- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
หาคนไม่โกงยาก
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 10 มี.ค. 66 )
และคำว่า “คอร์รัปชั่น” หรือคำว่า “เอาส่วนเกิน” ไม่ใช้ถลุงกันในงบประมาณสร้างโน้น สร้างนี่ สร้างนั่น แต่ที่แปลกๆมากที่ว่า ถ้ารัฐทำจะต้องอะไรแพงๆกว่าประชาชนที่เป็นเอกชนทำ เช่น เกิดเรื่องที่จ.พังงาที่มีการสร้างสวนหย่อมทำอะไรประดับต้นไม้ข้างศาลากลางจังหวัดติดกับศาลากลางจังหวัดนี่ แต่กว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะรู้ได้ก็มีคนไปร้องเรียนว่า ต้นไม้ราคา 1,200 ไปซื้อ 6,000 บาท มันต่างกันลิบโลก
ตอนหลังมาชี้แจงว่า มันถูกกว่าด้วยซ้ำ เพราะมีการทำประกันรับประกัน 2 ปี ถึงรับประกันยังไง ถ้าคนเขาปลูกต้นไม้เป็น ไม่ต้องมารับประกัน คนดูแลเป็นก็ดูแลง่ายๆ ต้นไม้ทองอุไรดอกสีเหลืองๆราคามันไม่กี่สตางค์ แม่ค้าบอก 100-200 บาท ก็ซื้อได้สบาย แต่ไปซื้อเป็นพันๆ 5,000-6,000 บาท มันต่างกับที่แม่ค้าเขาขายในสวนตลาดนั้น ต้นทองอุไรมันไม่ได้แพงขนาดนั้น แต่ทำไมที่นั่นไปซื้อในราคาแพง
เอาล่ะ ท่านผู้ว่าฯก็มาดูด้วยตา และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่า ทำไมถึงแพงขนาดนั้นได้ เลยกลายเป็นที่ต้องบอกว่า ประเทศไทยตรงไหน จังหวัดไหน ภาคไหนที่ไม่มีคนโกงน่ากลัวมันจะหายาก เอาล่ะ ถึงมองดูว่า แก้ตัวได้ว่า ไม่โกงกลับซื้อได้ถูกกว่า แต่คนที่เขาเล่นต้นไม้ เขาปลูกต้นไม้ เขารู้เลยว่า นี่มันแพงเกินลิบลิ่วเลย และเครื่องที่พ่นน้ำก็ใช้ได้ไม่นาน เสียหายอีกแล้ว ต้องเรียกว่า เป็นต้นแบบ นี่ขนาดไม่ต้องคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ไปคุ้ยนะ
คนในจังหวัดพังงาเองคุ้ยกันเองก็เล่นเอผู้ที่คุมงบประมาณอันนี้ก้นร้อนแน่นอนเหมือนอย่างที่เขาบอกว่า เรื่องแบบนี้ตรงกับธรรมะที่ว่า วิปติสาร อะไรที่เอาเกิน เอามากเกิน โลภมากลาภหาย แต่เอาน้อยๆก็ยังพอมีลาภติดมือบ้าง นี่ถ้าปรับขึ้นมาจะปรับได้มั้ย เหมือนอย่างกับว่า เอางบประมาณนี้มาถลุงมันก็ต้องปรับให้เกิดความสมดุล ยึดทรัพย์ปรับโทษเป็นเรื่องที่ต้องทำ คนไทยเวลานี้ การยึดทรัพย์เอามาเยียวยากับคนที่เป็นพลเมืองดีอย่างกรณีไอ้ผัวโหดที่ฆ่าผัวเมียแทงด้วยมีดอย่างชนิดที่เรียกว่า ป่าเถื่อน
ก็ทำคดีแบบนี้มา 2-3 คดี แล้วก็บอกอยากฆ่าตัวตาย แล้วเสียงบประมาณเยอะน่ะที่ฆ่าตัวตายแล้วไม่ได้ฆ่า แต่ว่า ต้องเอาตำรวจไปเฝ้ากลัวจะฆ่าตัวตายจริง ประเทศไทยนี่เป็นอย่างที่หลวงพ่อพุทธทาสเคยปรารถ อาตมาเคยนั่งคุย ได้ยินว่า ท่านบอกว่า กฎหมายเรามันดีกับคนชั่วเกินไป เราเสียเวลาไปทำแผนประทุษกรรม แล้วต้องใช้ตำรวจ 40-50 นาย ใช้งบประมาณเท่าไร อาตมาว่า ทำแบบประทุษกรรมต้องหมดเป็นหมื่นๆ แล้วได้ข้อมูลมันก็รับสารภาพอยู่แล้ว
แต่ต้องย้อนไปทำแผน เรียกว่า ใช้งบประมาณเยอะ แล้วก็สุ่มเสี่ยงมีคนจะรุมทำร้าย เลยต้องเอาตำรวจไปเป็นจำนวนมาก งบประมาณก็เสียเยอะ ทั้งๆ ที่คดีคนนั้นก็ตายไปแล้ว คนนั้นก็รับสภาพแล้ว ไม่น่าจะต้องเอาไปทำแผนประทุษกรรม เพราะต้องรู้แล้วว่า มันจะต้องรู้แล้วว่า มันจะต้องมีคนเข้าไปมุ่งทำร้ายคนร้าย เพราะญาติพี่น้องถูกไฟไหม้ แล้วคนที่เป็นคนขับรถสองแถวเขาต้องเสี่ยงค่ารักษา เอาล่ะ แต่มีคนช่วยให้
แต่ว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งที่ว่า เขาต้องมีลูก 2 คน ต้องเลี้ยงดู รายได้ก็ไม่ได้แล้วว เพราะว่า ต้องไปเสียค่านอนรักษาตัวอยู่ งานก็ไม่ได้ทำ รถก็ไม่ได้ขับ หัวหน้าครอบครัวที่มีสภาพอย่างนี้ลูกเต้าก็ลำบาก แก้มีรถอยู่คันหนึ่งผัวโหดคนนี้ก็น่าจะเอารถ ไม่น่ามาใช้งบประมาณภาษีราษฎร์มากเกินไป เพราะยังไงคนร้ายคนนี้น่าจะติดคุกตลอดทั้งชีวิตแน่นอน คดีแบบนี้ดีไม่ดีจะโดนประหารด้วยซ้ำ แกมีรถอยู่คันหนึ่งใช้มั้ยก็เอารถมาขายทอดตลาดแล้วไปรักษาคุณลุงที่แกเป็นพลเมืองดีเข้าไปช่วยผู้หญิงคนที่ถูกแทงตาย
แต่แกต้องมาโดนไฟลวก ไฟไหม้ เพราะโดนคนร้ายจุดไฟเผามาโดนแกตัว อย่างนี้มันพอๆกันมั้ยว่า เอางบประมาณไปทำแผนประทุษกรรม เสียภาษีราษฎร์ เอางบประมาณไปเยียวยาพลเมืองดีเสียภาษีราษฎร์อีก ก็เอาทรัพย์คนที่เป็นตัวปัญหา ตัวก่อเหตุ ยังมีรถอยู่ก็เอารถไปขายทอดตลาดแล้วก็เอาเงินของเจ้าคนก่อเหตุมาจ่ายค่าเยียวยารักษาคุณลุงที่แกโดนไฟไหม้ไปด้วย แกต้องเสียโอกาสขับรถแล้วมีลูก มีครอบครัว อันนี้เป็นสิ่งที่ควรจะทำได้แล้ว งบประมาณที่เสียโน้น เสียนี่โดยไม่จำเป็น ถ้าลดลงไปได้จะทำให้ประเทศชาติเหลือไปสร้างโน้น สร้างนี่ ได้อย่างมากมายก่ายกอง
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login