- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 6 hours ago
- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 1 day ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 2 days ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 3 days ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 4 days ago
- อย่าไปอินPosted 1 week ago
- ปีดับคนดังPosted 1 week ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 2 weeks ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 2 weeks ago
ภาคสังคมชี้เคสพ่อทำร้ายลูกชายวัย 6 ขวบ ต้องหักดิบ-หาตัวช่วย-และแยกเด็กออกห่าง
ติดพนันเป็นเหตุ พ่อทำร้ายลูก 6 ขวบกว่า 20 ครั้ง ภาคสังคมชี้ต้องหักดิบ-หาตัวช่วย-และแยกเด็กออกห่าง สสส.ชี้สัญญาณน่าเป็นห่วง นักพนัน 1 คนส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัว-คนใกล้ชิด 10-17 คนหนุนการรณรงค์-พัฒนากลไกบริการเลิกพนัน
จากกรณีพ่อทำร้ายลูกชายวัย 6 ขวบ รับสารภาพติดพนันออนไลน์อย่างหนัก หาเงินไม่ได้ เกิดอาการหงุดหงิดจึงทำร้ายลูก นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า “อยากให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าพนันเป็นสิ่งเสพติด การติดพนันเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง ยิ่งเล่นพนันออนไลน์ยิ่งมีโอกาสติดสูงมาก จากกรณีนี้ผู้กระทำผิดยอมรับว่าติดพนันออนไลน์มาถึง 3 ปี น่าจะมีอาการมากพอสมควร ผลจากการเสพติดพนัน เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ห้ามตัวเองไม่อยู่ ต้องเล่นพนัน และจะทุ่มเงิน ทุ่มเวลา ทุ่มชีวิตทั้งหมดลงไปกับการพนัน เบื้องต้นนักพนันมักจะมีการโกหกปกปิดความจริงกับคนใกล้ตัว จากนั้นเมื่อมีปัญหาการเงินก็จะเริ่มเบียดเบียนผู้อื่น ซึ่งแน่นอนว่าคนในบ้านคือแหล่งที่ใกล้ตัวที่สุด ถึงจุดนี้จะมีปัญหาสัมพันธภาพตามมา การมีปากเสียง ทะเลาะเบาะแว้ง และการทำร้ายร่างกาย ยิ่งในบ้านที่มีเด็กยิ่งมีโอกาสสูงที่ผู้ติดพนันจะกระทำความรุนแรงกับเด็ก”
“เมื่อรู้ว่าติดพนันต้องรีบเลิก ต้องหักดิบ หาทางหยุดเล่นให้ได้ทันทีโดยไม่มีข้อแม้ และต้องหาความช่วยเหลือ เพราะผู้ติดพนันไม่มีความเข้มแข็งภายในใจที่มากพอจะเลิกด้วยตัวเองได้ ถ้าครอบครัวมีความพร้อม ครอบครัวจะเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุด เพราะเขาต้องการความเข้าใจและต้องการความไว้วางใจ แต่ถ้าครอบครัวไม่พร้อมก็จำเป็นต้องหาตัวช่วยจากภายนอก เช่น พาไปโรงพยาบาลที่มีแผนกจิตเวช หรือโทรหาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เป็นต้น การติดพนันนำความทุกข์มาสู่ครอบครัวอย่างมาก เลิกได้แต่ก็ต้องใช้เวลา ขณะที่ผู้ช่วยเหลือต้องมีความอดทนอย่างสูง หากในบ้านมีเด็กต้องแยกเด็กให้ห่างจากผู้ติดพนัน” นายธนากรกล่าว
นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า ที่ผ่านมาสสส.สนับสนุนให้ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการสำรวจสถานการณ์พนันในสังคมไทยทั่วประเทศทุก ๆ 2 ปี ผลการสำรวจครั้งล่าสุดปี 2564 พบสัญญาณการติดพนันในสังคมที่น่ากังวล 1ใน 5 ของผู้เล่นพนัน หรือประมาณ 6.6 ล้านคนประเมินว่าตนเองติดพนัน สอดคล้องกับการประเมินด้วยแบบทดสอบทางสุขภาพจิตพบว่า มากกว่า 3.5 ล้านคนอยู่ในภาวะเสี่ยงจะเป็นผู้มีปัญหาจากการพนัน นักพนัน 1 คนส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวและคนใกล้ชิด 10-17 คน สสส.จึงสนับสนุนเครือข่ายภาคประชาสังคมในการรณรงค์ให้เกิดความตระหนัก “พนันเป็นสิ่งเสพติด” ส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็กเยาวชนให้มีทักษะการปฏิเสธหากถูกชวนพนัน และสนับสนุนให้มีการพัฒนาบริการให้คำปรึกษาผู้มีปัญหาพนัน ผ่านไลน์แอพพลิเคชั่น โดยแอดไลน์ระบายสายพนัน พิมพ์ @rabaisaipanun ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ยังสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาหลักสูตรอบรมบุคลากรภาคสังคมในพื้นที่ต่าง ๆ ให้สามารถเป็นผู้ให้คำปรึกษาปัญหาพนันได้ เพื่อให้เกิดหน่วยบริการใกล้บ้านที่เข้าถึงได้สะดวก และช่วยแบ่งเบาภาระของหน่วยบริการหลัก รวมถึงสนับสนุนให้มีนโยบายและมาตรการที่ควบคุม ป้องกัน และลดปัญหาที่เกิดจากการพนัน” นางก่องกาญจน์ กล่าว
You must be logged in to post a comment Login