วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ประชาชนควรให้บทเรียน

On July 14, 2023

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม         

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 14 ก.ค. 66 )

หลายคนวิเคราะห์กันว่า ยากที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะผ่านทศกัณฐ์ จระเข้ขวางคลอง อะไรทำนองนี้ แต่แล้วสิ่งหนึ่งที่ผู้แพ้ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ไม่ยอมถอย ยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้ คำพูดนี้หลุดออกจากคุณพิธา ซึ่งมีข้อสังเกตคนๆนี้อย่างหนึ่ง คือ การเก็บอาการ ไม่แสดงอาการอะไรเมื่อดีใจหรือเสียใจ เรียกว่า เก็บอาการได้ดีกว่านายกรัฐมนตรีบางคน เขาเรียกว่า ปรี๊ดแตกบ้าง อะไรบ้างก็แล้วแต่

เกิดคุมอารมณ์ไม่อยู่ ถูกนักข่าวกระเซ้าถามโน้น ถามนี่ก็เกิดอาการ แต่คุณพิธามีพรสวรรค์พิเศษหรือพรแสวงที่เขาฝึกมาไม่ให้แสดงอาการขึ้นๆลงๆ ได้ไม่ฟู เสียไม่แฟบ มันน่าจะเป็นผู้นำได้ในมุมของการวางเนื้อ วางตัว วางหน้า วางตา วางจิต วางใจ ตั้งท่ารับสิ่งต่างๆที่เรียกว่า โลกธรรม ซึ่งโลกธรรมมีได้ลาภเสื่อมลาภ ได้ยศเสื่อมยศ แล้วก็ถูกสรรเสริญ นินทา มันก็เกิดทำให้คนบางคนอาการขึ้นๆลงๆอย่างชนิดที่เห็นได้ชัด

แต่คุณพิธาค่อนข้างเก็บอาการพวกนี้ได้ดี แล้วตอนนี้อยากจะฝากถึงผู้ที่อินอยากให้คุณพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างที่อาตมาเคยได้ยินมาที่วัดว่า ถ้าคุณพิธาไม่ได้เป็น ฉันจะอกแตก วันที่โหวตนายกรัฐมนตรีรอบแรกที่คุณพิธาไม่ผ่าน แพ้โหวต ฟังข่าวว่า ถึงกับมีคนทรุด อาตมาอยากจะฝากว่า เรามีหน้าที่การงานที่จะต้องทำให้ลูก หลาน ครอบครัวได้เดินทางก้าวหน้า อย่ามาเสียเวลา เสียอก เสียใจ แล้วจะเสียหน้าที่ในครอบครัวผู้นำที่ดี

แบ่งเวลาไว้สนใจบ้านเมืองบ้าง สนใจงานการ งานในครอบครัวของเราบ้าง อย่าปล่อยให้ความเสียใจมันครอบงำจนทำงาน ทำการไม่ไหว แล้วก็อย่าไปชุมนุมกับเขาทุกวี่ ทุกวันเลย ให้มีวันเว้น วันหยุดบ้าง ดูจิต ดูใจอยู่ที่บ้านบ้าง ขอฝากยังไงขออย่าได้ออกมาชุมนุมเกิดปะทะกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายชังกับฝ่ายชอบในตัวของคุณพิธา หรือพรรคก้าวไกล เราจะได้อยู่อย่างฉลาดกันซักทีเถอะ

เพราะคนที่ไปประท้วงแล้วเป็นโน้น เป็นนี่มา พิการก็ลำบากกับครอบครัวอีก เอาอย่างนี้ดีมั้ย เราให้การเมืองแบบนี้มันทำให้เราฉลาด คราวหน้าเราจะได้ไม่เลือกใครเป็นเบี้ยหัวเรี่ยวหัวแตก จะต้องอาศัยเสียงคนโน้น คนนี้ เลือกซัก 2-3 พรรค ให้มันเปรี้ยงไปเลยว่า พรรคละ 100-200 คน แล้วก็แบ่งสันปันส่วนให้ดีเลย ต่อไปนี้ นักการเมืองควรจะหาเสียงว่า ถ้าอยากให้ตั้งรัฐบาลเร็ว ต้องเลือกเรา 3 พรรคนี้ อีกพรรคหนึ่งให้เขาเป็นฝ่ายค้านอะไรทำนองนี้

มันน่าจะได้รัฐบาลเร็ว ไม่อืดอาด ยืดยาด ไม่เป็นประชาธิปไตยโอ้เอ้ โลเล ยืดยาด มันต้องเป็น เรียกว่า เป็นประชาธิปไตยโดยสายธรรม รู้จักประชาชนฉลาด อย่าเลือกให้เป็นเบี้ยหัวเรี่ยว หัวแตก เห็นชอบ ไม่เห็นชอบ ออกเสียง ไม่ออกเสียง มีคนพูดแรกอยู่คนหนึ่งว่า พวกส.ว.ที่ไม่มาประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 40 คน ไปทำอะไรที่ไหน และกินเงินเดือนหรือเปล่า ลา ถ้าข้าราชการลางานบ่อยๆจะถูกตัดเงินเดือน แต่เป็นกรรมกร เกษตรกร ลาเป็นไม่ได้เลย ถ้าขาด รายได้ก็ขาดไปด้วย

ทีนี้ ขาดประชุม ขาดทำหน้าที่ น่าจะมีการจดชื่อ เอาขึ้นไว้เลย ไม่ได้เอาไปขึ้นหนังหมา หนังอะไรหรอก เอาขึ้นไว้ ให้ประชาชนพิจารณาว่า คนไม่ทำหน้าที่ ซึ่งหน้าที่ คือ ธรรมะ ธรรมะ คือ หน้าที่ ถ้าคุณไม่ทำหน้าที่ก็คือ คนไม่มีธรรมะ ส.ว.ไม่มีธรรมะ ส.ส.ไม่มีธรรมะ เราจะเลือกเขาไปทำไมกัน ใครช่วยทำบัญชีอย่างนี้ไว้ดีมั้ย คนที่ออกอาการถ่วงความเจริญนี่ไม่มาประชุม แต่กินเงินเดือน รับเงินเดือน แต่ไม่มาประชุม มันทำให้เสียโอกาสที่จะได้รัฐบาลเร็วๆ

ขาดองค์ประชุมกันอยู่เรื่อย น่าจะทำเป็นงานเป็นการระดับชาติได้แล้วว่า ส.ส.และส.ว.ที่ไม่ทำหน้าที่ควรจะให้เขาพ้นหน้าที่ อย่าไปเขาไปมีหน้าที่ เพราะเขามีแล้วไม่ทำ แต่เขากินเงินเดือน เสียน้อยเมื่อไร เงินเดือนเป็นแสนๆ แถมยังมีผู้ช่วยอีก เรามีการจ่ายเงินคงคลังของประเทศ เราก็ต้องได้ผลงานกับเงินที่จ่ายไปให้มันรวดเร็ว คุณภาพฉับพลันทันที ไม่ใช่หลบๆแอบๆ พวกส.ว.พวกอีแอบคอยแอบไปโน้น แอบไปนี่ ไม่ดูงาน ดูการ อันไหนสำคัญน้อย สำคัญมาก

นอกจากนี้ ยังมีพวกส.ว.ที่มาประชุม แต่ส่วนใหญ่งดออกเสียงด้วย ถ้างดออกเสียงอย่างนี้ ก็ควรงดเงินเดือนด้วยได้มั้ย ดังนั้น ประชาชนควรให้บทเรียนกันซักทีเถอะน่า อย่าเป็นประชาชนปัญญาอ่อน ไม่รู้จักเจ็บ จักจำ ไม่รู้จักบทเรียน ไม่รู้จักฉลาด มาช่วยกันสร้างชาติ สร้างระบบอะไรต่างๆให้บ้านเมืองมันดีกว่านี้เถอะ

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login