- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ต่อสู้บนมติมหาชน
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 มี.ค. 66 )
เมื่อมีข่าวน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม) ล่าสุดทั้ง 2 คน แจ้งว่าได้เลิกอดอาหารแล้วและจะรับการรักษา เพื่อเอาชีวิตไปสู้ต่อ เนื่องจากยังไม่ได้รับการตอบรับจากศาล เรียกว่า การที่น้องหญิงทั้ง 2 คน ประกาศหยุดการอดอาหาร เพื่อรักษาชีวิตและไว้หาวิธีแบบใหม่ จังหวะใหม่ ได้แนวทางใหม่ๆมาทำตามอุดมการณ์ อุดมคติใหม่ เราจะมีอุดมการณ์ อุดมคติ มันต้องมีหลักการที่พอเหมาะ พอดี การทำอะไรสุดโต่ง สุดกำลังมากเกินไป
เขาเรียกว่า ตึงไป แต่จะหย่อนยาน ไม่รู้ร้อน รู้หนาวกับบ้านเมืองกับสังคมเลยมันก็เกินไป พระพุทธเจ้าอดอาหารมาหลายวันแล้วก็มานึกถึงมีคนดีดพิณแล้วก็บ่นว่า สายพิณมันตึงไปดังไม่เพราะเลย บางทีบอกว่า หย่อนไปก็ดังไม่เพราะอีก เพราะฉะนั้นคนเราไม่ควรมีทั้งหย่อน ทั้งตึง ตึงเกินสุดโต่ง หย่อนไป ก็ทำให้ชีวิตเหมือนกับไร้สาระเลย ปล่อยไปตามอำนาจของกิเลส ปล่อยไปตามอำนาจของความสนุกสนาน ไม่มีชีวิตอะไรที่จริงจังกันบ้าง
ดังนั้นเราทำอะไรอาจจะตึงเกินไปก็มันได้ผลน้อย หย่อนเกินไปเหลวไหลแน่นอน แต่หาจุดพอดีๆ พอเหมาะ ค่อยเดินแผนอะไรที่มันเข้าจังหวะ เข้าสถานการณ์ เหมือนตอนนี้เขาก็ชิงความได้เปรียบกันบนเวที ขึ้นเวที เราไปอดตรงไหนไม่รู้ไม่มีใครเชิญขึ้นเวที มันต้องดูซิ พรรคไหน พวกไหน กลุ่มไหน เขาไปที่โคราชประกาศนโยบาย เราต้องมีนโยบายชีวิตที่พอมันจะมีผล มีประโยชน์บ้าง ถ้าอดอาหารมันไม่มีประโยชน์แน่นอน มีแต่อึดอัด มีแต่ทรมาน มีแต่ทรุดโทรม
เขาก็อยากจะได้แสดงนโยบายที่เป็นสมองความคิด ดังนั้นสมองกับความคิดนี่ เขาบอกคิด ความคิดเปลี่ยน ชีวิตก็เปลี่ยน ความคิดที่จะอด จะตายนี่ มันจะไม่ได้ดูอะไรเปลี่ยนแปลงเลย แต่พอเราหยุด เราดูความเปลี่ยนแปลงของโลก ของประเทศ ของสังคม บางอย่าง บางช่วง บางจังหวะก็เป็นไปตามอุดมการณ์ที่เราเคยคิด แต่ความคิดทั้งหมด ทั้งสิ้นนั้น มันต้องดูที่ผัสสะด้วย คิดแล้วมันไม่มีผลผัสสะในทางบวก ไม่มีความบวกเลย มีแต่จะติดลบ เราก็เสียหาย เสียโอกาสที่จะเก็บชีวิตไว้ดูความเปลี่ยนแปลง อาจจะไม่นานทุกอย่างที่เราต้องการก็อาจจะสวิงมาหาเราเอง
โดยไม่ไปอด ไปลำบาก หลายอย่างในโลกใบนี้ที่ต้องการแล้วมันไม่ได้ในขณะที่ต้องการนั้น แต่พออีกไม่นานมันเกิดสำเร็จประโยชน์ด้วยคนนี้บ้าง คนโน้นบ้างช่วยกัน การอดอาหารทั้ง 2 คนมันไม่พอที่จะทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไปตามที่เราต้องการ เราต้องรวมตัว รวมพรรคพวกที่มีสมองดีๆด้วยกัน คิดหาจังหวะที่จะพอผลักดันนโยบายหรือว่า อะไรที่เราอยากจะเห็นบ้านเมือง สังคม ประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้าดีกว่าอยู่ในปัจจุบันนี้ก็เสนอนโยบายไปรวมกลุ่ม รวมพรรค รวมพวกต่อสู้กันต่อไปบนมติมหาชน
อย่างมติ 2 คน แล้วจะทำให้ได้อย่างนั้น อย่างนี้ มันสู้มติมหาชนคนจำนวนมาก 2 หัวไปไม่รอด ต้องหลายหัว ซึ่งหัวเดียวกระเทียมลีบมันจะบีบให้ความต้องการ ให้ผู้หลัก ผู้ใหญ่เขาเปลี่ยนแปลง สนองตอบได้ให้เราได้โดยไม่ต้องบอบช้ำ ไม่ต้องเจ็บปวดถึงขั้นล้มหายตายจาก การที่เลิกอดอาหารและอยู่เพื่อหาจังหวะดีๆต่อไปถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง โลกนี้มีจังหวะเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ ลองดูซิ ความเจริญก้าวหน้าทั้งถนนหนทาง สาธารณูปโภค วิวัฒนาการมามากมายอย่างชนิดที่คิดไม่ถึงว่า จากทุ่งนาป่าเขา มันจะมาเป็นถนนเส้นใหญ่ให้วิ่งได้สะดวกสบาย
แต่อย่าลืมว่า ในความสะดวกสบายมันก็ต้องมีอุบัติเหตุสะดุดบ้าง ดังนั้นชีวิตเรามันไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เราต้องการ มีสะดุดบ้าง สะดุดแล้วล้มๆแล้วลุกใหม่แล้วเดินหน้าต่อไปจะดีกว่าแน่นอน
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login