วันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

สสส. ปั้นนวัตกรรุ่นใหม่ หัวใจสุขภาวะ กว่า 250 ทีม ประชันไอเดียแข่งนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพระดับชาติ

On December 4, 2023

สุดปัง! สสส. ปั้นนวัตกรรุ่นใหม่ หัวใจสุขภาวะ กว่า 250 ทีม ประชันไอเดียแข่งนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพระดับชาติ Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2023 “สันติ รมช.สธ.” ปลื้มนวัตกรรมคนไทย ตอบโจทย์สังคม 6 ปี เกือบ 1500 ทีม มีนวัตกรรมลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ คนพิการ-สูงวัย-แรงงานนอกระบบ

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 66 ที่ ณ ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดพิธีประกาศผลและมอบรางวัลการประกวด “Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2023” เพื่อพัฒนานวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ สานพลังเครือข่ายกลุ่มคนทำงานด้านนวัตกรรม สร้างนวัตกร หัวใจสุขภาวะ โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีและมอบรางวัลให้กับทีมชนะการประกวด นายสันติ กล่าวว่า โลกยุคปัจจุบัน คนไทยให้ความใส่ใจด้านสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเตรียมพร้อมรับมือเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลต่อการใช้ชีวิต และมุมมองด้านสุขภาพของผู้คนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกิจกรรมทางกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือการดูแลสุขภาพใจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะ นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เป็นหนึ่งในกลไกที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้น ทำให้สังคมตระหนัก อย่ารอให้ร่างกายเสียแล้วค่อยมาซ่อมสุขภาพ แต่มาสร้างสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อป้องกันโรค ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ลดการสูญเสียของประเทศ

“สสส. ได้รับความกรุณาจากท่านนายกรัฐมนตรีให้การประกวดนี้เป็นรางวัลระดับชาติเป็นปีที่ 3 นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพของทุกทีม นำความภาคภูมิใจมาให้กับสังคม และวงการสุขภาพของไทย เห็นได้จากความทุ่มเท และความพยายามของทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา นักคิด กลุ่ม Startup และกลุ่มภาคี สสส. ที่ร่วมกันคิด ริเริ่มอย่างสร้างสรรค์จนออกมาเป็นผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่ตอบโจทย์ตรงประเด็นสุขภาพคนไทย นวัตกรรมช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงในกลุ่มโรค NCDs และปีนี้กลุ่มประชาชนทั่วไป/Startup ผลักดันไอเดีย และต้นแบบนวัตกรรม การเข้าถึงเทคโนโลยีการสร้างเสริมสุขภาพ สำหรับกลุ่มผู้ขาดโอกาสการเข้าถึง เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ แรงงานนอกระบบ ขอบคุณ สสส. ที่ขับเคลื่อนสร้างนวัตกรรมที่หลากหลาย เท่าเทียมทุกกลุ่มประชากรไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งสานพลังจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพขยายผลต่อยอด นี่คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาประเทศ พัฒนาศักยภาพคนที่จะเป็นนวัตกร สนับสนุน และสร้างสรรค์สังคมสุขภาวะ ที่สำคัญคือการสร้างเครือข่ายกลุ่มคนทำงานสร้างเสริมสุขภาพ เป็นโอกาสที่จะต่อยอดไปสู่ระดับนานาชาติในอนาคต” นายสันติ กล่าว

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม กรรมการกองทุน สสส. และ ประธานอำนวยการจัดประกวดฯ กล่าวว่า สสส. เล็งเห็นความสำคัญของนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านนโยบาย สิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน รวมถึงพฤติกรรมให้มีสุขภาวะครบ 4 มิติ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 10 ปีของ สสส. ในเรื่อง “การสนับสนุนงานวิชาการ และรังสรรค์นวัตกรรม” ผ่านการดำเนินโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ โดยการประกวดฯ ครั้งนี้ เพื่อจุดประกายนวัตกร สร้างนวัตกรรม เพิ่มทักษะความรู้ ต่อยอดผลงานให้เกิดขึ้นจริง โดยมีนวัตกรเข้าร่วม 250 ทีม ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพตลอด 4 เดือน เช่น การสร้างเสริมสุขภาพ การสร้างความเข้าใจความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ กระบวนการพัฒนานวัตกรรม พัฒนาแผนธุรกิจ ต่อยอดผลงาน และแนวทางสร้างความยั่งยืน โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้คำปรึกษาตลอดกิจกรรม เชื่อว่านักเรียน นักศึกษา startup และ ภาคี สสส. ที่ได้เข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ จะเป็นความหวังในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพในอนาคตได้อย่างแน่นอน

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า การทำงานตลอด 22 ปี ของ สสส. ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสังคมไทยหลายด้าน สสส. มุ่งเน้นแก้ไขต้นเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของคนไทย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพให้มีสุขภาวะที่ดีขึ้น จำเป็นต้องใช้ “นวัตกรรม” โดยเริ่มจากโครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ภายใต้ชื่อ ‘ThaiHealth Inno Awards’ ตั้งแต่ปี 2560 สู่การยกระดับเป็นรางวัลระดับชาติ ตลอดระยะเวลา 6 ปี มีทีมส่งผลงานเข้าประกวดจากทั่วประเทศ จำนวน 1,484 ทีม เพาะเมล็ดพันธุ์นวัตกรรุ่นใหม่ เกือบ 6,000 คน บ่มเพาะแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพ ทักษะพัฒนานวัตกรรม และการต่อยอดขยายผลงาน พัฒนาต้นแบบนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพกว่า 170 ผลงาน การก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของ สสส. จึงเป็นหมุดหมายที่เหมาะสม ปรับเปลี่ยนบทบาทการทำงานให้ตอบโจทย์กับปัญหาสุขภาพยุคปัจจุบันยิ่งขึ้น ในรูปแบบการทำงานเชิงรุก วิเคราะห์ปัญหาที่ต้องเผชิญ สานพลังภาคีหานวัตกรรมใหม่ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าให้สังคมไทยในอนาคต


You must be logged in to post a comment Login