- อย่าไปอินPosted 18 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
บทบาทสภาคณาจารย์ เป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนและพัฒนามหาวิทยาลัยมหิดล
“สภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการขับเคลื่อนและพัฒนามหาวิทยาลัยมหิดล ให้ก้าวเดินไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก (World Class University) และเป็น “ปัญญาของแผ่นดิน” อย่างแท้จริง ด้วยแนวทางการดำเนินการหลัก 4 ประการ ได้แก่ การตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน และมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ประเทศชาติ การสร้างองค์ความรู้ใหม่ พร้อมปลูกฝัง Innovation Culture รวมทั้ง การปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพภายในของตนเอง และการสร้างวินัยองค์กรที่เข้มแข็งด้วยวัฒนธรรมองค์กร การทำงานเป็นทีมและการสร้างสรรค์องค์ความรู้แบบบูรณาการ ทั้งนี้ สภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่สำคัญ ในการสะท้อนมุมมอง และแนวคิดของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดล ต่อมหาวิทยาลัย ไม่เพียงแต่เฉพาะสายวิชาการ แต่ยังรวมถึงสายสนับสนุนด้วย ”
ความเป็นมาและบทบาทหน้าที่
สภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2550 ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นคณาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัย ตามมาตรา 26 และกำหนดอำนาจหน้าที่ของสภาคณาจารย์ ไว้ในมาตรา 27 มีบทบาทหน้าที่ คือ ให้คำปรึกษา แนะนำ แก่สภามหาวิทยาลัย อธิการบดี หรือตามแต่อธิการบดีจะมอบหมาย รวมถึงการดูแลมาตรฐานวิชาชีพและให้คำปรึกษาแก่สภามหาวิทยาลัยและอธิการบดี ในด้านวิชาการ และทักษะแห่งวิชาชีพของคณาจารย์ สภาคณาจารย์ ประกอบด้วย สมาชิกประเภทผู้แทนส่วนงาน และผู้แทนทั่วไป และมีการตั้งคณะกรรมการประจำเพื่อทำหน้าที่พิจารณาเรื่องราวต่างๆ เสนอต่อสภาคณาจารย์ และยังเข้าไปร่วมในคณะกรรมการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยในฐานะผู้แทนจากสภาคณาจารย์
คณะกรรมการประจำ ประกอบด้วย
– กรรมการฝ่ายวิชาการและวิจัย พิจารณาและนำเสนอสภาคณาจารย์เกี่ยวกับเรื่อง การส่งเสริมด้านการวิจัย วิชาการ การเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
– ฝ่ายกิจการบริหารและธรรมาภิบาล พิจารณาเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของมหาวิทยาลัย พระราชบัญญัติ ระเบียบ และข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิอันชอบธรรมของคณาจารย์และบุคลากร
– ฝ่ายกิจการนักศึกษา ซึ่งจะทำงานร่วมกับกองกิจการนักศึกษาและกองบริหารการศึกษา ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตนักศึกษา และความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณาจารย์และนักศึกษา
– ฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ พิจารณาเกี่ยวกับการส่งเสริมสวัสดิการ และสิ่งเอื้ออำนวยในการปฏิบัติงาน สวัสดิการบุคลากรและครอบครัวในการดำรงชีพ
– ฝ่ายส่งเสริมความก้าวหน้าอาจารย์และบุคลากร ส่งเสริมและพัฒนาคณาจารย์ด้านทักษะแห่งวิชาชีพคณาจารย์ คุณธรรมและจริยธรรมของคณาจารย์และบุคลากร เชิดชูและผดุงเกียรติคณาจารย์ในมหาวิทยาลัย
– ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่ผลงานและข่าวสารของคณาจารย์ และมหาวิทยาลัย ตลอดจนการดำเนินงานของสภาคณาจารย์
– ฝ่ายรับเรื่องร้องเรียน พิจารณาเรื่องร้องเรียน
– และอาจมีกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาเรื่องราวเฉพาะที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาคณาจารย์ ตามที่สภาคณาจารย์จะเห็นสมควร
สภาคณาจารย์ ดูแลเฉพาะสายวิชาการจริงหรือ
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล มีหน้าที่ รับผิดชอบ ดูแล เฉพาะอาจารย์เท่า นั้น แต่ความจริงแล้ว สภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ.2550 ดูแลครอบคลุมบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งสายวิชาการ และสายสนับสนุน สำหรับในสายสนับสนุน บทบาทหน้าที่ไม่แตกต่างกับสายวิชาการแต่อย่างใด โดยเฉพาะการรับเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมในสายงาน และเรื่องที่อยู่ในความสนใจของบุคลากรเกี่ยวกับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ความก้าวหน้าในสายงาน ซึ่งหลายแห่งยังคงใช้ชื่อเรียกว่า สภาคณาจารย์ แต่บางแห่งได้เปลี่ยนเป็น สภาอาจารย์และพนักงาน แล้ว
ลักษณะการทำงาน
สภาคณาจารย์มีส่วนร่วมในการทำงานกับมหาวิทยาลัย โดยสมาชิกสภาคณาจารย์ได้ร่วมเป็นผู้แทนในกรรมการชุดต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย เช่น คณะกรรมการบริหารฝ่ายกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัย คณะกรรมการกองทุนสวัสดิการพนักงานมหาวิทยาลัย คณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ของบุคลากรและนักศึกษา ฯลฯ เพื่อเป็นตัวแทนในการเสนอแนะ และผลักดันในเรื่องต่างๆ รวมถึงในการประชุมสภาคณาจารย์แต่ละครั้งอาจมีข้อเสนอแนะ หรือมติจากที่ประชุมฯ เสนอต่ออธิการบดีและสภามหาวิทยาลัย
กลไกการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย
ในส่วนสภาคณาจารย์พร้อมที่จะก้าวเดินควบคู่ไปกับยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ในขณะเดียวกันก็จะช่วยเสริมสร้างความสมดุล (Balance) ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่การเรียนการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการ ให้ครอบคลุมและครบถ้วน เช่น ในส่วนของอาจารย์ ในเรื่องการเชิดชูอาจารย์ การพิจารณาคัดเลือกอาจารย์ตัวอย่างของสภาคณาจารย์ การเสนอชื่ออาจารย์ในมหาวิทยาลัยเพื่อรับการพิจารณารางวัลอาจารย์ดีเด่นแห่งชาติ รางวัลหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในกับบุคลากรสายวิชาการ ส่วนบุคลากรสายสนับสนุน สภาคณาจารย์ได้จัดอบรมในหัวข้อต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในสายงานนั้นๆ
ทิศทางเป้าหมายในอนาคต
สภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับมหาวิทยาลัยมหิดล มีเป้าหมายก้าวเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก (World Class University) และเป็นปัญญาของแผ่นดิน มีการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ทั้ง 4 ด้าน โดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ สนับสนุนทุกด้าน เพื่อส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยมหิดลก้าวไปข้างหน้า และในขณะเดียวกันก็ต้องให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยมหิดล ทุกคนมีความสุข พร้อมที่จะก้าวเดินไปกับผู้บริหารมหาวิทยาลัย
สภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยหิดล พร้อมเดินเคียงคู่ไปกับ สภามหาวิทยาลัย และผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อผลักดันให้นโยบายและยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว รวมทั้งผลิตบัณฑิต ที่มีคุณภาพเพื่อรับใช้สังคมต่อไป
โดย อาจารย์ ดร.ธิติคม พัวพันสวัสดิ์ ประธานสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล
You must be logged in to post a comment Login