- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
วัด-บ้านช่วยกันก็ดีงาม
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 2 มิ.ย. 66 )
เมื่อเร็วๆนี้ ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม บอกว่า วัดต้องสงเคราะห์ชุมชน มีศาสนสงเคราะห์ ช่วยอะไรได้ จะเป็นปากท้อง เรื่องคำสอนทางศาสนา ก็ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะปากท้อง อาชีพ สนับสนุนชาวบ้านให้มีอาชีพ โดยเฉพาะที่วัดสวนแก้วก็ช่วยการระบายทุเรียนของชวบ้าน ซึ่งปีนี้มีกันมากพอสมควร การขายไม่ค่อยจะราบรื่น นั่งขายวันสองวันขายได้ซัก 1 ลูก เลยเอามารวมเป็นศูนย์รวมๆกันไว้ที่วัดสวนแก้ว
ท่านผู้ว่าฯนนทบุรีก็เคยพูดว่า จะให้วัดเป็นศูนย์กลางระบายผลไม้ให้ติดตลาด ติดปาก ติดหูประชาชนว่า ถ้าต้องการทุเรียนเมืองนนท์ให้มวัดสวนแก้ว และรับประกันว่า ถ้าไม่ดี ไม่อร่อย ตัดอ่อนไปหรือมันเน่า มันเสีย ก็จะรับคืน ถ้ารับคืนเป็นที่เป็นทางซะ ไม่ใช่เป็นรถเร่ร่อนไปขายแล้วเขาก็หายไป ซื้ออ่อน กินอ่อน เขาไปซะแล้ว ไปคืนเขาไม่ได้ แต่วัดสวนแก้วยังปักหลักอยู่กับที่พร้อมที่จะคืนให้
อันนี้เลยกลายเป็นเรื่องที่เริ่มมีคนมาซื้อทุเรียนวันละ 10-20 ลูก แต่ก็ยังไม่สมดุลกับที่ชาวบ้านมาส่งวันละ 40-50 ลูก บางวันก็มาส่งเกือบ 100 ลูก อันนี้ก็อยากจะฝากสาธุชนคนทานทุเรียนลองมาดู หาซื้อ หาทานได้ในราคาเรียกว่า ต่างกับสมัยก่อน ซึ่งสมัยก่อนกิโลกรัมละ 1,700-2,000 บาท เดี๋ยวนี้ลดลงมาเหลือ 1300-1500 บาท เรียกว่า ลดลงมามาก ถ้าก้านยาวก็แพงหน่อย กิโลกรัมละ 4000-5000 บาท สมัยก่อนขายลูกหนึ่งตั้ง 30,000-40,000 บาท หรือ 50,000 บาทก็ยังเคยมี
เดี๋ยวนี้อย่างมากก็ 10,000 บาท เรียกว่า ลดลงมาก และแนวโน้มต่อไปข้างหน้า ถ้าทุเรียนติดผลดี ต้นดีงาม มีลูกมากขึ้นๆ ทุเรียนเมืองนนทือาจจะฟื้นคืนชีพกลับมาเหมือนกับยุคก่อนๆ แต่มันก็คงไม่ได้ถึงครึ่งของครึ่ง สมัยก่อนทุเรียนเมืองนนท์นี่เต็มไปหมด แต่เวลานี้ก็เหลือคิดว่า ร้อยละ 10-20 เท่านั้น หายไป 70-80 เปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านกว่าจะลืมตาอ้าปาก เพราะตอนนี้ลำบาก รดน้ำทุเรียนก็ต้องรดด้วยน้ำประปา เพราะว่า ลดน้ำคลอง น้ำท้องร่อง ไม่ได้เลย น้ำเค็มขึ้น
เลยทำให้ต้องใช้น้ำประปาต้นทุนสูง ไม่เหมือนสมัยโบราณ สมัยเก่า เปิดน้ำเข้าก็รดได้ เดี๋ยวนี้ต้องใช้ประปา ถ้าไม่มีน้ำประปาใส่เข้าไป น้ำเค็มขึ้น ทุเรียนก็ตาย อันนี้เป็นเรื่องที่จะต้องสงเคราะห์กัน ช่วยกัน ทางวัดก็เห็นด้วย เห็นดี เห็นงามกับนโยบายที่สมเด็จฯท่านได้ช่วยแนะนำและสนับสนุนให้วัดได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ถ้าบ้านกับวัดช่วยกันก็แน่นอนดีงาม ที่เขาบอกว่า วัดกับบ้านขัดกันก็บรรลัย แต่ถ้าช่วยกันก็ดีงาม
ถ้าช่วยกันก็อวยชัย ถ้าขัดกันก็บรรลัย เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องการความบรรลัย ต้องการความดีงาม อวยชัย ดังนั้น ญาติโยมที่ต้องการทานผลไม้ต่อไปไม่ว่าจะเป็นมังคุด เงาะ ทุเรียน มะม่วง ตอนนี้ที่วัดสวนแก้วล้นวัดเลย อยากจะฝากว่า ช่วยพูดกันปากต่อปากให้วัดกลายเป็นที่พึ่ง เป็นศูนย์รวมให้ชาวบ้านไม่ต้องเสียค่าขนส่งสินค้า ขนของไปขายไกลหรือไปเฝ้าอยู่ เฝ้าแล้วกระเช้า กระจาด 10 ลูก 20 ลูก วันหนึ่งขาย 1-2 ลูก ก็เสียเวลาในการนั่งเฝ้ากระเช้า กระจาด ขอเชิญชวนจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาช่วยกันรับซื้อหน่อย สาธุ
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login