- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
อย่ายึดติดมากเกินเหตุ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 20 พ.ย. 66 )
ช่วงนี้มีข่าว 2 อย่าง ทั้งบวก ทั้งลบ พวกหนึ่งแอบอ้างความศักดิ์สิทธิ์ ความวิเศษ เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ มีจิตตานุภาพ รักษาคนให้หายโรคด้วยตบ ด้วยถีบต่างๆนาๆ ในที่สุดกลายเป็นเรื่องต้องคดีไป แล้วก็จะเกิดเรื่อยๆ มีผู้วิเศษที่นั่น ที่นี่ ที่โน้น คนก็ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อกันไปโดยไม่คิดว่า มันหายครั้ง หายหนมาแล้ว เรื่องหลอกๆพรรณ์นี้เอาเงิน เอาทองไปเยอะแยะ แล้วก็โดนจับ หนักๆเข้าก็เลิกล้มความเป็นวิเศษ
แต่เงินทองที่ญาติโยมจ่ายไปนั้นไม่ได้คืน นี่ คือ เรื่องหนึ่ง และอีกเรื่องหนึ่งรู้สึกจะตรงกันข้ามเห็นจะเป็นเรื่องเอาพระเครื่องมาทำเป็นขนมคุกกี้ เป็นพระสมเด็จด้วยน่ะ นึกๆว่า เรื่องนี้มันก็ไม่ได้เสียหายมากมาย มันเป็นเรื่องความคิดที่อยากจะให้สินค้าของตัวเองจำหน่ายขายดีในญี่ปุ่น จีน ประเทศอะไรต่างๆ เขาบอกทำแล้วขายดีมาก
ทีนี้มาถึงบ้านเราก็มีคน 2 พวก คือ พวกเชิงอนุรักษ์กับพวกเสรี พวกเสรีก็อยากทำอะไรตามที่ตัวเองคิดว่า ไม่ผิดกฎหมาย แต่เรื่องศีลธรรไม่สนใจแล้ว มันไม่ผิดกฎหมาย ทีนี้มาถึงตรงที่ว่า ทำยังไงดี ตอนนี้เหตุการณ์ชักไปกันใหญ่ มีการวิพากษ์วิจารณ์ไม่เหมาะสม และมีการอ้างพวกที่เห็นด้วยว่า คิดอะไรแปลกดี ดังนั้น ขอให้ฝ่ายเชิงอนุรักษ์และพวกเสรีต้องไตร่ตรองกันดูให้ดี อย่างเมื่อก่อนเขาทำเหรียญ ทำอะไร มันไปในลักษณะสายมู แขวนคอ
ยุคนี้มันกลืนเข้าคอแล้ว ความเป็นพระ เป็นรูปสมเด็จอะไรขึ้นมา ไม่แขวนคอ กลืนเข้าคอกันเลย อันนี้เป็นเรื่องแปลก แต่ว่า ถ้าทำแบบนี้ไม่ใช่ว่า มันเพิ่งจะเกิด ไอศกรีมที่วัดอรุณฯเขาก็เอาเสมา เอากระเบื้อง เอาลายแปลกๆมาทำเป็นไอศรีม เป็นไอติมกินทานสนุกสนานไป แล้วก็ขายดี ตอนนี้ถ้าทำแบบนี้สมัยก่อนเราก็เคยทำขนมคุกกี้แทบทุกครั้ง อย่างจตุคามรามเทพดัง วัดสวนแก้วเลยทำจตุคามขนมคุกกี้ขึ้นมา
ปรากฏว่า คนแห่มาซื้อกันน่าดู แต่เรายังไม่ได้ทำเป็นพระพุทธรูป หรือพระพุทธเจ้า เป็นพรไม่ได้ทำ เพราะจตุคามไม่ถือว่า เป็นพระ ทีนี้พอมาทำแบบนี้เข้าคนก็วิพากษ์วิจารณ์ ถ้าเราจะอยู่กันตรงทางสายกลางน่ะ ควรจะเอารูปธรรมจักร รูปเสมาตรีรัตนะอะไรพวกนี้เอามาทำให้มันเป็นลักษณะว่า ออกมาเป็นสัญลักษณ์ ประติมากรรมพุทธ แต่ไม่เกี่ยวกับพระพุทธรูป เป็นปริศนาธรรมได้
อันนี้คงจะไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์มากนัก แต่พอมาเป็นขนมคุกกี้สมเด็จนี่ เรียกว่า คล้ายสมเด็จว่างั้นเถอะ อาจจะทำให้ระคายเคืองเรื่องของความเป็นสายมู สายอนุรักษ์ สายศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ คงจะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปสักระยะหนึ่ง แต่เชื่อเถอะเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เดี๋ยวก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรที่จะยั่งยืน เสียหายมากมายนัก ทำใจสบายๆ อย่าไปยึดติดแบบศาสนาจนมาเป็นเรื่องหนักใจ ทุกข์ใจกันเปล่าๆ
ใครจะทำอะไร เราใช้ศาสนาเหมือนพุ่มแพเพื่อข้ามฟากจากความทุกข์ไปสู่ความพ้นทุกข์ เราไม่จำเป็นต้องแบกแพ นี่เขาแนะนำกันมาอย่างนี้ตลอด ถ้าเราแบกแพ แบกศาสนา ยึดติดศาสนามากเกินเหตุ เราก็ชักจะไม่ค่อยเป็นสุข เพราะเราแบกแพ ถ้าปล่อยวางแพไว้ริมตลิ่ง คนอื่นจะมาข้ามไปทำยังไง เราก็ให้มันรู้สึกว่า ไม่ต้องหนักใจ ไม่ต้องทุกข์ ให้อยู่กับความสบายอก สบายใจ ไม่คิดอาฆาต พยาบาทคนที่คิดผลิตทำขนมคุกกี้รูปพระ เราก็อยู่ของเราได้สบาย
ส่วนเขาจะทำยังไงกัน ทางบ้านเมืองเขาก็มีคนตักเตือนอะไรกันเอง มีกฎหมาย มันล่วงล้ำกล้ำเกินมากมั้ย แต่ถ้ามันไม่มาก ทางกฎหมายเอาผิดไม่ได้ เราจะไปเดือดร้อนใจมากเกินไป มันก็ขาดทุนเปล่าๆว่างั้นเถอะ
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login