- อย่าด้อยค่าวันสำคัญศาสนาPosted 4 hours ago
- เสียเพราะรักPosted 3 days ago
- ตำรวจไทยโชว์ฝีมือPosted 4 days ago
- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 5 days ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 6 days ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 week ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 1 week ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 2 weeks ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 2 weeks ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 2 weeks ago
สสส.-จุฬาฯ-TIMS-กทม. ร่วมรณรงค์รับวันสุขภาพจิตโลก 10 ต.ค.ในงาน “Better Mind Better Bangkok”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/10/12-2.jpg)
สสส.-จุฬาฯ-TIMS-กทม. ร่วมรณรงค์รับวันสุขภาพจิตโลก 10 ต.ค.ในงาน “Better Mind Better Bangkok” เปิดพื้นที่ระดมผู้เกี่ยวข้อง-นวัตกรรม สร้างความยั่งยืนทางสุขภาพจิต หลังพบสถานการณ์ปัญหาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปเป็นโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน ขณะที่ผู้ป่วยทางจิตเวชเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในรอบ 6 ปี
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/10/1-21.jpg)
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2566 ที่ สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (Thailand Institute for Mental Health Sustainability : TIMS) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่าย ร่วมรณรงค์เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก 10 ต.ค. 2566 ในงาน “Better Mind Better Bangkok” ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สังคมไทยมักเห็นปัญหาสุขภาพจิตตอนมีปัญหา ซึ่งไม่ทันต่อสถานการณ์ เพราะการสร้างบุคลากรดูแลเยียวยารักษาอย่างไรก็ไม่เพียงพอ จึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมสุขภาพจิต แต่ต้องไม่มองแค่เรื่องจิตใจ ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น เศรษฐกิจครัวเรือน สิ่งแวดล้อมด้วย งานวันนี้ เป็นการหาช่องว่างในการทำงานสร้างเสริมสุขภาพจิตแล้วช่วยกันอุด และสร้างเครือข่ายที่จะเป็นกลไกสำคัญในการดูแลคุณภาพชีวิตคนทั้งใน กทม. และประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้น
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/10/4-17.jpg)
ผศ.ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ ผู้อำนวยการ TIMS กล่าวว่า สถาบันฯ ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด ความยั่งยืนทางสุขภาพจิต คือความสามารถในการสร้างเสริมและรักษาไว้ซึ่งสุขภาวะทางจิตบนฐานของความต้องการของผู้คนและสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคต จาก 4 ปัจจัย 1. ความสงบทั้งภายในตัวเองและสังคม ที่มาจากปฏิสัมพันธ์บนการสื่อสารที่มีอารยะ ปราศจากความรุนแรง 2. ความเป็นธรรม ลดสภาพการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ลดช่องว่าง เพื่อส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมและมากขึ้น 3. ความสามารถปรับตัว ฟื้นฟูและอยู่ร่วมกันกับตนเองและผู้อื่น 4.ความปลอดภัย มีเครื่องมือและเทคนิคสร้างพื้นที่ปลอดภัย ส่งเสริมให้ทุกคนมีความมั่นคงและแข็งแรงอารมณ์
“ตัวกำหนดความยั่งยืนทางสุขภาพจิต ประกอบด้วย 1. องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพจิต 2. ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพจิต 3. เครือข่ายวิชาการด้านความยั่งยืนทางสุขภาพจิต งานนี้เป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาความรู้เชิงวิชาการและเครือข่ายนักวิชาการด้านการสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต พัฒนาและผลักดันนวัตกรรมและข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการสร้างเสริมสุขภาพทางจิตบนองค์ความรู้และหลักฐานทางวิชาการ ประกอบด้วย 4 เวทีเสวนา โดยนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจ อาทิ เขื่อน-ภัทรดนัย เสตสุวรรณ, รัศมีแข ฟอเกอร์ลุนด์ฟ, อุ๋ย บุดดาเบลส-นที เอกวิจิตร์ อีกทั้งมีกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพจิตมากมาย เช่น ห้องนั่งเล่นของหัวใจ จัดการความคิด อารมณ์ ด้วยเครื่องมือดูแลสุขภาพจิตในแบบฉบับที่จับต้องได้ กิจกรรมศิลปะ Emotional Wheel และ VR for Mental Health สำรวจความรู้สึก และความหวังของตัวเองผ่านการใช้สี oil pastel กิจกรรม Check Up My Mind ประเมินสุขภาพจิตและคัดกรองความเครียดเบื้องต้น” ผศ.ดร.ณัฐสุดา กล่าว
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/10/6-6.jpg)
ดร.ชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า ข้อมูลสถิติล่าสุดของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตในไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จำนวนผู้ป่วยทางจิตเวช เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จาก 1.3 ล้านคนในปี 2558 เป็น 2.3 ล้านคน ในปี 2564 ขณะที่คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน สสส. ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพจิตประชาชน มุ่งเน้น “สร้างเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิต” สนับสนุนการสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับบุคคล สังคม สิ่งแวดล้อม และนโยบาย ด้วยการพัฒนาศักยภาพผู้นำการเปลี่ยนแปลง สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม โดยสอดประสานการใช้องค์ความรู้จิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychology) ที่ American Psychological Association เน้นย้ำถึงความสำคัญ นอกจากนี้ยังผลักดันร่วมกับการเคลื่อนนโยบาย รวมทั้งสื่อสารสาธารณะควบคู่การดำเนินการในพื้นที่ เพื่อสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพจิตให้ประชาชนทุกช่วงวัย สามารถเข้าใจตนเองและบุคคลรอบข้าง มีความเข้มแข็งทางใจ ทักษะเชิงบวก สามารถจัดการอารมณ์ ความเครียด สามารถรับมือ และจัดการปัญหาต่าง ๆ ได้
“สำหรับแนวทางส่งเสริมการสื่อสารเชิงบวกให้กับสังคม สสส. เร่งสื่อสารผ่านการประยุกต์ใช้จิตวิทยาเชิงบวก เพื่อสร้างคุณภาพชีวิต และความสุข โดยเน้นไปที่ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) การมองโลกในแง่ดี (Optimism) การล้มแล้วลุกไว (Resilience) และลดการตีตราผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพจิตสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ โดยมีกิจกรรมสร้างประสบการณ์และผลิตงานเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์และกิจกรรมกลุ่มในรูปแบบที่หลากหลาย รวมทั้งรวบรวมองค์ความรู้สื่อสารและมีความร่วมมือและสื่อ เช่น นักเขียน ผู้ผลิตละคร อินฟลูเอนเซอร์ นักประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างคอนเทนต์สื่อสารเชิงบวกกับสังคม แนะแนวทางการสื่อสารให้ทุกคน เท่าทันความรู้สึกและสติ บอกความรู้สึกตนเอง ชื่นชมให้เกียรติกัน รับฟัง เข้าใจ ไม่ตัดสิน และค้นหาทางออกร่วมกัน ” ดร.ชาติวุฒิ กล่าว
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/10/10-7.jpg)
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/10/11-6.jpg)
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/10/8-8.jpg)
You must be logged in to post a comment Login