- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
บี.กริม เพาเวอร์ ขยายการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในมาเลเซีย
บี.กริม เพาเวอร์ ขยายการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในมาเลเซีย รวมกำลังผลิต 90 เมกะวัตต์ รุกขยายพอร์ต “พลังงานทดแทน” มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ตามที่ บี.กริม เพาเวอร์ ได้เข้าลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานทดแทนในประเทศมาเลเซีย โดย B.Grimm Power (Malaysia) Sdn. Bhd. หรือ B.Grimm Malaysia (บริษัทย่อยที่ บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้น 100%) ได้ชำระค่าจองซื้อหุ้นในส่วนแรก เพื่อได้มาซึ่งหุ้นของ reNIKOLA Holdings Sdn. Bhd. ในสัดส่วน 45%
ล่าสุด reNIKOLA Holdings Sdn. Bhd. ได้เข้าลงทุนใน BGMC BRAS Power Sdn. Bhd (“BGMCSB”) และ Idiwan Solar Sdn. Bhd. (“ISSB”) ในสัดส่วน 100% ส่งผลให้ B.Grimm Malaysia ถือหุ้นทางอ้อมใน BGMCSB และ ISSB โดยมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (economic interests) ที่ 45%
BGMCSB และ ISSB เป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Kuala Muda และ Machang มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 90 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น BGMCSB มีกำลังการผลิตติดตั้ง 45 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 และ ISSB มีกำลังการผลิตติดตั้ง 45 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 โดยทั้งสองโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 21 ปี กับ Tenaga Nasional Berhad (บริษัทสาธารณูปโภคไฟฟ้าแห่งเดียวในประเทศมาเลเซีย)
ทั้งนี้ reNIKOLA Holdings Sdn. Bhd. ลงทุนธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่มีการเติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดย ปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการในประเทศมาเลเซีย จำนวน 5 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 178 เมกะวัตต์
“การขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศมาเลเซีย จะสนับสนุนการดำเนินการของบริษัท เพื่อก้าวสู่เป้าหมายองค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ.2050 (ปี พ.ศ. 2593) ตามวิสัยทัศน์ มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately)” ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวทิ้งท้าย
You must be logged in to post a comment Login