- ปีดับคนดังPosted 4 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 6 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
สงครามข้ามศตวรรษ
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 16 ก.พ. 67)
เมืองเฮบรอนในประเทศปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดครองมีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อ “อัลฮารอม อัลอิบราฮีมีย์” สถานที่แห่งนี้ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝังศพของครอบครัวอับราฮัมซึ่งประกอบด้วยนางซาราห์ผู้เป็นภรรยา อิสฮากลูกชายคนที่สองของอับราฮัมและภรรยา และหลุมฝังศพของยาโกบลูกชายของอิสฮาก
ผมมีโอกาสได้ไปยังสถานที่แห่งนี้และมีเจตนาที่จะไปแวะเยือนหลุมศพของนบีทั้งสามโดยเฉพาะหลุมฝังศพของอับราฮัมผู้ได้ฉายาว่า “มิตรสนิทของพระเจ้า” (เคาะลีลุลลอฮฺ) แต่น่าเสียดายที่ผมและคณะไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมบริเวณหลุมฝังศพของยาโกบได้เพราะเจ้าหน้าที่รัฐอิสราเอลกั้นรั้วทึบไว้มิให้ใครเข้าไปนอกจากชาวยิวหรือชาวอิสราเอล เพราะชาวยิวที่นั่นถือว่ายาโกบเป็นบรรพบุรุษของพวกเขาเท่านั้น
บ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์รอบอัลฮารอม อัลอิบราฮีย์มีไร้ผู้อยู่อาศัยเนื่องจากถูกทหารขับไล่เพราะกลัวว่าชาวปาเลสไตน์จะทำร้ายชาวยิวที่จะมาเยี่ยมหลุมฝังศพของยาโกบ
ผมสงสัยว่าทำไมชาวยิวจึงให้ความสำคัญแก่ยาโกบถึงขนาดนั้นและฉายา “อิสราเอล” ของยาโกบได้มาจากไหน จึงเข้าไปค้นในคัมภีร์เบิลและพบข้อความต่อไปนี้
“ยาโกบส่งครอบครัวข้ามลำธารไปและส่งทรัพย์สมบัติทั้งหมดข้ามไปด้วย ยาโกบอยู่ที่นั่นแต่เพียงผู้เดียว มีบุรุษผู้หนึ่งมาปล้ำกับเขาจนถึงเวลารุ่งสาง เมื่อบุรุษผู้นั้นเห็นว่าจะเอาชนะยาโกบไม่ได้…บุรุษผู้นั้นจึงว่า ‘ปล่อยข้าไปเถิดเพราะใกล้สว่างแล้ว’ แต่ยาโกบตอบว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ท่านไปนอกจากท่านจะอวยพรแก่ข้าพเจ้า’ บุรุษผู้นั้นจึงถามยาโกบว่า ‘เจ้าชื่ออะไร?’ ยาโกบตอบว่า ‘ข้าพเจ้าชื่อยาโกบ’ บุรุษผู้นั้นจึงว่า ‘เขาจะไม่เรียกเจ้าว่ายาโกบต่อไป แต่จะเรียกว่าอิสราเอล เพราะเจ้าสู้กับพระเจ้าและมนุษย์และได้ชัยชนะ’” (ปฐมกาล 32:23-25)
ในฉบับแปลภาษาอังกฤษกล่าวว่าผู้ที่ปล้ำกับยาโกบคือพระเจ้าที่แปลงร่างเป็นทูตสวรรค์
โมเสสช่วยลูกหลานอิสราเอลอพยพออกจากอียิปต์ข้ามทะเลมายังคาบสมุทรซีนาย หลังสมัยโมเสส ลูกหลานอิสราเอลถูกชนเผ่าที่อาศัยอยู่เดิมขับไล่ไม่มีถิ่นฐานบ้านช่องของตัวเองเป็นเวลานาน ปาเลสไตน์เป็นชนเผ่าหนึ่งที่ขับไล่พวกลูกหลานอิสราเอล
ในเวลานั้น ชนชาติปาเลสไตน์เป็นชนชาติที่กราบไหว้รูปเคารพ ส่วนพวกลูกหลานอิสราเอลศรัทธาในพระเจ้าและปฏิบัติตามคำสอนของคัมภีร์โตราห์ที่โมเสสได้รับมาจากพระเจ้า ในการเผชิญหน้ากันครั้งหนึ่ง เดวิดเด็กหนุ่มผู้เป็นลูกหลานอิสราเอลได้สังหารโกไลแอธแม่ทัพร่างยักษ์ของชาวปาเลสไตน์และทำให้พวกลูกหลานอิสราเอลได้รับชัยชนะ หลังจากนั้น เดวิดก็ได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์และสร้างอาณาจักรอิสราเอลขึ้นมา ภายใต้กษัตริย์เดวิดนี้เองที่พวกลูกหลานอิสราเอลได้อยู่กันอย่างสงบ
หลังสมัยกษัตริย์โซโลมอนบุตรของกษัตริย์เดวิด อาณาจักรอิสราเอลถูกทำลาย พวกลูกหลานอิสราเอลต้องตกเป็นทาสของชนชาติอื่นอีกครั้ง แต่ต่อมา กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียได้ปล่อยให้พวกลูกหลานอิสราเอลกลับไปยังเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง
หลังสมัยเยซัสไครสต์ ประมาณ ค.ศ.70 กรุงเยรูซาเล็มถูกกองทัพของอาณาจักรไบแซนตินบุกมาโจมตีและทำลาย พวกลูกหลานอิสราเอลจึงหลบหนีกระจัดกระจายไปหลบภัยอยู่ในประเทศต่างๆทั้งในยุโรป เอเชียและในคาบสมุทรอาหรับก่อนสมัยนบีมุฮัมมัด
หลังสมัยนบีมุฮัมมัดสิบกว่าปี แผ่นดินอัชชามหัวเมืองสำคัญของอาณาจักรไบแซนตินซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศซีเรีย ปาเลสไตน์ จอร์แดนและเลบานอนในปัจจุบันถูกมุสลิมยึดได้และผู้คนที่นั่นได้หันมารับอิสลามรวมทั้งชาวปาเลสไตน์ด้วย
นอกจากปาเลสไตน์จะเป็นแผ่นดินที่ผู้คนเป็นมุสลิมมานับพันกว่าปีแล้ว แผ่นดินปาเลสไตน์ยังมีสถานที่สำคัญที่เป็นสมบัติของมุสลิมทั่วโลกตั้งอยู่ด้วย นั่นคือ มัสยิดอัลอักซอซึ่งถูกถือว่าเป็นมัสยิดที่มีความสำคัญเป็นอันดับสาม และมัสยิดแห่งนี้ รัฐบาลไซออนิสต์อิสราเอลต้องการที่จะทำลายเพื่อสร้างวิหารที่ถูกกองทัพไบแซนตินทำลายไปเมื่อสองพันปีกว่าปีก่อนขึ้นมาใหม่
You must be logged in to post a comment Login