- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ที่มาของการถือศีลอด
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 31 มี.ค. 66 )
เดือนรอมฎอน เดือนแห่งการถือศีลอดของมุสลิมทั่วโลกได้เริ่มต้นแล้ว ปีนี้ ตรงกับวันที่ 23 มีนาคม 2566
การถือศีลอดด้วยการอดอาหาร อดน้ำและอดบางสิ่งบางอย่างเป็นที่ปฏิบัติกันมานานแล้ว คัมภีร์กุรอานที่ถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดกล่าวว่าการถือศีลอดได้ถูกกำหนดแก่ผู้ศรัทธาในศาสนามาก่อนหน้านี้แล้วและวัตถุประสงค์สำคัญของการถือศีลอดก็เพื่อให้ผู้ถือศีลอดเกิดความยำเกรงพระเจ้าซึ่งถือว่าเป็นคุณธรรมสูงสุดในอิสลาม
เท่าที่สืบค้นได้จากประวัติศาสตร์ ชาวอียิปต์ถือว่าการอดอาหารบางช่วงเวลาเป็นสิ่งดี แต่ที่ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอาน เมื่อโมเสส(นบีมูซา)ถูกพระเจ้าเรียกขึ้นไปบนภูเขาซีนายเพื่อรับคัมภีร์โตราห์ พระเจ้าได้สั่งให้โมเสสถือศีลอดเป็นเวลา 40 วันเพื่อชำระจิตวิญญาณให้เป็นเสมือนแก้วใสสะอาดที่จะรองรับน้ำทิพย์อันบริสุทธิ์จากพระเจ้าในรูปของโตราห์
โมเสสถือศีลอดโดยการอดอาหารและน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า จึงละศีลอดด้วยการกินและดื่ม เสร็จจากละศีลอดแล้วก็ถือศีลอดต่อไป การถือศีลอดของโมเสสจึงเป็นแบบอย่างการถือศีลอดของพวกลูกหลานอิสราเอลสืบต่อมา
หลังโมเสสจากไป ลูกหลานอิสราเอลไม่สามารถรักษาการถือศีลอดแบบโมเสสได้ ส่วนใหญ่จึงเลิกถือและหันไปถือเพียงบางวัน เพราะการอดอาหารและน้ำท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุในทะเลทรายเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ใจไม่ศรัทธา เมื่อไม่มีความศรัทธาและอดทนพอที่จะอดอาหารและน้ำที่เป็นของจำเป็นได้ พวกลูกหลานอิสราเอลจึงไม่มีความอดทนพอที่จะยับยั้งตัวเองจากสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น อบายมุขและสิ่งเย้ายวนต่างๆ สังคมจึงเสื่อมทรามลง
การถือศีลอดแบบโมเสสได้ถูกนำมาปฏิบัติอีกครั้งหนึ่งโดยเยซัสไครสต์(นบีอีซา)ผู้มายืนยันธรรมบัญญัติเดิม คือสิ่งที่โมเสสสอนและปฏิบัติ ดังนั้น เยซัสไครสต์และสาวกของท่านจึงถือศีลอดสี่สิบวันเหมือนกับโมเสส
หลังสมัยของเยซัสไครสต์ สาวกรุ่นหลังๆของท่านขาดความเคร่งครัดในการปฏิบัติศาสนกิจ การถือศีลอดจึงมีน้อยคนที่ปฏิบัติและหากมีก็เป็นเพียงบางวันเท่านั้น
ในเมืองมักก๊ะฮฺก่อนที่นบีมุฮัมมัดจะถือกำเนิด ชาวอาหรับในเมืองมักก๊ะฮฺมีประเพณีการถือศีลอดในวันเปลี่ยนผ้าคลุมก๊ะอฺบ๊ะฮฺ แต่ชาวอาหรับได้แบบแผนการถือศีลอดมาจากใครและถืออย่างไร ผู้เขียนไม่สามารถหาหลักฐานได้ และก่อนมุฮัมมัดจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนบีทำหน้าที่เผยแผ่อิสลาม ท่านก็มักปลีกตัวไปถือศีลอดอยู่ในถ้ำบนยอดเขาเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านจิตวิญญาณเช่นกัน
เมื่อนบีมุฮัมมัดอพยพตามหลังบรรดาสาวกไปยังเมืองมะดีนะฮฺ ท่านพบว่าชาวยิวหรือพวกลูกหลานอิสราเอลที่อพยพมาอาศัยอยู่ในเมืองมะดีนะฮฺมีการถือศีลอด ท่านได้สั่งสาวกผู้ศรัทธาในพระเจ้าให้ถือศีลอดตามแบบชาวยิวผู้เป็นสาวกของโมเสส เพราะท่านถือว่าโมเสสเป็นผู้ศรัทธาในพระเจ้า ท่านจึงยึดถือเป็นแบบอย่างในการทำตาม
แต่หลังจากอพยพไปได้เพียงสองปี พระเจ้าได้มีบัญชามายังนบีมุฮัมมัดให้มุสลิมถือศีลอดตามแบบแผนที่พระองค์กำหนดมาใหม่เพื่อให้ทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิงปฏิบัติได้ นั่นคือ ให้อดอาหาร น้ำและอดกลั้นอารมณ์ใฝ่ต่ำตั้งแต่ก่อนแสงอรุณแรกปรากฏบนขอบฟ้าไปจนถึงดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า และเมื่อเข้าเวลากลางคืนแล้ว ทุกคนได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตตามปรกติได้
การถือศีลอดในอิสลามจะทำในเดือนรอมฎอนตามปฏิทินทางจัน่ทรคติซึ่งเดือนส่วนใหญ่จะมี 29 วัน มีเพียงบางเดือนในรอบปีเท่านั้นที่จะมี 30 วัน และการถือศีลอดเป็นหนึ่งในหลักปฏิบัติเพื่อยืนยันความศรัทธาในพระเจ้า นั่นหมายความว่า การถือศีลอดเป็นหน้าที่ของมุสลิมที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคน ใครเจตนาละเว้นโดยไม่มีเหตุผลตามที่กำหนดไว้ถือเป็นบาป
คัมภีร์กุรอานกล่าวถึงวัตถุประสงค์สำคัญของการถือศีลอดไว้เพียงประการเดียวว่า “เพื่อความยำเกรงพระเจ้า” นั่นคือ เพื่อให้ผู้ถือศีลอดได้รับบทเรียนว่าถ้าสิ่งจำเป็นเช่นข้าวปลาอาหารและน้ำยังงดเว้นได้ ทำไมสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น อบายมุขจะละเว้นไม่ได้?
You must be logged in to post a comment Login