- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
แพ้ความอยากโง่ของตัวเอง
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 18 พ.ค. 66 )
ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 อาตมาเคยพูดไว้ว่า รัฐบาลหรือนักการเมืองไม่มีนโยบายคำสอนของพระพุทธเจ้าข้อที่ 1 คือ “ปัดบาปออกจากตัว ปัดชั่วออกจากใจ” งานนี้ไม่มีการปัดแก้วเหล้าออกจากปาก ร่างกายจึงต้องกลายเป็นทาสน้ำเมา เมื่อว่าที่ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคก้าวไกล ดื่มสุราแล้วไปขับรถ เรียกว่า ขับรถด้วยความมึนเมาหรือแอลกอฮอล์เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดต้องเป็นโทษ ถูกจับ ติดคุก ติดตะราง ยึดใบขับขี่อะไรก็ว่าไป
เอาชนะเลือกตั้งได้ แต่พ่ายแพ้ความอยากต่ำๆ โง่ๆ เลวๆ บาปๆ ชั่วๆ พระพุทธเจ้าถึงได้ให้พระไปเที่ยวสอนเรื่องนี้ เผยแพร่เรื่องนี้ เขาถามว่า พระมายุ่งอะไรกับการเมือง แล้วถามว่า นักการเมืองใช่คนมั้ย ต้องสอนมั้ย ต้องเตือนมั้ย พระก็ต้องไปเตือนทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับชนชั้นว่า ถ้าเพื่อนส่งแก้วเหล้าให้ต้องปัดออกไป ปัดบาป ปัดชั่ว ปัดเลวออกไป จะต้องมานั่งร้องไห้กันทำไม จะต้องมาแถลงข่าวด้วยน้ำตานองหน้า
นั่นเป็นเพราะการเมืองไม่เอาคำสอนของพระพุทธศาสนา ของพระพุทธเจ้าไปใส่ไว้ในพรรค ก็ต้องมีคนในพรรคไม่ละบาป ไม่ละชั่ว ไม่ละเลว เลยกลายเป็นเรื่องต้องมาเสียใจในภายหลัง เขาเรียกว่า วิปฎิสาร ร้อนใจกับสิ่งที่ได้ทำมาแล้ว และเพื่อนที่ชวนว่าที่ส.ส.ใหม่กินเหล้า นี่แหละเขาบอกว่า คบมิตรดี คบเพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว คบมิตรชั่วพาตัวมีราคี นี่แหละอยากจะได้ชนะอะไรก็ต้องเอาชนะที่ตัวก่อน
พระพุทธเจ้าถึงบอกว่า ชนะตนนั่นแหละดี ถ้าแพ้ตน พ่ายแพ้กับความอยากต่ำๆของตน มันก็จะต้องมีแต่เรื่องวิปฎิสาร คือ ต้องร้อนใจในภายหลังอย่างที่ว่าที่ส.ส.คนนี้และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลก็ต้องสะเทือน เห็นมั้ย การที่อาตมาพูดมาเป็นเวลา 2-3 เดือนแล้วว่า นักการเมืองให้เอาคำสอนของพระพุทธเจ้าข้อที่ 1 คือ ปัดบาปออกจากตัว ปัดชั่วออกจากใจ บุญไม่ทำก็ไม่เป็นไร แต่บาปเนี่ย ไม่ปัด ไม่ป้องออกจากตัว จากใจ บรรลัยทุกที
เพราะฉะนั้น จะชนะมากี่ร้อย กี่แสนเสียง กี่ล้านคนก็ตาม แต่พ่ายแพ้กับความอยากต่ำๆ บาปๆเลวๆ ชั่วๆ ทำให้ต้องมาเห็นคราบน้ำตา ต้องลา ดีน่ะ ที่ยังมีสปิริตอย่างที่อาตมาเคยบอกแล้วว่า ถ้าใส่ปัดบาปออกจากตัว ปัดชั่วออกจากใจ ไปซักหน่อย ส.ส.ก็จะไม่มีคำว่า เลว ชั่ว บาป พอปัดบาป ปัดแก้วเหล้าได้ เขาส่งให้ไม่ปัดออก แต่กลับกินเข้าปากไป ก็เกิดปัญหาเช่นนี้ จึงบอกว่า ถ้าเราไม่มีสิ่งที่เรียกว่า คำสอนของพระพุทธองค์ดำรงอยู่ในชีวิตจิตใจ จะชนะเลือกตั้งมามากมายเท่าไร แต่ก็แพ้ความอยากโง่ๆของตัวเอง
ดังนั้น เรื่องติดตามส.ส.ของพรรคนี้ก็ไม่พ้นหรอก ต้องมีทั้งดี ทั้งชั่ว เพียงแต่ว่า ชั่วมากหรือดีมาก ชนะมาขาดลอย อย่างที่กล่าวมาว่า ถ้าผู้ใหญ่ยังไม่มีมุทิตา ไม่รู้จักพลอยยินดีกับผู้ที่เขาได้ดี อย่าอิจฉาตาร้อน อย่าทันไม่ได้เพราะเขาได้ดี พระพุทธเจ้าบอกความริษยาเป็นเหตุทำโลกให้ฉิบหายและมุทิตาเป็นเหตุให้เหยียบความริษยา ไม่ให้โลกหายนะได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ก็มีน้องหญิงคนที่ถีบจักรยานตอนแรกก็นึกว่า หัวหน้าพรรคส่งเราไปชนช้างคิดว่า ไม่ให้เรามีโอกาสเข้ามาชนะเลย
แต่พอถีบจักรยานไปซักพักหนึ่ง คะแนนดีขึ้น คนเห็นด้วย และที่เห็นด้วยอย่างยอดเยี่ยมที่สุดเห็นจะเป็นคุณวัน อยู่บำรุง จากพรรคเพื่อไทย ถึงแพ้เลือกตั้ง แต่ความเป็นสุภาพบุรุษ เป็นแมนไม่ได้แพ้ เพราะรีบโทรไปแสดงความยินดีกับฝ่ายชนะ และฝ่ายชนะก็ชื่นชมคุณวันว่า เป็นคนใจถึง ใจดี มีสปิริต มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้จักคำว่า มุทิตา คนอายุมีมุทิตา แต่คนอายุมากไม่มีมุทิตานี่ มันผิดหลักพรหมวิหารของผู้ใหญ่น่ะ
ผู้ใหญ่ไม่มีพรหมวิหาร เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขานี่ ไม่ได้ ต้องมี เหมือนกับคำสอนที่ว่า ปัดบาปออกจากตัว ปัดชั่วออกจากใจ ต้องมี ถ้าไม่มีในนโยบายพรรคใดก็ต้องเจอเรื่องอย่างนี้ เดี๋ยวก็ไปเล่นการพนันในสภาฯ กินเหล้าอะไรต่างๆนาๆ มันจะเกิดมาไม่หยุดหย่อน ถ้ามีธงไว้ว่า เราจะปัดบาปออกจากตัว ปัดชั่วออกใจ ใครส่งแก้วเหล้ามาต้องปัดออกไป อย่าไปกรอกเข้าปาก มันก็ทำให้ตรวจแล้วลำบาก
งานนี้ไม่น่าจะเกิดก็เกิด ไม่น่าจะเป็นก็เป็น ถ้าไม่มีคำสอนอยู่ในพรรคใด ในนโยบายการเมืองใดก็เป็นอย่างนี้ไปไม่หยุดหย่อน เพราะบาป ชั่ว เลว เป็นสิ่งที่ต้องปัด ต้องเอามาใส่ไว้ในนโยบายให้ได้ แล้วก็จะเป็นพรรคที่อยู่ดี อยู่งาม อยู่สวย อยู่ประเสริฐ เป็นนักการเมืองที่ดีเลิศ เป็นนักการเมืองต้นแบบ ตัวอย่างที่ดี เห็นรณรงค์เรื่องความเสมอภาคสมรสอะไรต่างๆ แต่ไม่ได้รณรงค์ปัดบาปออกจากตัว ปัดแก้วเหล้าออกจากปาก จากใจ เลยต้องเกิดปัญหาแบบนี้
อาตมาขอให้ท่านส.ส.ทั้งหลายดูบทเรียนนี้ แล้วปัดบาปออกจากตัว ปัดชั่วออกจากใจเถอะ ตำแหน่งเก้าอี้ส.ส.จะนั่งอย่างสง่า ภาคภูมิ อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่มีคดี ให้ส.ส.มีบารมีให้มากกว่ามีคดีเถอะ บ้านเมืองจะไปได้งดงาม
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login