วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นบีมุฮัมมัดเชิญจักรพรรดิไบแซนตินสู่อิสลาม

On January 19, 2024

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  19 ม.ค.  67)

เมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มปฏิบัติภารกิจเผยแผ่อิสลามในเมืองมักก๊ะฮฺ  อาณาจักรโรมันไบแซนตินได้ประกาศรับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาทางการแล้วโดยมีคัมภีร์ไบเบิลเป็นกฎหมายในการปกครอง

ส่วนอาณาจักรเปอร์เซีย มหาอำนาจคู่แข่งกับอาณาจักรไบแซนตินยังนับถือศาสนาที่บูชาไฟอยู่

ในช่วงที่แผ่นดินอาหรับเกิดความสงบจากสนธิสัญญาสันติภาพฮุดัยบียะฮฺ  นบีมุฮัมมัดได้ให้คนนำสารเชิญชวนสู่อิสลามไปยังประมุขของอาณาจักรต่างๆ  หนึ่งในนั้นคือเฮราคลีอุสจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันไบแซนติน  ในตอนนั้น จักรพรรดิอยู่ในแคว้นชามที่เป็นหัวเมืองใหญ่มีอาณาเขตติดกับแผ่นดินอาหรับและเปอร์เซีย

สารเชิญชวนที่นบีมุฮัมมัดส่งไปถึงเฮราคลีอุสมีข้อความดังนี้ :

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

จากมุฮัมมัดผู้เป็นบ่าวและนบีของอัลลอฮฺ ถึง เฮราคลีอุส

สันติจงมีแด่ท่านผู้ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง

ฉันขอเชิญชวนท่านมาสู่อิสลาม ดังนั้น หากท่านต้องการความสงบปลอดภัย จงเข้ารับอิสลามเถิด ถ้าท่านรับอิสลาม อัลลอฮฺจะทรงตอบแทนรางวัลท่านสองเท่า ถ้าท่านปฏิเสธ ความรับผิดชอบสำหรับการละเมิดของผู้คนในชาติของท่านจะตกเป็นของท่าน

โอ้ชาวคัมภีร์ อย่าพูดถึงเรื่องความแตกต่างและความขัดแย้งกันเลย แต่มาตกลงกันในสิ่งหนึ่งที่ทั้งเราและท่านไม่อาจโต้แย้งได้กันดีกว่า นั่นคือ เรื่องที่ว่าเราจะไม่เคารพผู้ใดนอกไปจากอัลลอฮฺและเราจะไม่เอาสิ่งใดมาเป็นภาคีกับพระองค์และไม่ถือว่าผู้ใดอื่นเป็นพระผู้อภิบาลนอกไปจากอัลลอฮฺ

ถ้าท่านปฏิเสธ ท่านต้องรู้ว่าเราศรัทธาในความเป็นหนึ่งเดียวของอัลลอฮฺในทุกสถานการณ์

จดหมายปิดท้ายด้วยตราประทับที่มีชื่อของนบีมุฮัมมัด

เฮราคลีอุสรับจดหมายที่เป็นภาษาอาหรับซึ่งเขาอ่านไม่ออก  เขาจึงสั่งให้หาชาวอาหรับมาแปลข้อความในสารให้เขาฟัง ในตอนนั้น อบูซุฟยานผู้นำชาวเมืองมักก๊ะฮฺและเป็นศัตรูตัวฉกาจของนบีมุฮัมมัดนำกองคาราวานสินค้าไปขายที่นั่น  เขาจึงถูกเชิญมายังท้องพระโรงของเฮราคลีอุสเพื่อแปลสารของนบีมุฮัมมัด

เฮราคลีอุสเป็นคนมีการศึกษาและเขารู้ดีว่าในคัมภีร์ไบเบิลได้เอ่ยถึงการมาของนบีคนหนึ่ง  แต่เขาสงสัยในการกล่าวอ้างของนบีมุฮัมมัดว่าเป็นศาสนทูตของพระเจ้า  เขาจึงต้องการซักถามเกี่ยวกับนบีมุฮัมมัดถึงเรื่องเชื้อสาย  อุปนิสัย  ความนิยมของผู้คนและสาวกของท่านว่ามีจำนวนมากขึ้นหรือน้อยลง

อบูซุฟยานคิดจะตอบคำถามเกี่ยวกับนบีมุฮัมมัดในทางที่ไม่ดี  แต่เมื่อเขาเห็นคนของเขาอยู่ที่นั่นด้วย  เขาจึงไม่กล้าโกหกเกี่ยวกับนบีมุฮัมมัด  เพราะชาวอาหรับทุกคนให้ฉายานบีมุฮัมมัดว่า “อัลอะมีน” ซึ่งแปลว่า “ซื่อสัตย์ไว้วางใจได้” เพราะไม่เคยโกหก  หากใครกล่าวหาว่านบีมุฮัมมัดโกหก  คนผู้นั้นก็จะกลายเป็นผู้โกหกไปในทันที

ในขณะที่เฮราคลีอุสกำลังพิจารณาข้อความของสารและฟังคำตอบจากอบูซุฟยานด้วยใจที่โน้มไปในทางยอมรับ  บรรดานักบวชที่อยู่กับเขาในตอนนั้นได้แสดงปฏิกิริยาไม่พอใจขึ้นมาทันทีเพราะคิดว่าเฮราคลิอุสจะยอมรับข้อความที่อยู่ในจดหมาย นักบวชคนหนึ่งได้กล่าวขึ้นมาว่า “ท่านกำลังจะเรียกให้เราทิ้งศาสนาคริสต์ หรือให้เราเป็นทาสชาวเบดูอินที่มาหาเราจากฮิญาซใช่ไหม?”

เมื่อเห็นท่าทีเกรี้ยวกราดของพวกนักบวช  เฮราคลิอุสได้ยืนขึ้นด้วยความตกใจ  แต่ในเวลาเดียวกัน  เขารู้ว่าถ้าเขาแสดงความอ่อนแอออกมา  พวกนักบวชเหล่านั้นจะทิ้งเขาไปและสร้างความเสียหายขึ้นมาโดยหันไปยุให้คนในอาณาจักรต่อต้านเขา  ดังนั้น  เฮราคลิอุสจึงเก็บความรู้สึกไว้และพูดกับพวกนักบวชอย่างชาญฉลาดว่า “ฉันเพียงแต่ถามเขาเพื่อทดสอบถึงความมั่นคงในศาสนาของพวกท่านเท่านั้น”

นักประวัติศาสตร์อิสลามส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเฮราคลีอุสเข้ารับอิสลามอย่างเงียบๆเพราะเห็นแก่ความสงบของอาณาจักร

.


You must be logged in to post a comment Login