- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
มาสร้างบารมีลดคดีกันเถอะ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 ก.ย. 66 )
ช่วงนี้คดีปล้นทอง คดีทำร้าย ชิงเงิน ชิงทองกัน รู้สึกว่า จะมาแรง มาหนัก แล้วตำรวจก็โชว์ฝีมือไปลากคอโจรพวกนี้มาได้ นั่งคอตก คอพับ มานั่งถึงว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนทำบาป ทำกรรม ทำเวช ทำชั่วนี่ เหมือนกินต้นไม้ที่มันมีลักษณะยอดมันอร่อย หวาน มัน แต่โคนมันเป็นพิษ คือ คนที่ทำบาป ทำชั่ว ทำเลว ตอนแรกเหมือนกินยอดใบอ่อน หวาน มัน แต่พอกินไปๆ มันกลายเป็นเจอรากพิษ เหมือนพ่นพิษให้ชีวิตถูกจับกุมคุมขัง ต้องโทษลงอาญาเสียอิสรภาพ นั่งแบบคนละสไตล์
การไปทุบ ไปตี ไปฆ่าเขานี่ ฮึกเหิมเหมือนพญาราชสีห์ แต่พอถูกจับแล้วเหมือนกับหมาแก่ หรือหมาตกระกำลำบาก ไม่มีอาการคึกคะนอง ฮึกเหิม แล้วก็หมดสภาพของความเป็นมนุษย์มีอิสรภาพ พอหมดสภาพถูกจับ ภาพพจน์ลายเสือ ลายอะไรมันก็หายไป เหลือแต่คนลักษณะอาการที่เรียกว่า สิ้นลาย คือ ไม่ออกอาการเหมือนตอนที่ไปทำร้ายเขา ต้องหนีหัวซุก หัวซุน ตอนถูกจับ ชีวิตคงจะรู้สึกแบบว่า เราไม่น่าทำๆ ภาษาธรรมะ เรียกว่า วิปติสาร
คือ นั่งร้อนใจ ทุรนทุราย เจ็บปวดกับความทำผิด แต่กว่าจะเจ็บปวดได้ ก็แน่นอน มันต้องรู้สึกฮึกเหิม เหิมเกริม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ไม่ละอายต่อบาป ทำไปอย่างชนิดที่เรียกกันว่า เหมือนคนไม่มีวุฒิภาวะ ไม่ได้บรรลุนิติภาวะ กลายเป็นคนที่เขาเรียกว่า เป็นเด็กไร้เดียงสา ซึ่งความเป็นเด็กไร้เดียงสาเนี่ย เล่นไฟ เล่นอะไรได้ จนกลายมันจะพองไหม้มือ ปล่อยแล้วก็เข็ด ไม่กล้าจับอีก แต่สำหรับเด็กโง่ที่ไร้เดียงสาอาจจะจับแล้ว จับอีก ร้อนแล้วร้อนอีก
เรียกว่า ผิดแล้ว ผิดอีก จนกระทั่งต้องเรียกว่า ชีวิตไร้เดียงสา ไม่บรรลุนิติภาวะแห่งความเป็นมนุษย์ที่ต้องรู้ผิด รู้ถูก รู้ชั่ว รู้ดี คนที่มีชีวิตอยู่แบบชนิดที่ไม่รู้ผิด รู้ถูก รู้ชั่ว รู้ดี ฆ่าเขาแล้วไปโยนทิ้งที่นั่น ที่นี่ แล้วก็หนีไป ตอนนี้การหนีความผิดต่างจากยุคเยอะ ยุคก่อนนี่มันจะไม่มีทิ้งร่องรอยภาพวงจรปิด เช่น ไป 2 คน กลับมาคนเดียว แล้วอีกคนหายไปไหน เขาก็ไปเจอเป็นศพแล้วก็ต้องไล่ล่าต่อไป
ไอ้พวกประเภทที่ต้องมาหนีหัวซุก หัวซุนนี่ คิดดูแล้ว คนที่ไม่ต้องหนี อยู่กับที่ อยู่กับบ้าน มันต่างกับที่ต้องทิ้งบ้านออกไปหนีหัวซุก หัวซุน นั่นคนที่จะทำผิด ทำชั่วอะไรต่างๆ ต้องนึกถึงบทเรียนเหล่านี้ว่า เราจะไม่เผลอใจ ปล่อยตัวไปทำชั่ว ทำผิด ทำเลว จนต้องหนี ไม่ได้อยู่กับบ้าน อยู่กับเรือน ปลูกเรือนไว้ ปลูกบ้านไว้ไม่ได้อยู่ ต้องไปอยู่คุก อยู่ตะราง หรืออยู่ช่วงที่หนีก็ลำบาก
ช่วงนี้กับช่วงถูกจับกุม มันจะต้องมีอะไรที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้ที่ทำผิดแล้วต้องหนี ต้องถูกจับ เพราะฉะนั้น เราเกิดมาเป็นมนุษย์ อย่าให้ชีวิตนี้หลุดเข้าไปสู่วงจรต้องหนี ต้องถูกดำเนินคดี มาร่วมกันสร้างบารมีกันเถอะ เพื่อลดคดีลงได้บ้าง อะไรที่มันเป็นสิ่งที่ทำแล้วอยู่ดี มีสุขกับทำแล้ว ต้องไปอยู่ร้อน นอนทุกข์ ติดคุก ติดตะราง มันไปคนละทาง เลือกทางเดินที่ดีกันหน่อยเถอะ มนุษย์ปัจจุบันเอ๋ย อย่าเป็นเด็กไร้เดียงสาเลย ไม่รู้ผิด รู้ถูกอะไรซะเลย เสียชาติเกิดจริงๆ ต้องกลับมาอยู่กับความดีต่อไปให้ได้
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login