- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
เริ่มย้ายแหล่งเผยแผ่อิสลาม
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 17 พ.ย. 66 )
การประกาศคว่ำบาตรนบีมุฮัมมัดโดยหัวหน้าชาวเมืองมักก๊ะฮฺที่ต่อต้านอิสลามทำให้ผู้คนในตระกูลของท่านหลายคนต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย แต่เป็นเรื่องน่าประหลาดที่ญาติพี่น้องของท่านหลายคนหรือแม้แต่ลุงของนบีมุฮัมมัดซึ่งไม่ได้เป็นมุสลิมก็ยอมร่วมชะตากรรมเดียวกันกับท่านด้วย
ในระหว่างการถูกปิดล้อม นอกจากจะใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแล้ว นบีมุฮัมมัดยังต้องปวดร้าวหัวใจอีกเมื่ออบูฏอลิบผู้เป็นลุงที่ให้ความคุ้มครองท่านและนางเคาะดีญะภรรยาที่คอยให้กำลังใจและช่วยเหลือท่านมาโดยตลอดได้ตายจากไป
เมื่อการคว่ำบาตรสิ้นสุดลง นบีมุฮัมมัดเห็นว่าหัวใจของชาวมักก๊ะฮฺไม่ต่างอะไรไปจากหินที่แข็งกระด้าง เมล็ดพันธุ์อิสลามที่ท่านหว่านไปเป็นเวลาสิบปีไม่งอกเงย ท่านจึงมุ่งหน้าสู่เมืองฏออีฟด้วยความหวังว่าผู้คนจะยอมรับคำสอนของท่าน
แต่เมื่อไปถึงที่นั่น ท่านกลับถูกต่อต้านไม่ต่างจากในมักก๊ะฮฺ หัวหน้าชาวเมืองยุยงให้เด็กและวัยรุ่นขับไล่ท่านด้วยการเอาหินขว้างจนร่างของท่านโชกไปด้วยเลือดจนต้องหนีออกจากเมือง ระหว่างนั่งพักเหนื่อยจากการหนีพวกวัยรุ่น ทูตสวรรค์ได้มาหาท่านและพูดกับท่านว่าหากท่านต้องการลงโทษชาวเมืองที่ทำกับท่าน เมืองนี้จะถูกทำลายทันที
แต่นบีมุฮัมมัดกล่าวว่า “บางทีคนรุ่นนี้อาจไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันนำมาสอน แต่วันข้างหน้า ลูกหลานของพวกเขาจะเข้าใจ” และก็เป็นเช่นนั้นจริง เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ชาวเมืองฏออีฟได้หันมาเข้ารับอิสลาม
นบีมุฮัมมัดเดินทางกลับมายังเมืองมักก๊ะฮฺด้วยความรู้สึกว่าภารกิจของท่านคงไม่ประสบความสำเร็จแล้ว แต่เมื่อเทศกาลฮัจญ์มาถึง ท่านเริ่มมีความหวังขึ้นมา เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่ชาวอาหรับจากที่ต่างๆจะเดินทางมาทำพิธีแสวงบุญที่เมืองมักก๊ะฮฺ มันจึงเป็นโอกาสให้ท่านได้เริ่มเผยแผ่สั่งสอนเรื่องความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวแก่ผู้เดินทางมาแสวงบุญ
ขณะเดียวกัน หัวหน้าชาวมักก๊ะฮฺก็ส่งคนไปยังกลุ่มคนต่างๆที่มาทำฮัจญ์และพูดจาใส่ร้ายนบีมุฮัมมัดด้วยคำกล่าวหาสารพัดเพื่อมิให้คนหลงเชื่อท่าน แต่ผลกลับเป็นไปในทางตรงข้าม ยิ่งคนได้ยินเรื่องเสียหายเกี่ยวกับนบีมุฮัมมัด มันยิ่งกลับทำให้ผู้คนอยากมาพบเห็นท่านด้วยตาตัวเอง ดังนั้น ในช่วงเทศกาลฮัจญ์ บุคลิกและคำสอนของนบีมุฮัมมัดจึงแพร่กระจายไปยังผู้คนในเผ่าต่างๆดุจดังไฟลามทุ่ง
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้นบีมุฮัมมัดเริ่มมีความหวังมากขึ้นก็คือ ตัวแทนของสองเผ่าใหญ่ที่ขัดแย้งกันในเมืองยัษริบได้มาพบท่านและเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่าน จึงเข้ารับอิสลาม ไม่เพียงเท่านั้น คนกลุ่มนี้ซึ่งมีประมาณหกคนได้เชิญชวนท่านไปยังเมืองยัษริบและสัญญาว่าจะให้ท่านเผยแผ่อิสลามอย่างเสรี ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขาจะให้ความช่วยเหลือท่านด้วย
แม้จะรู้ถึงความปรารถนาดีของคนกลุ่มนี้ แต่นบีมุฮัมมัดยังไม่ตัดสินใจตามคนกลุ่มนี้ไป ท่านรอดูว่าคนกลุ่มนี้จะจริงใจกับท่านหรือไม่ ปีต่อมา คนกลุ่มนี้มาทำพิธีฮัจญ์อีกและพาคนมาเข้ารับอิสลามกับท่านหลายคน ท่านจึงมั่นใจ แต่ถึงกระนั้น ท่านต้องรอคำบัญชาจากพระเจ้าก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คนกลุ่มนี้จะเดินทางกลับไปยังเมืองยัษริบ นบีมุฮัมมัดได้ให้พวกเขาทำสัญญากับท่านก่อนว่าพวกเขา
จะไม่เคารพกราบไหว้สิ่งใดควบคู่ไปกับอัลลอฮฺ
จะไม่ขโมย ไม่ทำชู้และไม่ผิดประเวณี
จะไม่ฆ่าลูกๆ
จะละเว้นจากการกล่าวร้ายและใส่ความผู้อื่น
จะเชื่อฟังนบีในสิ่งที่ถูกและจะศรัทธาในท่านทั้งในยามทุกข์และสุข
นี่เป็นคำมั่นสัญญาที่ทำให้นบีมุฮัมมัดเตรียมการทะยอยอพยพสาวกของท่านที่ถูกกดขี่ข่มเหงออกจากเมืองมักก๊ะฮฺไปยังเมืองยัษริบ
You must be logged in to post a comment Login