- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
พิชิตอะไรไม่ยิ่งใหญ่เท่าพิชิตใจคน
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 ม.ค. 67)
หลังจากการบุกโจมตีเมืองยัษริบ(มะดีนะฮฺ)ครั้งใหญ่ที่สุดของชาวมักก๊ะฮฺในสงครามสหพรรคประสบความล้มเหลวและเผ่ายิวที่คิดคดทรยศมุสลิมถูกปราบปรามแล้ว นบีมุฮัมมัดก็คิดที่จะยึดมักก๊ะฮฺคืนเพื่อทำให้ก๊ะอฺบ๊ะฮฺเป็นสถานที่เคารพสักการะพระเจ้าที่แท้จริงแต่เพียงพระองค์เดียว
เดิมที ก๊ะอฺบ๊ะฮฺเป็นสถานที่ที่พระเจ้าสั่งให้อับราฮัมสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เคารพสักการะพระองค์แต่เพียงผู้เดียว แต่ต่อมา ด้วยความหลงผิด ชาวอาหรับผู้เป็นลูกหลานของอับราฮัมได้นำเอารูปเคารพมากมายมาตั้งในก๊ะอฺบ๊ะฮฺและบูชารูปเคารพเหล่านั้น แต่เมื่อนบีมุฮัมมัดได้รับคำบัญชาจากพระเจ้าให้มาประกาศว่า “ไม่มีสิ่งใดที่คู่ควรแก่การเคารพสักการะนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียว” นบีมุฮัมมัดก็ถูกต่อต้าน ถูกคว่ำบาตรและถูกวางแผนลอบสังหารจนต้องอพยพจากมักก๊ะฮฺไปยังเมืองยัษริบ
หลังการทำสนธิสัญญาสันติภาพในปี ฮ.ศ.6 ฝ่ายมักก๊ะฮฺได้ทำลายสัญญาโดยพันธมิตรของเผ่ากุเรชได้โจมตีพันธมิตรของมุสลิม ดังนั้น นบีมุฮัมมัดจึงสั่งประกาศรวมพลเพื่อพร้อมทำสงคราม
วันที่ 10 เดือนรอมฎอน ฮ.ศ.8 นบีมุฮัมมัดพร้อมกับสาวกจำนวน 10,000 คนซึ่งเป็นการรวมพลครั้งใหญ่ที่สุดออกเดินทางสู่มักก๊ะฮฺโดยทุกคนถือศีลอด แต่ก่อนถึงเมืองมักก๊ะฮฺ ท่านได้ละศีลอดให้สาวกได้เห็น สาวกจึงละศีลอดตามท่าน ในตอนกลางคืน นบีมุฮัมมัดได้สั่งสาวกของท่านให้จุดกองไฟบนเนินเขารอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺให้มากที่สุดเพื่อลวงตาชาวมักก๊ะฮฺว่าฝายมุสลิมมีจำนวนมาก
เมื่ออบูซุฟยานหนึ่งในหัวหน้าชาวมักก๊ะฮฺรู้ข่าวการมาของนบีมุฮัมมัด เขาจึงออกมาสังเกตการณ์และถูกจับกุมตัวมาหานบีมุฮัมมัด เมื่อเห็นกองทัพมุสลิมและกำลังพลของเผ่าต่างๆเดินผ่านหน้านบีมุฮัมมัด เขารู้ว่าฝ่ายมักก๊ะฮฺไม่อาจต้านทานได้ เขาจึงเข้ารับอิสลามทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของนบีมุฮัมมัด หลังจากนั้น นบีมุฮัมมัดได้อนุญาตให้เขากลับเข้าไปยังมักก๊ะฮฺ
มักก๊ะฮฺมีทางเข้าสี่ทาง นบีมุฮัมมัดสั่งสาวกของท่านให้กระจายกำลังกันเข้ามักก๊ะฮฺทุกทาง ท่านกำชับสาวกของท่านมิให้ทำร้ายชาวเมืองถ้าไม่มีการต่อต้าน และเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่อบูซุฟยานหัวหน้าชาวเมืองมักก๊ะฮฺ นบีมุฮัมมัดได้ประกาศว่าใครที่ต้องการความปลอดภัย ให้ไปอยู่ในบ้านของอบูซุฟยาน แม้จะมีคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งต่อต้าน แต่ก็ถูกปราบจนสงบ
เมื่อเข้าเมืองมักก๊ะฮฺได้ นบีมุฮัมมัดจะเข้าไปในอาคารก๊ะอฺบ๊ะฮฺ แต่เนื่องจากประตูก๊ะอฺบ๊ะฮฺปิดอยู่และกุญแจประตูอยู่ในการดูแลของชาวมักก๊ะฮฺตระกูลหนึ่ง ท่านจึงสั่งให้เอากุญแจมาเปิด และเมื่อเปิดแล้ว ท่านได้คืนกุญแจประตูก๊ะฮฺบ๊ะฮฺให้แก่ผู้ถือกุญแจ ด้วยการปฏิบัติเช่นนั้น ทุกวันนี้ กุญแจประตูเข้าก๊ะฮฺบ๊ะฮฺจึงอยู่ในการดูแลของคนในตระกูลนี้ตลอดมา แม้กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียในปัจจุบันจะเข้าไปในก๊ะอฺบ๊ะฮฺก็ต้องไปขอกุญแจจากคนดูแลกุญแจในตระกูลนี้
ข้างผนังด้านในก๊ะอฺบ๊ะฮฺนอกจากมีรูปเคารพมากมายแล้ว บนผนังยังมีรูปวาดนบีอิบรอฮีมและอิสมาอีล และรูปวาดทูตสวรรค์ตามจินตนาการของชาวอาหรับด้วย นบีมุฮัมมัดได้สั่งลบรูปวาดดังกล่าวและทำลายรูปเคารพทั้งหมด แต่เทวรูปฮุบัลซึ่งถูกถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งมักก๊ะฮฺทำด้วยหินขนาดสูงใหญ่ นบีมุฮัมมัดไม่สามารถทุบทำลายด้วยตัวเอง ท่านจึงสั่งให้สาวกคนหนึ่งปีนขึ้นไปบนบ่าเทวรูปและทุบทำลายโดยที่ไม่มีชาวมักก๊ะฮฺคนใดเข้ามาขัดขวาง
ขณะที่ชาวเมืองมักก๊ะฮฺยืนนิ่งรอดูว่านบีมุฮัมมัดจะทำอะไรต่อไป พวกเขาคิดว่านบีมุฮัมมัดจะลงโทษแก้แค้นคนที่ทำร้ายท่านและมุสลิม นบีมุฮัมมัดได้ถามอบูซุฟยานถึงเหตุผลที่เขายอมรับอิสลาม เขาตอบว่า ”มันชัดเจนแล้วว่ารูปเคารพเหล่านั้นไม่มีอำนาจใดๆ พระเจ้าที่แท้จริงคืออัลลอฮฺ” ดังนั้น นบีมุฮัมมัดจึงถามชาวมักก๊ะฮฺว่า “พวกท่านหวังอะไรจากฉันในวันนี้?”
ชาวมักก๊ะฮฺตอบว่า “ความเมตตา โอ้ นบีของอัลลอฮฺ เราไม่หวังสิ่งใดนอกจากความดีจากท่าน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นบีมุฮัมมัดจึงกล่าวว่า “วันนี้ฉันจะพูดกับท่านเหมือนกับที่ยูซุฟ(โยเซฟ)พูดกับพวกพี่ๆของเขา ฉันจะไม่ทำร้ายพวกท่านและอัลลอฮฺจะให้อภัยพวกท่านเพราะพระองค์เป็นผู้ทรงเมตตาและเป็นผู้ที่ทรงรัก ไปได้แล้ว พวกท่านเป็นอิสระ”
หลังจากพิชิตมักก๊ะฮฺแล้ว นบีมุฮัมมัดยังคงอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสิบวันในเดือนรอมฎอนก่อนเดินทางกลับสู่เมืองมะดีนะฮฺ
You must be logged in to post a comment Login