- ปีดับคนดังPosted 10 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
กำเนิดมนุษย์ในวิทยาศาสตร์และศาสนา
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 28 ก.ค. 66 )
มนุษย์รู้จากคัมภีร์ทางศาสนามานานนับหลายพันปีแล้วว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาจากดินและพระองค์เป่าวิญญาณเข้าไปในดิน มนุษย์คนแรกจึงบังเกิดขึ้นเป็นเพศชายผู้ถูกเรียกว่าอาดัม
หลังยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นักวิทยาศาสตร์เริ่มสันนิษฐานว่ามนุษย์เกิดขึ้นจากการวิวัฒนาการอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยใช้เวลานับล้านปี
สมัยเป็นนักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษามหาวิทยาลัย ตำราวิทยาศาสตร์ที่กระทรวงศึกษาไปลอกตำราฝรั่งมากล่าวว่ามนุษย์เกิดขึ้นจากการที่สสารสามสี่อย่างรวมตัวกันในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจนเกิดเป็นก้อนโปรโตปลาสซึมและก่อตัวเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นต่ำที่ค่อยๆวิวัฒนาการเป็นมนุษย์ในเวลาต่อมา
ในขณะที่ทฤษฎีวิวัฒนาการหมดความน่าเชื่อถือไปแล้ว คัมภีร์กุรอานได้บอกเล่าถึงเรื่องราวการสร้างมนุษย์ไว้อย่างน่าสนใจกว่าทฤษฎีวิวัฒนาการเสียอีก กล่าวคือ เมื่อพระเจ้าจะสร้างมนุษย์ พระองค์ได้ตรัสกับบรรดาทูตสวรรค์ในอาณาจักรของพระองค์ว่า “ฉันจะสร้างเคาะลีฟะฮฺขึ้นมาในโลก”
คำว่า “เคาะลีฟะฮฺ” ในภาษาอาหรับหมายถึง “ตัวแทน, ผู้สืบทอด”
เมื่อพระเจ้าตรัสเช่นนั้น ทูตสวรรค์ได้กล่าวว่า “พระองค์จะทรงสร้างผู้ก่อความเสียหายและหลั่งเลือดบนหน้าแผ่นดินกระนั้นหรือทั้งๆที่พวกเราได้สดุดีและเทิดทูนความบริสุทธิ์ของพระองค์อยู่แล้ว”
พระเจ้าได้กล่าวกับทูตสวรรค์ว่า “แท้จริง ฉันรู้ในสิ่งที่สูเจ้าไม่รู้”
คำพูดของทูตสวรรค์ดังที่กล่าวไว้ในคัมภีร์กุรอานนี้ทำให้คนที่ศึกษากุรอานสงสัยว่าทำไมทูตสวรรค์คิดว่ามนุษย์จะสร้างความเสียหายและหลั่งเลือดกัน และสิ่งที่ทูตสวรรค์กล่าวไว้ก็เป็นจริงตั้งแต่รุ่นลูกของอาดัมมาจนถึงปัจจุบัน
นักวิชาการอิสลามได้อธิบายคำพูดของทูตสวรรค์ไว้ต่างๆนานา บางคนอธิบายว่า ทูตสวรรค์คิดเอาเอง เพราะทูตสวรรค์ถูกสร้างมาจากรัศมีและมีคุณสมบัติเชื่อฟังพระเจ้า ไม่ฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์ ทูตสวรรค์จึงไม่มีการหลั่งเลือดกัน แต่บางที ทูตสวรรค์อาจเคยเห็นพฤติกรรมของญินซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างมาก่อนมนุษย์และญินมีคุณสมบัติคล้ายมนุษย์ ต่างกันตรงที่ญินถูกสร้างมาจากไฟ แต่ญินมีเจตนารมณ์เสรีและมีอารมณ์ จึงเคยรบราฆ่าฟันกันมาก่อน
นักวิชาการบางคนกล่าวว่าทูตสวรรค์อาจเห็นหรือถูกบอกว่าพระเจ้าได้ใส่ความต้องการและความโกรธไว้เป็นคุณสมบัติของมนุษย์ด้วย คุณสมบัติสองอย่างนี้เองที่ทูตสวรรค์คิดว่าจะนำไปสู่การก่อความเสียหายและการหลั่งเลือดกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทูตสวรรค์ถามพระเจ้าเช่นนั้นก็เนื่องมาจากเมื่อได้ยินคำว่า “เคาะลีฟะฮฺ” ทูตสวรรค์ได้ถามว่าเคาะลีฟะฮฺเป็นอย่างไร พระเจ้าได้บอกว่าเขาจะสร้างความเสียหายและฆ่ากันบนหน้าแผ่นดิน ด้วยเหตุนี้ ทูตสวรรค์จึงถามพระองค์ด้วยความสงสัยดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
แต่นักอรรถาธิบายกุรอานคนหนึ่งกล่าวว่าเมื่อพระเจ้าสร้างนรกขึ้นมาและทูตสวรรค์ได้เห็น จึงเกิดความหวาดกลัวและถามพระองค์ว่านรกสร้างไว้สำหรับใคร พระเจ้าจึงตอบว่านรกถูกสร้างไว้สำหรับผู้ฝ่าฝืนพระองค์ เนื่องจากทูตสวรรค์ไม่เคยฝ่าฝืนพระเจ้า เมื่ออาดัมถูกสร้างมา บรรดาทูตสวรรค์จึงรู้ว่านรกถูกสร้างไว้สำหรับลูกหลานของอาดัม
การที่พระเจ้ากล่าวกับทูตสวรรค์ว่า “ฉันรู้ในสิ่งที่สูเจ้าไม่รู้” ก็เพราะทูตสวรรค์ยังไม่รู้จริงๆว่าพระเจ้าจะสร้างเหตุการณ์ที่เป็นบทเรียนให้เห็นถึงผลของการฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์ว่าเป็นอย่างไร
หลังจากสร้างอาดัมแล้ว พระเจ้าได้บัญชาทุกสิ่งในอาณาจักรของพระองค์ให้ก้มกราบอาดัม ทุกสิ่งทำตามคำบัญชาของพระองค์ ยกเว้นอิบลีสหัวหน้าซาตานไม่ยอมทำตาม มันโอหังอ้างว่ามันเหนือกว่าอาดัมเพราะมันถูกสร้างมาจากไฟ แต่อาดัมถูกสร้างมาจากดินโดยลืมไปว่ามันก็เป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างมาเหมือนกับสิ่งถูกสร้างอื่นๆ
ความโอหังและถือดีนี้เองทำให้อิบลีสฝ่าฝืนคำบัญชาของพระเจ้า ดังนั้น มันจึงต้องถูกลงโทษ เหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ทูตสวรรค์ได้เห็นความจริงและรู้ถึงผลของการฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้าอย่างชัดเจน
You must be logged in to post a comment Login