- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
พิสูจน์ด้วยตัวเลข เศรษฐาไปภูเก็ตเพื่อแสนสิริ?
คอลัมน์ :โลกอสังหาฯ
ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 19 ก.ย. 66)
มีข่าวลือกันว่าการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ภูเก็ตก็เพื่อผลประโยชน์ในการขายอสังหาริมทรัพย์ของ บมจ.แสนสิริ เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอย่างไร ดร.โสภณมาให้คำตอบด้วยตัวเลข
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ซึ่งได้สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2537 กล่าวว่า บมจ.แสนสิริได้เริ่มพัฒนาโครงการที่ภูเก็ตตั้งแต่ปี 2554 (ปีน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพมหานคร) โดยตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลา 12 ปี ได้พัฒนาทั้งหมด 16 โครงการ รวมหน่วยขายทั้งหมด 6,248 หน่วย มีมูลค่ารวม 16,899 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.7 ล้านบาทเท่านั้น สินค้าส่วนใหญ่ทำขายให้กับคนไทยในภูเก็ตทั้งคนท้องถิ่นและคนไทยที่มาทำงานในภูเก็ตมากกว่าที่จะขายให้ชาวต่างชาติ
ณ กลางปี 2566 บมจ.แสนสิริมีโครงการที่ยังขายอยู่เพียง 3 โครงการ มีหน่วยขายรวมกันเพียง 609 หน่วย รวมมูลค่าเพียง 1,940 ล้านบาท ทั้งนี้หน่วยขายหนึ่งๆ มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.185 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทยมากกว่าชาวต่างประเทศ ทั้งนี้เป็นบ้านเดี่ยว 119 หน่วย บ้านแฝด 72 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 144 หน่วย และห้องชุด 274 หน่วยเท่านั้น ทั้งนี้ไม่ได้เน้นการพัฒนาแบบบ้านหรูพูลวิลล่า
ดังนั้นจากตัวเลขข้างต้นจึงอาจกล่าวได้ว่าการไปปฏิบัติภารกิจที่ภูเก็ตดังกล่าว คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นยอดขายของ บมจ.แสนสิริแต่อย่างใด ยิ่งกว่านั้นบริษัทนี้ยังมีโครงการในจังหวัดอื่นๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศ ถือเป็นบริษัทมหาชนที่พัฒนาที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูมิภาค (นอกเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล) มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองเพียง บมจ.ศุภาลัยเท่านั้นในขณะนี้ แต่เมื่อก่อนโควิด-19 ระบาด บมจ.แสนสิริเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินที่พัฒนาในจังหวัดภูมิภาคสูงสุดโดยพัฒนาในหลายจังหวัดทั่วทุกภูมิภาค
อนึ่งในการให้ข้อมูลนี้ ดร.โสภณไม่ได้ฝักใฝ่ทางการเมือง เพียงแต่นำข้อมูลมานำเสนอเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และทำความจริงให้ปรากฏเท่านั้น
You must be logged in to post a comment Login