงส่งโนอาห์มาเตือนผู้คนให้เลิกกราบไหว้บูชารูปเคารพที่ผู้คนสร้างขึ้นและหันมาเคารพสักการะพระเจ้าที่เป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งแต่เพียงผู้เดียว แต่ผู้คนปฏิเสธและต่อต้านโนอาห์แม้โนอาห์จะใช้เวลานานถึง 950 ปีก็ตาม ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงให้เกิดน้ำท่วมใหญ่เพื่อทำลายผู้คนที่เห็นว่ารูปเคารพที่ตัวเองสร้างขึ้นมาสำคัญกว่าพระเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง
ในคัมภีร์โตราห์ที่พระเจ้าประทานแก่โมเสส พระเจ้าได้สั่งห้ามการทำรูปเคารพขึ้นมากราบไหว้อย่างชัดเจน คำสอนของทุกศาสนาถือว่าการกราบไหว้สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเป็นความโง่เขลาหรืออวิชชา ในภาษาอาหรับเรียกว่า “ญาฮิลียะฮ์” สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ทุกแห่งและทุกยุคสมัย
ในอารยธรรมสุเมเรียที่เจริญรุ่งเรือง ผู้คนเชื่อว่าจักรวาลถูกแบ่งออกเป็นสามภาค แต่ละภาคมีเทพเจ้าหนึ่งองค์ อานูเป็นเทพเจ้าของท้องฟ้า เอนลิลเป็นเทพเจ้าของโลก อีเอเป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ และผู้คนได้ทำรูปเคารพของเทพเจ้าเหล่านี้ขึ้นมากราบไหว้บูชา
ชาวบาบิโลนก็มีความเชื่อในตรีเอกานุภาพหรือพระเจ้าองค์เดียวมีสามตัวตน ดังที่เห็นได้จากเทพเจ้าสามเศียรและการใช้สามเหลี่ยมด้านเท่ากันเป็นสัญลักษณ์
ชาวกรีกกราบไหว้บูชาเทพเจ้าเซอุส, โพไซดอนและอะโดนิส ชาวโฟนีเชียนกราบไหว้บูชาอูโลมัส, อูโลซูรอสและเอลิอูน
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพระเจ้าจึงต้องคัดเลือกมนุษย์บางคนให้เป็นนบีทำหน้าที่หลักคือตักเตือนผู้คนให้เลิกกราบไหว้บูชารูปเคารพที่มนุษย์สร้างขึ้นและหันมาเคารพสักการะพระเจ้าที่เป็นผู้ทรงสร้างแต่เพียงผู้เดียว
เยซัสหรือพระเยซูก็ถูกส่งมาทำหน้าที่นี้เช่นกันและท่านได้มายืนยันธรรมบัญญัติเดิมที่โมเสสได้รับมาจากพระเจ้า แต่หลังจากสมัยของพระเยซูไม่ถึงร้อยปี หลักศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวซึ่งเป็นหลักศรัทธาง่ายๆกลับถูกหลักความเชื่อใน “ตรีเอกานุภาพ” เข้ามาแทนทั้งๆที่ความเชื่อในเรื่องนี้ไม่มีกล่าวไว้ในคัมภีร์ไบเบิล
ในสมัยของนบีมุฮัมมัด ชาวอาหรับเชื่อว่ามลาอิก๊ะฮ์หรือทูตสวรรค์เป็นลูกสาวของพระเจ้า ส่วนชาวยิวเชื่อว่าเอษราเป็นบุตรของพระเจ้าและชาวคริสเตียนบางส่วนเชื่อว่าพระเยซูเป็นบุตรของพระเจ้า
ความเชื่อดังกล่าวของคนสามกลุ่มนี้เป็นความเข้าใจและความเชื่อผิดๆโดยคิดว่าพระเจ้าเป็นเหมือนกับมนุษย์ที่ต้องมีลูกและการมีลูกต้องมีภรรยา ความเชื่อเช่นนี้เป็นการลดอำนาจของพระเจ้าผู้ทรงอยู่เหนือกฎทางกายภาพของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงประทานกุรอานบทสั้นๆบทหนึ่งให้แก่นบีมุฮัมมัดมาอ่านให้คนเหล่านี้ฟังว่า
“พระเจ้าทรงเป็นหนึ่งเดียว พระเจ้าทรงเป็นที่พึ่งพาของทุกสิ่ง พระองค์ไม่ทรงให้กำเนิดและไม่ได้ถูกกำเนิดมาจากใคร พระองค์ทรงไม่เหมือนสิ่งใดและไม่มีสิ่งใดเหมือนพระองค์” (กุรอาน 112:4)
ชาวอาหรับเป็นลูกหลานของอับราฮัมผู้ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวและเป็นผู้สร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺไว้เป็นสถานที่เคารพสักการะพระเจ้า แต่หลังสมัยของอับราฮัมและอิสมาอีลผู้เป็นลูกชาย ชาวอาหรับเริ่มเอารูปเคารพมาตั้งไว้ข้างในและรอบก๊ะอฺบ๊ะฮถึง 360 รูปเพื่อกราบไหว้บูชา
ดังนั้น นบีมุฮัมมัดจึงถูกส่งมาเพื่อทำลายการกราบไหว้บูชารูปเคารพและเรียกร้องผู้คนสู่ความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวอีกครั้งหนึ่งและท่านเป็นนบีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่วางรากฐานความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวไว้ได้อย่างมั่นคงจนถึงปัจจุบันและจวบจนถึงวันสิ้นโลก
You must be logged in to post a comment Login