- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ชีวิตเร้นลับในโลกมนุษย์ (4)
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 9 มิ.ย. 66 )
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งเร้นลับ
คัมภีร์กุรอานกล่าวว่าบนโลกใบนี้ไม่ได้มีมนุษย์เพียงเผ่าพันธุ์เดียวอาศัยอยู่ แต่ยังมีสิ่งเร้นลับที่มีชีวิตอีกสองเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ด้วย นั่นคือ ทฺตสวรรค์และญิน และเนื่องจากเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ดังนั้น พระเจ้าจึงได้ให้นบีมุฮัมมัดมาบอกความจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทูตสวรรค์(มลาอิก๊ะฮฺ) ถูกสร้างจากแสงสว่าง เชื่อฟังพระเจ้า ไม่มีเจตนารมณ์เสรี ไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่มีความต้องการทางเพศ ทูตสวรรค์มีปีกและอาศัยอยู่ในท้องฟ้า มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน มีภารกิจต้องทำตามคำบัญชาของพระเจ้าและแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้เมื่อพระเจ้าอนุมัติ
ส่วนญินถูกสร้างมาจากไฟ กินกระดูกเป็นอาหาร มีเจตนารมณ์เสรี ดังนั้น ญินจึงมีทั้งดีและชั่ว ญินมีทั้งเพศหญิงและเพศชาย อาศัยอยู่ตามโพรงหรือรู สุสาน กองขยะ ห้องน้ำ ญินสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลานและสุนัขดำ ที่สำคัญคือมนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารและใช้งานญินได้
นบีมุฮัมมัดได้รับความรู้เรื่องสิ่งเร้นลับที่กล่าวมา แต่เมื่อถูกถามเรื่องวิญญาณ ท่านตอบตรงๆว่าท่านไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ ความรู้เรื่องวิญญาณอยู่ที่พระเจ้า ถ้าพระองค์ไม่ประทานให้ ท่านก็ไม่รู้ ดังนั้น ทุกวันนี้จึงไม่มีมนุษย์คนใดมีความรู้เรื่องวิญญาณว่าถูกสร้างมาจากอะไร
คัมภีร์กุรอานบอกให้เรารู้ว่ามนุษย์บางคนเคยพบทูตสวรรค์ที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ มนุษย์บางคนสามารถติดต่อสื่อสารกับญินและควบคุมญินไว้ใช้งานได้
ผู้ที่เคยพบทั้งซาตานและทูตสวรรค์คือนบีอิบรอฮีม ซาตานมาปรากฏตัวต่อหน้านบีอิบรอฮีมถึงสามครั้งเพื่อล่อลวงไม่ให้ท่านเชือดพลีอิสมาอีลลูกชายของท่านตามคำบัญชาของพระเจ้า แต่ด้วยความศรัทธาในพระเจ้าอย่างมั่นคง ท่านจึงเอาหินขว้างซาตานจนมันหนีไปและไม่กลับมาอีก ต่อมา การขว้างหินใส่ซาตานได้เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งในการทำฮัจญ์
นบีอิบรอฮีมเคยพบทูตสวรรค์ที่พระเจ้าส่งมาในรูปของชายหนุ่มรูปงามสามคนเพื่อไปทำลายเมืองโซดอมและแจ้งข่าวดีแก่ท่านในเรื่องการมีบุตรคนที่สองคืออิสฮากที่จะเกิดขึ้นกับนางซาราห์ภรรยาคนแรก
นบีที่ขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องญินคือนบีสุลัยมาน(หรือโซโลมอน)ซึ่งพระเจ้าได้ให้อำนาจพิเศษหลายอย่าง เช่นรู้ภาษาของสัตว์ ควบคุมลมให้พัดตามที่ท่านต้องการและมีอำนาจในการควบคุมญินให้ทำงาน เช่น ดำน้ำเพื่อนำปะการังขึ้นมา เนื่องจากญินมีพลังและความสามารถในการเคลื่อนที่ได้เร็ว นบีสุลัยมานจึงใช้ญินตนหนึ่งชื่ออีฟรีตไปนำบัลลังก์ของราชินีชีบาจากเยเมนมาให้ท่านขณะที่ราชินีชีบาออกจากอาณาจักรมุ่งหน้ามาพบท่านที่เมืองเยรูซาเล็มเมืองหลวงของอาณาจักรอิสราเอล
คัมภีร์กุรอานเล่าว่า ในบั้นปลายชีวิต นบีสุลัยมานได้ใช้พวกญินสร้างวิหารหลังแรกโดยท่านควบคุมการก่อสร้างในห้องกระจกที่ท่านสร้างขึ้น วิหารหลังนี้ตั้งอยู่ในบริเวณมัสยิดอัลอักซอในปัจจุบัน แม้จะถูกทำลายไปหลังสมัยนบีสุลัยมาน แต่ศิลารากฐานที่เป็นหินก้อนมหึมายังคงอยู่เป็นหลักฐานที่ทำให้ชวนคิดว่ามนุษย์ธรรมดาจะตัดและลากหินขนาดมหึมาขนาดนั้นมาได้อย่างไร
หลังสมัยนบีสุลัยมาน อาณาจักรอิสราเอลถูกทำลายโดยอาณาจักรบาบิโลน ระหว่างที่ถูกกวาดต้อนไปอยู่ในบาบิโลน พวกลูกหลานอิสราเอลหลงลืมความศรัทธาในพระเจ้าและหมกมุ่นอยู่กับเรื่องไสยศาสตร์เพื่อใช้ความรู้ในเรื่องนี้ทำมาหากินโดยเฉพาะการทำให้สามีภรรยาเกิดความแตกแยกกัน
ในสมัยของนบีมุฮัมมัด ชาวยิวอ้างว่าไสยศาสตร์มาจากนบีสุลัยมาน ดังนั้น เพื่อปกป้องนบีสุลัยมานให้พ้นจากคำกล่าวหาของชาวยิว พระเจ้าจึงได้กล่าวไว้ในคัมภีร์กุรอานว่าพระองค์เองได้ให้ฮารูตและมารูตทูตสวรรค์สององค์แปลงร่างมาเป็นมนุษย์และสอนวิชาไสยศาสตร์ให้ชาวยิว แต่ก่อนจะสอน ฮารูตและมารูตได้บอกผู้มาเรียนอย่างชัดเจนว่าวิชาไสยศาสตร์นี้เป็นการทดสอบจากพระเจ้า อย่าได้นำมันไปใช้ แต่ซาตานได้ยุยงให้ชาวยิวนำไปใช้
สำหรับนบีมุฮัมมัดนั้น ทูตสวรรค์ญิบรีลได้มาพบท่านโดยตรงพร้อมกับการนำวจนะแรกของพระเจ้ามาให้ท่านในถ้ำบนภูเขาแห่งหนึ่งขณะที่ท่านมีอายุ 40 ปี หลังจากนั้น ท่านได้เห็นการปรากฏตัวของญิบรีลในฟากฟ้าและในรูปของชายที่แต่งกายด้วยชุดขาวสะอาดมาถามท่านเกี่ยวกับอิสลามเพื่อทดสอบความรู้ของท่าน ไม่เพียงเท่านั้น ทุกเดือนรอมฎอน ทูตสวรรค์ญิบรีลจะลงมาพบนบีมุฮัมมัดเพื่อทบทวนการอ่านกุรอานของท่านว่าถูกต้องหรือไม่
ในขณะที่นบีมุฮัมมัดยังมีชีวิต มีญินกลุ่มหนึ่งได้มาพบท่านและเกิดความศรัทธาจากการฟังท่านอ่านกุรอาน และญินกลุ่มนี้ได้ไปเชิญชวนญินอื่นๆให้หันมาศรัทธาด้วย
You must be logged in to post a comment Login