สคล.จุดประกายสร้างเมนูบำรุงตับ หลังงดเหล้า : สร้างสังคมสุขปลอดเหล้า

• Tweet
• 

สสส.จับมือ สคล.ย้ำสนับสนุนคนไทยเลิกเหล้า สร้างคนหัวใจเพชร เพื่อสร้างชุมชน สังคมสุขปลอดเหล้า  พร้อมเปิดตัวหญิงหัวใจเพชรรังสรรค์เมนูอาหารเครื่องดื่มสมุนไพรเสริมพลังตับสำหรับดูแลฟื้นสุขภาพของผู้อยู่ระหว่างการเลิกเหล้า ด้าน “นพ.ไพโรจน์” ย้ำไม่มีการดื่มในระดับที่ปลอดภัย

ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายงดเหล้า (สคล.) และภาคีเครือข่าย จัดเวทีแถลงข่าว “ต้อนรับคนหัวใจเพชร ร่วมสร้างสรรค์สังคมสุขปลอดเหล้า” ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี ได้มีการนำเสนอเมนูง่ายๆจากพืช ผัก สมุนไพรที่หาง่ายมาแปลงเป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเสริมพลังตับให้กับสิงห์นักดื่ม จากผู้หญิงที่มีประสบการณ์ดื่มหนักจนตับเกือบพัง

คนไทยสนใจร่วมกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษามากขึ้น

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า จากการประเมินผลโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2566 ใน 12 จังหวัดทุกภูมิภาค โดยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบมีผู้เปลี่ยนพฤติกรรมลด ละ เลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษา 10.2 ล้านคนจากจำนวนผู้ที่ดื่มทั้งหมด 24.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 มากถึง 7.7 แสนคน แบ่งเป็นผู้งดดื่มตลอดพรรษา 21.3% (ประมาณ 5.3 ล้านคน) ผู้ที่งดบางช่วง 9.1% (ประมาณ 2.3 ล้านคน) และผู้ที่ไม่งดแต่ลดการดื่มลง 10.5% (ประมาณ 2.6 ล้านคน) โดยกลุ่มตัวอย่าง 66.3% ระบุว่าได้รับผลดีจากการลด ละ เลิกดื่มในช่วงเข้าพรรษา โดยเฉพาะสุขภาพร่างกาย-จิตใจดีขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ยคนละ 1,506.97 บาท โดยรวมของประเทศประมาณ 4,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าจากค่าใช้จ่ายในการดื่มที่ลดลง

“สสส. มุ่งหวังให้โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา เป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชน ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของตนเอง ชุมชน สังคม ช่วยกันจัดการสิ่งแวดล้อมปลอดเหล้า ส่งผลที่ดีต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ ทั้งระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน ให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างสังคมสุขภาพดี มีความสุขมากขึ้น” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

ย้ำ “ไม่มีการดื่มในระดับที่ปลอดภัย!!”

ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานของ สสส.และ สคล. รวมทั้งภาคีเครือข่าย ได้ร่วมทำกิจกรรมการณรงค์ให้คนไทยงดเหล้า ซึ่งเราได้ใช้วิธีการรณรงค์ที่หลากหลาย โดยใช้เรื่องของสังคม เศรษฐกิจ องค์ความรู้ด้านต่าง รวมถึงความเชื่อ ศาสนา เข้ามามีมีบทบาทในการณรงค์ ผลที่ได้รับคือ กิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน มีประชาชนจำนวนมากดังที่กล่าวมาข้างต้นให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นทุกปี ซึ่งคนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะพบว่าหลังจากที่งดดื่มผลได้คือ มีสุขภาพที่ดี ประหยัดเงิน ซึ่งในงานวิจัยยังพบว่า ไม่มีการดื่มในระดับที่ปลอดภัย ดังนั้นการที่มีคนบอกว่าดื่มเท่านั้นเท่านี้จะดีต่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องไม่จริง

การทำงานของ สสส.จะเป็นการทำงานในเชิงรุก โดยใช้องค์ความรู้ที่มีเข้าไปอธิบาย สร้างความเข้าใจเพื่อให้สังคม ชุมชนเป็นสังคมปลอดเหล้า ผ่านการทำงานในรูปแบบต่างๆ เช่น การรณรงค์ไม่ดื่ม-ขายเครื่องดื่มในวันสำคัญทางศาสนา ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี  หรือเทศกาลงานบุญงดเหล้า

“ทั้งนี้การณรงค์ให้ชุมชนเป็นสุขปลอดเหล้าได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้ชุมชนเป็นสังคมปลอดเหล้า ”ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

สคล.ย้ำ ชุมชนต้องร่วมสร้างสังคมสุขปลอดเหล้า

เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ประธานเครือข่ายงดเหล้า กล่าวว่า สคล. ร่วมกับ สสส. รณรงค์ส่งเสริมให้คนในสังคมห่างไกลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สร้างพฤติกรรมด้านสุขภาพ ควบคู่ไปกับการจัดสภาพแวดล้อม นำสู่ Healthy Sobriety หรือสังคมสุขปลอดเหล้า เราเลือกได้ คนในสังคมสามารถเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ถูกครอบงำด้วยสิ่งเสพติด เป็นความสุขที่แท้จริง ผลการดำเนินโครงการฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2566 เกิดกลุ่มสตรีพลังเพชร 92 แห่ง มีชุมชนสู้เหล้าและชมรมคนหัวใจเพชร (งดเหล้ามากกว่า 3 ปี) 1,010 แห่ง และองค์กรร่วมรณรงค์ชวนช่วยชมเชียร์ 90 แห่ง มีผู้เข้าร่วมปฏิญาณตน จากชุมชนและอำเภอ ร่วมติดตามชวน ช่วย ชมเชียร์ 26,622 คน

นางสาวพิมพ์มณี เมฆพายัพ ผู้จัดการโครงการฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา สคล.กล่าวว่า จากการรณรงค์ฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อให้คนทั่วไปได้เข้าร่วมโครงการ 1.โครงการติดได้สุขใจด้วย 12 กิจกรรมฟื้นฟู คืนดีกับร่างกาย-จิตใจให้สมดุล มีผู้เข้าร่วม 100 กว่าคน เน้นรณรงค์งดเหล้าทุกเพศ ทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์ 2.โครงการพัฒนาศักยภาพนักสื่อสารและสร้างเสริมสุขภาวะหัวใจเพชร มีผู้เข้าร่วม 100 กว่าคน เพื่อเป็นนักสื่อสารสร้างแรงบันดาลใจ กระบวนกร และวิทยากร 3.โครงการพัฒนากระบวนกรหลักสูตรเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต ด้วยอาหารและสมุนไพรในท้องถิ่น

ทั้งนี้ สคล. ยังคงรณรงค์งดเหล้าตลอดทั้งปี โดยช่วงออกพรรษาจนถึงเทศกาลปีใหม่ เตรียมรณรงค์แนวคิด New Me Sobriety Celebration เชิญชวนประชาชนตั้งเป้าหมายสู่ชีวิตใหม่สุขปลอดเหล้า ภายใต้กิจกรรม SoBrink แบ่งปันสูตรม็อกเทลจากสมุนไพร สาธิต Sobriety Bar และการจัดกิจกรรมให้คนมาแฮงค์เอ้าท์แทนวงเหล้า สนใจสมัครเข้าร่วมผ่านเพจ Healthy Sobriety

เปิดเมนูเสริมพลังตับ จากประสบการณ์จริง “เมาจนตับเกือบพัง”

นางสาวฟ้าอิงตะวัน   ไวยกรรณ์ ผู้หญิงหัวใจเพชร กระบวนกรและผู้ออกแบบหลักสูตรเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต อดีตเจ้าของร้านเหล้า ที่ดื่มจนเกือบเป็นมะเร็งตับ กล่าวว่า เมื่อก่อนพี่เป็นคนที่ดื่มเหล้าเยอะมากดื่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยัน 6 โมงเย็น  ดื่มเยอะจนป่วย เลยไปหาหมอ ไปหาหมอที่ไหนก็ไม่ตอบโจทย์ของตนเอง เพราะร่างกายยังไม่ดีขึ้น จึงหันมาศึกษาเรื่องสมุนไพรด้วยตนเอง โดยไปเรียนกับคุณครูเรียนทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ได้นำความรู้ที่ได้มารับเปลี่ยนใช้กับตัวเองแล้วพบว่าร่างกายมันดีขึ้น จากที่ตนคิดว่าจะเป็นมะเร็งตับ มาศึกษาเรื่องการล้างพิษในตับ หลังจากนั้นตับจะอ่อนล้าเราต้องหาอาหารมาบำรุงตับ และหาสมุนไพรที่มาช่วยฟื้นฟูร่างกายเราได้ ทำให้ตับเราแข็งแรงขึ้น

ทั้งนี้พวกที่ดื่มจนตับเสีย ตับจะเริ่มร้อน จะใช้อาหารที่ปราศจากน้ำมัน หรือถ้าเป็นน้ำมันต้องเป็นน้ำมันที่ดีที่ตับสามารถขับออกมาได้ นั่นคือ น้ำมันรำข้าว จากเมนูที่นำมาแสดงในการแถลงข่าววันนี้เป็นเมนูที่พี่ทดลองกับตัวเอง จากเดิมที่ตัวเองป่วยเป็นตับอักเสบ ค่าตับขึ้นไปพันกว่า ไปหาหมอกินยังเป็นอาทิตย์กว่าๆยังไม่ดีขึ้น จนนอนไม่ได้ จากนั้นจึงปรับอาหารตามสูตรที่เราคิดขึ้นมากินไปได้ 10 วัน ไปตรวจพบว่า ค่าตับเท่ากับคนปกติ ซึ่งมันได้ผลมากๆ สมุนไพรส่วนมากจะเป็นขิง ขมิ้น ต้องต้มเป็นน้ำดื่มกินทุกวัน มันช่วยให้เลือดเราไหลเวียนได้มีขึ้น เม็ดเลือดขาวดักจับเชื้อโรคได้ดีขึ้น เม็ดเลือดแดงกลมโต ซึ่งดีมากๆ จากจากนี้จะทานอาหารที่ย่อยง่ายไม่เป็นภาระกับตับ เพราะถ้าทานอาหารที่ย่อยยากตับจะผลิตน้ำดีเพิ่มมากขึ้นเพื่อมาย่อยอาหาร จะเน้นเป็นผักสีเขียวเป็นส่วนใหญ่ ไม่ทานอาหารรสจัด ถ้าอยากกินน้ำพริก จะเป็นน้ำพริกที่รสไม่จัด ซึ่งหากเราทานต่อเนื่องร่างกายจะเห็นผลได้เร็วขึ้น แต่ถ้าเป็นน้ำรางจืด จะให้ทานแค่อาทิตย์ละ 1 วัน

ทั้งนี้ได้มีการนำเมนูอาหารที่คิดมานำไปใช้กับคนที่เข้ามาร่วมการอบรมที่ครั้งละประมาณ 50-60 คน หลังจากนั้นจะมาพูดคุยกันพบว่าหลายคนจะบอกว่าขอบคุณและร่างกายเขาดีขึ้นมากๆ แทบจะไม่ต้องไปหาหมอแล้ว ระยะเวลาเมื่อทานสมุนไพรแล้วจะเห็นผลเริ่มตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป บางคนอาจจะเห็นผลในเดือนที่ 3-4 ก็ได้ ทั้งนี้จากการให้ทานอาหารของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เพราะบางคนเป็นโรคไม่เหมือนกัน

สำหรับเมนูที่นำมาเสนอในวันนี้ เช่น แพนเค้กข้าวโอ๊ต, น้ำสมุนไพรพลังหยิน “ล้างพิษแบบสึนามิ”,ดอกไม้กรอบ ล้างพิษออกจากร่าง,กล้วยกะทิ มินิพาวเวอร์ “เสริมพลังจากวันที่เหนื่อยล้า”,เมี่ยงดอกบัวและใบชะพลู เครื่องดื่ม เช่น ส้มปั่นพลังจี๊ด”ไล่พิษออกจากร่างกาย” รวมทั้งคอกเทลสมุนไพรสูตรต่างๆ

สุดท้ายอยากจะบอกคนที่ยังดื่มว่า ถ้าเลิกได้ก็เลิก เพราะเลิกปุ๊ปร่างกายจะไม่ได้หายทันที อย่างพี่เลิกมาตั้ง 10 ปี ผลร่างกายเพิ่งจะมาออก ร่างกายจะอ่อนแอลง เหมือนคนเป็นมะเร็งตับ ไม่ใช่กินวันนี้แล้วเป็น มันค่อยๆสะสมเป็นเวลายาวนาน 10-20 ปี กว่าจะออกอาการ ซึ่งเมื่อออกอาการมันก็ระยะสุดท้ายแล้ว นอกจากนี้ถ้าเราใช้วิธีเอาสมุนไพรมาใช้ล้างพิษตับ คือการเอาพิษออก คือ อาหาร อารมณ์ อากาศ เอาพิษออก และอย่าลืมให้อภัยตัวเอง

You must be logged in to post a comment Login