- เสียเพราะรักPosted 2 days ago
- ตำรวจไทยโชว์ฝีมือPosted 3 days ago
- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 4 days ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 5 days ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 6 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 1 week ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 1 week ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 2 weeks ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 2 weeks ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 2 weeks ago
“สสส.–สกสว.–ศวอ.–มช.–สภาลมหายใจเชียงใหม่” สานพลัง 60 ภาคี เปิดเวทีถกประเด็น “อากาศสะอาด”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/12/06-7.jpg)
ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.), มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษอากาศ (ศวอ.) และมูลนิธิเพื่อลมหายใจเชียงใหม่ จัดการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งที่ 1 (Thailand National PM2.5 Forum) หัวข้อ “อากาศสะอาด : ความรับผิดชอบร่วมของรัฐ เอกชน และประชาสังคม”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/12/03-9.jpg)
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนแทบทุกพื้นที่ รัฐบาลให้ความสำคัญในการวางแผนรับมือ ป้องกัน และแก้ไขวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องฝุ่น PM2.5 ที่สถานการณ์รุนแรงขึ้นทุกปี คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ได้เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และ “มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ประจำปี 2567” และเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2566 นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน หรือ บอร์ดฝุ่นชาติ เพื่อเป็นกลไกเร่งรัดจัดทำแผนและดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นควัน PM2.5 ทั้งระบบ และบูรณาการหน่วยงานรัฐบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ปัญหาหมอกควัน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/12/07-6.jpg)
“และเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ. บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … และรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ มีสาระสำคัญกำหนดกลไกบริหารจัดการและควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศในทุกมิติ มีคณะกรรมการทำหน้าที่ขับเคลื่อนเชิงนโยบาย เชิงวิชาการ และบริหารจัดการเชิงพื้นที่ กำหนดมาตรการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิด ทั้งโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ เกษตรกรรม การคมนาคมและขนส่ง การเผาในที่โล่ง เผาป่า เผาในพื้นที่เกษตรกรรม ก่อสร้าง หมอกควันข้ามแดน ตลอดจนมีเครื่องมือ หรือมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อเป็นกลไกสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ รวมถึงประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมรับผิดชอบ และมีบทบาทหน้าที่ในการควบคุม ปรับลด และแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศร่วมกัน” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าว
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/12/08-4.jpg)
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดจากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ หรือ Health Data Center (HDC) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2566 พบว่า เฉพาะปีนี้ ทั้ง 13 เขตสุขภาพ มีการป่วยด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศ รวมกว่า 9 ล้านคน สะท้อนความรุนแรงของฝุ่น PM2.5 ต่อสุขภาพประชาชนชัดเจน สสส. ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้ปฏิบัติงานกลางแจ้ง มีความเสี่ยงป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคไม่ติดต่อ (NCDs) จึงยกระดับการดำเนินงานด้านปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ เรื่อง “ลดผลกระทบสุขภาพจากมลพิษทางสิ่งแวดล้อม” เป็น 1 ใน 7 ยุทธศาสตร์ 10 ปี (2565-2574)” ขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยพลังปัญญา สังคม และนโยบาย ผ่านการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ จัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศวอ.) เพื่อสนับสนุนงานวิชาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ หนุนเสริมเครือข่ายสภาลมหายใจภาคเหนือ 9 จังหวัด สานพลังความร่วมมือ ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม แก้ไขปัญหาพื้นที่แบบองค์รวม
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2023/12/02-6.jpg)
“การประชุมครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นควันของประเทศร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน วิชาการ ประชาสังคม ด้วยเครื่องมือที่หลากหลายตามบริบทพื้นที่ บูรณาการภายใต้เจตจำนงร่วมกันมุ่งมั่นแก้ปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นควันในระยะยาวและยั่งยืน ร่วมกันหาข้อสรุปนโยบายและมาตรการจัดการมลพิษทางอากาศ นำเสนอต่อรัฐบาล อีกทั้งมีการระดมนวัตกรรมทางสังคม การบริหารจัดการฝุ่นควัน ไฟป่า ซึ่งจะเป็นต้นแบบขยายผลการดำเนินงานให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ประสบปัญหามากยิ่งขึ้นต่อไป” ดร. สุปรีดา กล่าว
You must be logged in to post a comment Login