- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 12 hours ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 1 day ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 2 days ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 4 days ago
- อย่าไปอินPosted 7 days ago
- ปีดับคนดังPosted 1 week ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 2 weeks ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
เอ้ก ดิจิทัล จับมือ ลิสเตอรีน คว้ารางวัล Excellence in Omnichannel
เอ้ก ดิจิทัล (EGG Digital) ผู้นำธุรกิจด้านวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และผู้ให้บริการที่ปรึกษาวางแผนการตลาดดิจิทัล รวมถึงสื่อโฆษณาค้าปลีก ร่วมมือกับ ลิสเตอรีน (LISTERINE) ส่งแคมเปญการตลาด SCREEN TO STORE คว้ารางวัลความเป็นเลิศด้านการตลาดระดับ Gold ในประเภท Excellence in Omnichannel จากเวทีระดับนานาชาติ Marketing Excellence Awards 2023 จัดโดยนิตยสาร MARKETING-INTERACTIVE ประเทศสิงคโปร์ ตอกย้ำความสำเร็จในการใช้ First Party Data และเทคโนโลยีขั้นสูง มาวางกลยุทธ์การใช้รีเทลมีเดียแบบ Personalization and Insight-led Omnichannel และวางแผนคอนเทนต์แบบ Personalized เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มอย่างสม่ำเสมอตลอดเส้นทาง (Consistent Experience) ตั้งแต่สร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วมกับแบรนด์ไปจนถึงปิดการขาย โชว์ผลงานสุดเจ๋ง ช่วยดันส่วนแบ่งทางการตลาดของลิสเตอรีนเติบโตขึ้น 15% พร้อมสร้างยอดขายจากกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 38%
นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media ให้บริการสื่อโฆษณาแบบ Omnichannel ครบวงจร (End-to-End) ครอบคลุมสื่อโฆษณาในห้าง (In-Store Media) สื่อโฆษณาออนไลน์ (Digital Media) และสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out-of-Home) หรือ Shoppers’ Digital Screen โดยเอ้ก ดิจิทัล ถือเป็นผู้ให้บริการรายแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ใช้ดาต้า และเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI, Machine Learning และดิจิทัลแพลตฟอร์ม มาขับเคลื่อนบริการสื่อโฆษณา พร้อมยึดแนวทางการวางกลยุทธ์การใช้สื่อเชิงลึกด้วย Intelligent O2O2O Media Solution เป็นหัวใจสำคัญในการให้บริการ สำหรับความร่วมมือกับลิสเตอรีนในครั้งนี้ มีโจทย์สำคัญคือ ลิสเตอรีน ต้องการผลักดันให้ตลาดน้ำยาบ้วนปากในไทยเติบโตด้วยการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนที่ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากมาก่อน และรักษาการเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากโดยไม่ใช้กลยุทธ์ด้านราคา”
เอ้ก ดิจิทัลเล็งเห็นว่า การเพิ่มยอดขายในกลุ่มลูกค้าที่อยู่นอก Category จำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ต้องวาง กลยุทธ์การสื่อสารผ่านสื่อโฆษณาอย่างครบลูป ควบคู่กับการ Test & Learn ทดสอบและปรับการสื่อสารระหว่างดำเนินการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สามารถกระตุ้น และปิดการซื้อ ณ จุดขาย โดยเรียกแคมเปญการโฆษณานี้ว่า SCREEN TO STORE โดยบริษัทฯ เริ่มดำเนินการด้วยการนำบิ๊กดาต้าของโลตัส ห้างค้าปลีกชั้นนำ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญของเอ้ก ดิจิทัล และเป็นช่องทางจำหน่ายหลักที่สร้างยอดขายให้ลิสเตอรีน มาวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของกลุ่มลูกค้าเดิมที่เคยซื้อลิสเตอรีน ทั้งเรื่องรายการสินค้า ค่าใช้จ่ายต่อใบเสร็จ ความถี่ในการซื้อ ฯลฯ จากนั้นประมวลผลเป็นอินไซต์และปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่ (New Category) ได้เป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและ ความงาม กลุ่มลูกค้าที่ซื้อของแห้ง และกลุ่มลูกค้าที่ซื้ออาหารสด
SCREEN TO STORE ถือเป็นแคมเปญแรกของลิสเตอรีนที่ใช้กลยุทธ์ Omnichannel media ที่ประสานการทำงานของสื่อโฆษณาออนไลน์ (Digital Media) และสื่อโฆษณาในห้าง (In-Store Media) เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอตลอดเส้นทางการซื้อสินค้า ตั้งแต่การสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์ ผ่านการใช้โซเชียลมีเดียของห้างค้าปลีก โดยวางกลยุทธ์ยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ทั้ง 3 กลุ่ม และกลุ่มลูกค้าเดิมของแบรนด์ ขณะเดียวกันยังกระตุ้นการตัดสินใจซื้อการใช้ In-store Media ในรูปแบบ Extra Shelf Display ในบริเวณสินค้าที่กลุ่มเป้าหมายเดินช้อปปิ้ง เช่น บริเวณสินค้ากลุ่มแชมพู ครีมอาบน้ำ เครื่องดื่ม 3 in 1 หรือผักสดและอาหารสด เป็นต้น พร้อมใช้กลยุทธ์ Trailor-made คอนเทนต์ให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม โดยคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียและชั้นวางสินค้าจะต้องสอดคล้องกัน เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากซื้อ เพิ่มโอกาสในการหยิบสินค้าลงตะกร้า นำไปสู่การปิดการขายในที่สุด
แคมเปญ SCREEN TO STORE สามารถผลักดันให้ลิสเตอรีนบรรลุเป้าหมายในทุกด้าน ได้แก่ ครองความเป็นผู้นำตลาด ช่วยเพิ่ม ส่วนแบ่งทางการตลาดได้ถึง 15% และยอดขายจากลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่เคยซื้อน้ำยาบ้วนปากแบรนด์ใดมาก่อน เติบโตขึ้น 38% รวมถึงสามารถกระตุ้นสัดส่วนการตอบสนองต่อโฆษณา (Conversion Rate) 4.42 เท่า เพิ่มมูลค่าการซื้อต่อครั้ง (Spending per Shopper) เพิ่มขึ้น 1.19 เท่า และเพิ่มผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ได้มากถึง 2.34 เท่า สะท้อนให้เห็นว่า กลยุทธ์การทำตลาดแบบ Personalization and Insight-led Omnichannel เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักการตลาดในยุคปัจจุบัน ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น นำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการขาย ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ และตัดสินใจซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น
“การคว้ารางวัลระดับ Gold จากเวที Marketing Excellence Awards 2023 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเอ้ก ดิจิทัล และถือเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จของธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media และทีมพนักงานทุกคนที่มุ่งมั่นวางแผนการใช้สื่อโฆษณาที่
ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องขอขอบคุณลูกค้าและพาร์ตเนอร์ที่ให้ความไว้วางใจและผลักดันให้สามารถพัฒนาแคมเปญได้อย่างเต็มที่และสร้างสรรค์ รวมถึงทีมงานเอ้ก ดิจิทัลทุกคนที่ทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า” นายชัชพล กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ รางวัล Marketing Excellence Awards จัดขึ้นโดย MARKETING-INTERACTIVE นิตยสารออนไลน์ชั้นนำระดับเอเชียด้านการโฆษณาและการตลาดจากประเทศสิงคโปร์ เพื่อยกย่องและมอบรางวัลให้กับองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการจัดแคมเปญการตลาดที่โดดเด่นของประเทศไทย มีการวางกลยุทธ์และสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งดำเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้เข้ารอบและตัดสินโดยคณะกรรมการอิสระ ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทรงคุณวุฒิและแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรม
You must be logged in to post a comment Login