วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กรุงศรี ฟินโนเวต เดินหน้าสู่ Top CVC ลุยปั้นสตาร์ทอัพไทยสู่ยูนิคอร์นเพิ่ม

On January 11, 2023

บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด หรือ Krungsri Finnovate บริษัทร่วมลงทุน (Corporate Venture Capital : CVC) ในเครือกรุงศรี ผู้ที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านฟินเทคและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้านการธนาคารทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เติบโตไปยังเป้าหมายที่วางไว้ ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.การลงทุนเพื่อสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่ 2.โครงการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ 3.ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และการร่วมลงทุน วางกลยุทธ์ เดินหน้าเป็น CVC ที่พร้อมเคียงข้างสตาร์ทอัพไทย เพื่อปั้น ผลักดันสตาร์ทอัพคุณภาพขึ้นทำเนียบยูนิคอร์นให้ได้มากที่สุด ตามเป้าหมายใหญ่สร้างระบบนิเวศน์ของเศรษฐกิจไทยและภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มั่นคงอย่างยั่งยืน เตรียมเงินลงทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยสูงถึง 1,350 ล้านบาท ทั้งนี้ แผนดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างศึกษาดำเนินการและต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด เปิดเผยว่า กรุงศรี ฟินโนเวตเป็นหนึ่งในองค์กรที่พร้อมขับเคลื่อนและสนับสนุนในแนวคิด การดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างและการดำเนินงาน ให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายความยั่งยืนในปีนี้บริษัทจะขับเคลื่อนภายใต้ 3 แนวทางสำคัญ ประกอบด้วย 1.สร้างและซัปพอร์ตข้อมูลให้กับสตาร์ทอัพไทย ภาคธุรกิจ และนักเรียนนักศึกษา เพื่อให้ก้าวไปด้วย Data & Technology Driven 2.ขยายโอกาสในการพัฒนาโปรดักส์และการลงทุนโดยร่วมมือกับ Krungsri Innovation Center และ 3.สร้างแบรนด์ให้เป็น Top of Mind CVC ที่หนึ่งในใจสตาร์ทอัพ

ในไตรมาสแรกนี้มุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวโปรแกรมหลักล่าสุด Krungsri UPcelerator ที่วางแผนจับมือร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) ภายใต้แนวคิด Accelerating the Sustainable Futureในธีม “โชว์เหนือ” ซึ่งกำหนดจัดงาน Open house ขึ้นในวันที่ 18 มกราคม 2566 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) โดยได้รับเกียรติจาก นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด เป็นประธานเปิดงาน

Krungsri UPcelerator เป็นโปรแกรมที่จะเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพในพื้นที่ภาคเหนือได้ยื่นใบสมัครนำเสนอ Prototype หรือโปรดักส์ที่น่าสนใจมาเข้าร่วมโปรแกรม คาดหวังมีสตาร์ทอัพส่งใบสมัครไม่น้อยกว่า 50 ทีม โดยโปรแกรมนี้มีกำหนดรับสมัครถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 จากนั้นคณะกรรมการจะคัดเลือกให้เหลือ 12 ทีม เพื่อเข้าสู่ Bootcamp สุดเข้มข้นจากเหล่า Mentor ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในวงการสตาร์ทอัพมาหลายปี เช่น คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ CEO บริษัท ตลาด ดอท คอม กรุ๊ป จำกัด คุณรังสรรค์ พรมประสิทธิ์ CEO  บริษัท คิวคิว (ประเทศไทย) จำกัด คุณรัชวุฒิ พิชยาพันธ์ CEO บริษัท ฟิกซิ จำกัด คุณชลณัฏฐ์ พูนชัฏากาญจน์ CEO บริษัท ดอง ซุง กิ อินโนเวชั่น จำกัด คุณยุทธนา ศรีสวัสดิ์ CEO บริษัท ไอแท็กซ์ อินคอเปอเรชั่น จำกัด คุณสุธัม ธรรมวงศ์ อดีต Head of Experience Designer บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด คุณสิรสิทธิ์ สุริยพัฒนพงศ์ CEO บริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด

“ Bootcamp นี้มีระยะเวลาถึง 2 เดือนเต็ม ก่อนที่จะเข้าสู่วัน Demo Day ที่จะไฟนอลผู้ชนะที่สามารถคว้าเงินรางวัล 300,000 บาทและได้มีโอกาสไปร่วมงาน RISE ASIA WORLD EXPO ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมไปถึงรางวัลพิเศษสำหรับ 3-5 ทีม ที่จะมีโอกาสได้ร่วมงานต่อยอดกันกับทาง Krungsri Innovation Center” นายแซม กล่าวพร้อมระบุว่า สำหรับ Krungsri UPcelerator ปีแรกนี้ กลุ่มผลงานที่โฟกัสในการให้เข้าร่วมประกวด จะโฟกัสกลุ่มธุรกิจที่คำนึงถึง ESG เป็นหลัก โดยจะเน้นธุรกิจที่สอดคล้องกับการส่งเสริมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมด้าน ESG Tech, Smart City, HealthTech, AI Robotics, FinTech, TravelTech และ Aging Society ซึ่งสตาร์ทอัพในด้านดังกล่าวที่สนใจ สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊คเพจ Krungsri Finnovate หรือ  https://fb.me/e/3NgikDBdX

กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต กล่าวด้วยว่าในปี 2566 นี้ ได้ร่วมกับพันธมิตรหลายองค์กร ตั้งกองทุน Venture Capital โดยเงินส่วนหนึ่งมาจาก Private equity Trust 1 อีกสองสวนมากจาก Strategic partnership และ Venture builder and ecosystem โดยวางเป้าหมาย สัดส่วนลงทุน  Tech Thai Startup 70%  ต่างประเทศ 30% ที่ให้น้ำหนักกับ Tech Thai Startup มากกว่าต่างประเทศเพราะมีความใกล้ชิด และสามารถสื่อสารกันได้ง่ายกว่า ส่วน Startup ต่างประเทศเรากำลังมองหาตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่ โดยเราโฟกัสไปที่ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ1. Fintech2. Ecommerce tech และ 3. Automotive tech ปีนี้เป็นปีแรกที่จะเห็นการลงทุนต่างประเทศ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โดยเวียดนามมีความน่าสนใจมากเนื่องจาก มีคนเขียน code มากที่สุดในภูมิภาคนี้ ต่างจากประเทศไทยที่มีนักคิดเยอะแต่แต่คนทำเว็บไม่มี ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตอาจได้เห็นการร่วมมือของ Startup ไทยกับเวียดนามก็เป็นได้

“ในไทยครึ่งปีแรก น่าจะประกาศได้ประมาณ 5 ดีล แบ่งเป็นไตรมาสแรก 2 ดีล และไตรมาสสอง 3 ดีล โดยในปี2566 กรุงศรีฟินโนเวต ตั้งเป้าเข้าไปลงทุนใน Startup รวม 1,600 ล้านบาท” นายแซม กล่าวพร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมา Startup ระดับ SeriesA มาถึงมือของเราน้อยมาก ซึ่งเราพยายามเข้าไปดูและไปช่วย Startup ที่ได้ทุนจากเราให้มากขึ้น และเชื่อว่าธุรกิจ Unicorn ใน Portfolio ของกรุงศรีมีโอกาส ที่จะเห็น แต่คงยังไม่เร็ว ๆ นี้  เราต้องเข้าใจว่าผลตอบแทนจากการสนับสนุน Startup เป็นผลตอบแทนระยะยาวอาจจะต้องใช้เวลาถึง 10 ปี  ถึงจะมีความเสี่ยงสูงแต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงด้วยเช่นกัน โดยเราคาดหวังว่าจะได้รับผลอบแทน 20% ต่อปี

นายแซม ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนที่มีวัตถุประสงค์ ในการบ่มเพาะ Startup  เพื่อทำหน้าที่ช่วยสนับสนุน Startup ที่เพิ่งก่อตั้ง เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ ซึ่งจะมีเงินลงทุนผ่านกองทุนนี้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท  คาดว่าจะจัดตั้งได้กลางปีนี้   โดยในปี 2566 จะลงทุนได้ประมาณ 300 ล้านบาท เน้นการลงทุนใน Startup ที่ต่ำกว่า Series A นอกจากนี้เรายังมีอีก 1 กองทุน ภายใต้ Finnovest กองนี้จะลงทุนใน Startup ที่เกี่ยวกับ Metaverse ,web3 และ blockchain


You must be logged in to post a comment Login