- ปีดับคนดังPosted 11 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
คนดังและชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นหลังเครือข่ายวิชาชีพทันตแพทย์อ้างสูบบุหรี่ไฟฟ้า 1 ครั้งเทียบเท่าบุหรี่ 4 มวน
คนดังและชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นหลังเครือข่ายวิชาชีพทันตแพทย์อ้างสูบบุหรี่ไฟฟ้า 1 ครั้งเทียบเท่าบุหรี่ 4 มวน ชี้ย้อนแย้งผลวิจัยต่างประเทศ
เหล่าคนดังอย่าง บก.ลายจุด หรือ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตามกว่าเจ็ดแสนราย และหมอเอก หรือนายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย เขต1 ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงที่มากรณีที่เครือข่ายวิชาชีพทันตแพทย์ออกมากล่าวอ้างว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้า 1 ครั้ง เทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ปกติ 4 มวน และอ้างว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา ด้านชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น รัฐควรรีบทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพื่อควบคุมมาตรฐาน เก็บภาษีเข้ารัฐ และป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน
บก.ลายจุด หรือนายสมบัติ บุญงามอนงค์ เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตามกว่าเจ็ดแสนราย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีที่เครือข่ายวิชาชีพทันตแพทย์กล่าวในงานเสวนาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้า 1 ครั้ง เท่ากับสูบบุหรี่ปกติ 4 มวน ถือว่าอันตรายกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา และสนับสนุนให้มีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด โดยบก.ลายจุดได้ตั้งข้อสงสัยว่า “อยากรู้ว่า 4 เท่าที่ว่ามันเป็นสารอะไรครับ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการสันดาป สารเคมีจึงน้อยกว่ามากมายมหาศาล สังเกตว่าคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่มีอาการเมาแบบที่สูบบุหรี่จริง ดังนั้นผมอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม”
นอกจากนี้นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ อดีตสมาชิกผู้แทนราษฎร เชียงราย เขต 1 ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวในทวิตเตอร์เช่นกันว่า “จริงเหรอครับ อ้างอิงข้อมูลจากไหน ผมว่านี่น่าจะเข้าข่าย fake news มั้ยเนี่ย”
นอกจากคนดังสองรายที่ออกมาตั้งคำถามถึงแหล่งที่มาของข้อมูลแล้ว ขาวเน็ตจำนวนมากก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ควรรีบทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพื่อควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์และปริมาณนิโคติน รวมถึงทำให้สามารถจัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์บางรายกล่าวเปรียบเทียบงานวิจัยในต่างประเทศและประเทศไทยว่า “คิดว่ามันคือการอุปโลกน์ขึ้นมา เพื่อใช้กฎหมายต่อผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้ภาพลักษณ์ดูอันตราย แล้วเรียกเก็บส่วย เก็บภาษีค่าปรับ ทำไมผลวิจัยจากประเทศอังกฤษมอง vape เป็นแง่บวก แต่ข้าราชการบ้านเราที่วิจัยเอาแต่ด้านลบมาลง”
ด้านกลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) เจ้าของเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ก็ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์เช่นกันว่า ทางกลุ่มได้รณรงค์บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายมาหลายปี และยืนยันว่าการไม่ต้องจุดไฟเผาทำให้มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีงานวิจัยมากมายรองรับ และเน้นย้ำว่าการนำมาควบคุมบนดินจะทำให้ควบคุมคุณภาพมาตรฐานของน้ำยาและอุปกรณ์ต่างๆได้
ในเรื่องของอันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเทียบกับการสูบบุหรี่มวนนั้น ได้มีการศึกษาและวิจัยโดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ (Office for Health Improvement and Disparities) ได้รายงานว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน หรือจะเป็นการที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของนิวซีแลนด์ออกมาสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทน เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
ในส่วนของประเทศไทย เหล่าสิงห์อมควันต่างก็เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งปี 66 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่งหากอิงจากนโยบายที่พรรคก้าวไกล พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ประกาศไว้ผ่านเว็บไซต์ว่า จะทำการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย อาจเป็นสัญญาณอันดีว่าประเทศไทยจะขยับเขยื้อนและใช้แนวทางที่มีความเป็นสากลยิ่งขึ้น และคำนึงถึงผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบด้านสุขภาพ รายได้ภาษี การป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน สิทธิในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่อันตรายน้อยกว่า หรือการควบคุมมาตรฐานและคุณภาพผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ที่มา:https://twitter.com/nuling/status/1663744135218749445?s=20
ที่มา: https://twitter.com/DoctorEkk/status/1663912436301266949?s=20
ที่มา: https://twitter.com/ThaiVapers_ECST/status/1663847603036123139?s=20
You must be logged in to post a comment Login