วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เข้าพรรษาอาจงดพูดการเมือง

On July 25, 2023

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม         

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 25 ก.ค. 66 )

การที่คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเป็นห่วงอาตมาว่า เชียร์พรรคก้าวไกลหรือคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เกินงาม กลัวจะทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ หรือกรณีของศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ที่ยื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติเรื่องแสดงออกทางการเมืองเชียร์พิธาจนเกินงามไม่เหมาะสมกับสมณเพศ 

เรื่องนี้ขอบอกว่า จับประเด็นเดียวไม่ได้ เรื่องที่ตำหนิ เรื่องที่ไม่เห็นด้วย ทำไมไม่เอามาพูด เรื่องเหล้า สุราพื้นบ้าน นี่ก็ไม่เห็นด้วย เรื่องแตะสถาบันแบบชนิดที่ไม่ยอมถอย นี่ก็เคยติ เคยตำหนิ ไม่ใช่เชียร์แบบหลับหู หลับตา ส่วนไหนที่ติง ตำหนิก็ว่าไป คนเรานี่ มันไม่มีใครหรอกที่จะไปชื่นชอบเชียร์ทุกเรื่อง ไม่มีทางที่ว่า คนเดียวเราเชียร์ทุกเรื่อง และข้อที่ตำหนิ ไม่ตำหนิ ไม่ติ ไม่เตียน ก็เป็นเรื่องที่มันไม่แน่นอน ลำเอียงเข้าข้าง พระก็รู้อยู่แล้วเรื่องอคติ การเข้าข้าง ลำเอียง ไม่มีผลดีเลย

อาตมาเองก็มีบทเรียนเรื่องนี้มาเยอะ จะเป็นเรื่องเหลือง แดง ก็โดนมาเยอะ ช้ำระกำทรวงพอสมควร ยิ่งมาตอนนี้ในติ๊กต๊อก มีอะไรต่ออะไรที่เขาด่ากันหยาบๆคายๆ เสียๆหายๆ มีคนถามทำอะไรอย่างนี้แล้วโดนด่า โดนอย่างนี้จะทำไง เราอยู่กับคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า เราเป็นเจ้าของบ้าน ถ้ามีแขกมาเยี่ยม แล้วเอาไอ้โน้น ไอ้นี่มาให้ เสียบ้าง ดีบ้าง หยาบบ้าง เท็จบ้าง แล้วเราจะทำอย่างไร เราเป็นเจ้าของบ้าน เราก็ต้องต้อนรับแขก ฟังเขาแจกโน้น ให้นี่ แล้วเราไม่รับ เราไม่มีที่วาง ที่เก็บ มันล้นวัด เราก็ต้องคืนเขาไป ให้เขารักษาเป็นมรดกบาปประจำตัวเขาต่อไป

ดังนั้น ใครที่มาเป็นห่วงอาตมาก็ขอขอบใจอย่างคุณอี้ที่เป็นห่วง แต่อย่าห่วงเลย เพราะว่า เราผ่านมาหลายอย่าง หลายยุค ตั้งแต่นิกร ยันตระ ธรรมกาย แล้วก็มาหลายๆเรื่องที่เราผ่านเรื่องความรู้สึกโดนด่า เพราะข้างที่ชอบ กับข้างที่ไม่ชอบ ตอนนั้น ข้างชอบยันตระก็ด่าพระพยอมอิจฉาเห็นเขาหล่อกว่าต่างๆนาๆ และบางครั้ง บางเรื่อง เราก็ถูกคนเชียร์บ้าง แล้วเราก็โดนด่าบ้าง มาเป็นอย่างนี้ ไม่รู้เท่าไรแล้ว ในชีวิตวัย 74 ปี ต่อแต่นี้จะได้ระวัง เข้าพรรษาอาจจะงดคำพูด คำจา เกี่ยวกับเรื่องการเมือง

เรื่องชอบใคร ไม่ชอบใครเนี่ย ส่วนใหญ่คนไปสรุปเอาเอง ตอนเรื่องเหลืองแดงก็เหมือนกัน เราก็พยายามทำให้ทุกอย่างที่ว่า จะได้มาประชุม มาพบกันที่วัดสวนแก้ว ไม่ไปปิดถนนหนทาง แต่แล้วพอบอกฝ่ายหนึ่งมา อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้มา เพราะเกิดปฏิวัติ เลยซัดผลักดันเราไปอยู่ข้างแดง มาคราวนี้เอาอีกแล้ว มีคนว่า พระพยอมเป็นหัวหน้าด้อมส้ม ถ้าเป็นหัวหน้าวัดก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว จะไปเป็นหัวหน้าโน้น หัวหน้านี้ ไปรับภาระอะไรเข้ามามากมาย มันเป็นแค่ความเห็นบางเรื่อง

บางเรื่องมันน่าจะดีน่ะ อย่างเรื่องเสมอภาคน่าจะทำได้บ้าง แต่คงไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องที่ใครจะบอกว่า พระพยอมเชียร์ล้มเจ้าเนี่ย อาตมาคงต้องฉันหญ้า ฉันข้าวแล้วไม่มีสมองว่า อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ใครที่เขาไปล้มเจ้าง่ายๆเนี่ย ถ้าเจ้ายังมีทศพิธราชธรรมไม่มีใครล้มได้หรอก ไอ้คนล้มมันจะล้มก่อน ถ้าไปล้มด้วยจังหวะเวลา เขาเรียกว่า ธรรมสัจจะ ต้องรู้ว่า ช่วงไหน เวลาไหน การณ์ไหน อีกเท่าไร ใช้เวลานี้หรือไม่  ถ้าคนไม่รู้ ไปแตะต้องแบบโง่ๆเขาก็ต้องเปลืองตัว เจ็บตัว และสูญเสียโอกาสอะไรต่างๆไปเยอะ

คนที่คิดจะล้ม จะทำอะไรกับสถาบัน ช่วงจังหวะที่ยังมีทศพิธราชธรรมอยู่ ไม่มีแตะต้องได้ แตะไปแล้วมีแต่เปลืองตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้นก็ขอบใจที่เตือนกันมา ตอนนี้ก็เริ่มมีคนมาพูดเตือนเยอะขึ้นๆ ที่ยุก็มี แต่ไม่เอา เรียกว่า ทั้งยุ ทั้งเตือน แล้วเป็นสติปัญญาที่เราควรจะไตร่ตรองว่า อะไรควร อะไรไม่ควร จบลงตรงนี้แหละ เพราะคนเราถ้ารู้เรื่องควร ไม่ควรได้ ทุกอย่างดีหมด

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login