- ปีดับคนดังPosted 5 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ภูมิหลังลูกหลานอิสราเอล
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 2 ก.พ. 67)
ในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานมีชื่อผู้ประกาศคำสอนของพระเจ้าร่วมกัน 25 คน ทำให้หลายคนที่ศึกษาคัมภีร์ทั้งสองเล่มนี้คิดว่าคัมภีร์กุรอานคัดลอกเรื่องราวจากคัมภีร์ไบเบิลมาเพราะคัมภีร์กุรอานมาทีหลังคัมภีร์ไบเบิล
หนึ่งในผู้ประกาศคำสอนของพระเจ้าคือ “อิสราเอล” ซึ่งในภาษาฮิบรูแปลว่า “ผู้ถูกคัดเลือก” ส่วนในคัมภีร์กุรอานที่เป็นภาษาอาหรับเรียกว่าอิสรออีล ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคำว่าอิสราเอลจึงถูกนำมาเป็นชื่อประเทศที่มีปัญหาวุ่นวายตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมาจนถึงปัจจุบัน
อิสราเอลเป็นฉายาของยาโกบหรือยะกู๊บบุตรชายของอิสอัคลูกชายคนที่สองของอับราฮัมกับภรรยาคนแรกคือนางซาราห์ ถิ่นฐานบ้านเกิดของทั้งสองสามีภรรยาอยู่ที่เมืองอูร์บนฝั่งแม่น้ำยูเฟรตีสในยุคเม
โสโปเตเมีย ปัจจุบัน เมืองอูร์อยู่ในอิรัก ลูกชายคนแรกของอับราฮัมคืออิชมาเอลที่เกิดกับนางฮาการ์ภรรยาคนที่สอง
อับราฮัมเกิดในยุคที่ผู้คนกราบไหว้บูชารูปปั้นที่ส่วนใหญ่พ่อของเขาเป็นคนทำขึ้นมาขายให้ผู้คน ดังนั้น เขาจึงเกิดความสงสัยตั้งแต่เด็กว่าทำไมผู้คนจึงเอาสิ่งที่พ่อของเขาทำขึ้นมาไปกราบไหว้บูชา ความสงสัยนี้เองที่ทำให้เขาคิดไตร่ตรองจนได้ข้อสรุปว่าพระเจ้ามิใช่สิ่งถูกสร้าง แต่พระเจ้าคือผู้สร้างและพระเจ้าที่แท้จริงนั้นมีองค์เดียว อับราฮัมจึงได้ฉายาว่า “บิดาแห่งความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว”
อิสอัคเกิดในตอนที่อับราฮัมและนางซาราห์อยู่ในวัยชรา คัมภีร์กุรอานเล่าว่าทูตสวรรค์ได้มาแจ้งข่าวดีแก่คนทั้งสองว่าเขาจะมีลูกชื่ออิสอัคและยังบอกอีกว่าอิสอัคจะมีลูกชายชื่อยาโกบซึ่งต่อมาได้ฉายาว่า “อิสราเอล” ลูกๆของยาโกบรวมทั้งคนรุ่นหลังๆจากครอบครัวนี้จึงถูกเรียกในคัมภีร์กุรอานว่า “บนีอิสรออีล”
ยาโกบมีลูกชาย 12 คนจากภรรยาสี่คน โยเซฟหรือยูซุฟเป็นลูกคนที่ 11 และเป็นลูกคนโปรดของยาโกบ พวกพี่ๆจึงอิจฉาและหาทางกำจัด ดังนั้น วันหนึ่ง พวกพี่ๆได้พาโยเซฟไปวิ่งเล่น เมื่อสบโอกาสจึงจับโยเซฟโยนลงไปในบ่อน้ำ แต่ก่อนโยนลงไป พวกพี่ๆได้ฉีกเสื้อของโยเซฟและฆ่าแกะเอาเลือดมาป้ายเสื้อ หลังจากนั้น พวกพี่ๆก็กลับไปตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้พ่อฟังว่าโยเซฟถูกหมาป่ากัดและลากไปกิน
แม้จะรู้ความจริงเบื้องหลังคำโกหก หัวอกของผู้เป็นพ่อย่อมปวดร้าว แต่ทำไงได้ เมื่อเหตุเกิดขึ้นโดยที่ตัวเองไม่ประสงค์ โวยวายไปก็เท่านั้น ยาโกบจึงพูดกับลูกๆว่า “เอาเถอะ ฉันจะอดทนอย่างสวยงาม”
คำพูดนี้ต้องการจะสอนคุณธรรมแห่งความอดทนว่ามันหมายถึง “การยอมรับเคราะห์กรรมโดยไม่ปริปากบ่นเพราะมันเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าและหวังว่าพระองค์จะตอบแทนความอดทนในที่สุด”
ยาโกบอดทนเก็บความขมขื่นไว้ในใจเป็นเวลานานหลายสิบปี ในที่สุดพระเจ้าก็ตอบแทนความอดทนของยาโกบโดยการที่โยเซฟรอดชีวิตจากการปองร้ายของพวกพี่ๆและถูกนำตัวไปขายในอียิปต์ แต่ด้วยคุณธรรมแห่งความซื่อสัตย์ ความเกรงกลัวพระเจ้าและความรู้พิเศษที่พระเจ้ามอบให้ในการทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้า โยเซฟได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ของอียิปต์ในที่สุด
เมื่อโยเซฟเป็นกษัตริย์ เขาได้เชิญพ่อแม่และพี่ๆของเขาให้อพยพจากแผ่นดินกันอานมาตั้งถิ่นฐานในอียิปต์ และเมื่อพวกพี่ๆรู้ว่าโยเซฟที่พวกตนเคยคิดร้ายมาก่อนได้กลายเป็นกษัตริย์ ทุกคนต่างหวาดกลัวการลงโทษ แต่โยเซฟได้แสดงคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ให้แก่พวกพี่ๆของเขาได้เห็น นั่นคือการอภัยโทษ
เมื่อมาอยู่ในอียิปต์ พวกพี่ๆของโยเซฟได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆ มีอำนาจและความมั่งคั่ง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ก่อนยาโกบเสียชีวิต คัมภีร์กุรอานเล่าว่ายาโกบได้เรียกลูกชายทั้งหมดมาถามว่า “ถ้าพ่อจากโลกนี้ไปแล้ว ลูกจะนับถือศาสนาอะไร?” ทุกคนตอบว่า “พวกเราจะนับถือศาสนาของพ่อและปู่(อิสอัค)และของบรรพบุรุษ(อับราฮัม)
แต่หลังจากยาโกบตายจากไปและหลังสมัยของโยเซฟ พวกลูกหลานอิสราเอลได้ผิดสัญญากับพ่อของตัวเองโดยหันไปปฏิบัติพิธีกรรมของชาวพื้นเมืองอียิปต์ พระเจ้าจึงลงโทษพวกลูกหลานอิสราเอลด้วยการให้ชาวพื้นเมืองอียิปต์โค่นอำนาจและกดพวกลูกหลานอิสราเอลลงเป็นทาสนานนับหลายร้อยปี
ในช่วงที่ตกเป็นทาสของฟาโรห์ พวกลูกหลานอิสราเอลได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ดังนั้น พวกลูกหลานอิสราเอลต่างโอดครวญวอนขอต่อพระเจ้าให้ส่งคนมาช่วย และเมื่อถึงเวลา พระเจ้าก็ได้ตอบรับคำวิงวอนของพวกเขาด้วยการส่งมหาบุรุษคนหนึ่งมาช่วย นั่นคือ โมเสส
You must be logged in to post a comment Login