- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 60 mins ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 22 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
เปิดความก้าวหน้า ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’ โมเดลพัฒนาระบบนิเวศเมืองนวัตกรรม Net Zero Emission แห่งแรกในไทย
ผู้ว่าฯ สระบุรี ผนึกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ร่วมกับสำนักงานสภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กางแผนต่อยอดขับเคลื่อนความก้าวหน้า ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’ (Saraburi Sandbox) เชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และชุมชน พร้อมหนุนการพัฒนาระบบนิเวศเมืองนวัตกรรม Net Zero Emission ดันสระบุรีเมืองต้นแบบแห่งแรกในไทยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’ เป็นการดำเนินงานในรูปแบบความร่วมมือ Public-Private-People Partnership (PPP) และมีความก้าวหน้ามาเป็นลำดับ นับแต่ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันเมื่อเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา
“กลไกสำคัญในการทำงานมาจากภาคเอกชน ส่วนภาครัฐเป็นฝ่ายสนับสนุน ทุกฝ่ายร่วมกันคิด จากนั้นได้มีการจัดตั้งคณะทำงานมาช่วยกันทำ ผ่านโครงการต้นแบบต่างๆ เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด การส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียวและใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในทุกโครงการก่อสร้างของจังหวัดสระบุรี การกำจัดวัสดุไม่ใช้แล้วและของเสียด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาเพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็นต้น การดำเนินโครงการลักษณะนี้ให้สำเร็จ ต้องการความร่วมมือและสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมมือกันดำเนินการ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องของหน่วยงานต่างๆ อาจมีกฎระเบียบที่ต้องแก้ไขเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการได้ การมีโครงการต้นแบบเหล่านี้มากๆ จะเป็นตัวอย่าง จะทำให้เห็นแนวทางดำเนินการ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ เรื่องใดที่ติดขัดต้องหาแนวทางแก้ไขหรือทางออกที่ดีต่อไป เช่น การเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้กฎระเบียบให้เหมาะสม ทั้งหน่วยงานท้องถิ่น หรือหน่วยงานกลางของรัฐ” ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าว
ในขณะนี้ ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’ กำลังเดินหน้าทำงานที่ท้าทาย โดยเน้นสร้างความรู้ความเข้าใจกับหน่วยงานและชุมชนในพื้นที่ โดยพบว่า มีความตื่นตัวสูงในการร่วมกันต่อสู้กับภาวะโลกร้อนที่ต้องใช้เวลาและความต่อเนื่อง ทั้งภาคความรู้ รวมถึงภาคปฏิบัติ เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission
ดร.ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) กล่าวว่า TCMA ในฐานะสมาคมด้านอุตสาหกรรมที่เป็นความร่วมมือของผู้ผลิตปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ และเป็นอุตสาหกรรมหลักของจังหวัดสระบุรี จึงเป็นสาขา (Sector) ที่จะมีส่วนสนับสนุนสำคัญต่อการดำเนินงานพัฒนาระบบนิเวศเมืองนวัตกรรม ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’
TCMA ส่งเสริมสมาชิก ซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยทุกราย เข้ามาร่วมกันดำเนินการ ด้วยการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และการใช้กลไกการสนับสนุนจากระดับนานาชาติ เชื่อมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ให้เกิดการทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาระบบนิเวศเมืองของจังหวัดสระบุรี ผ่านการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้แผนงานลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศประสบความสำเร็จ และสนับสนุนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero 2050
การดำเนินงานของ TCMA ครอบคลุมด้านหลักๆ ดังนี้ 1) การวิจัยพัฒนาใช้วัสดุทดแทนปูนเม็ดเพื่อลดการปล่อย CO2 ในกระบวนการผลิต และการใช้นาโนเทคโนโลยีเพื่อให้ปูนซีเมนต์มีคุณสมบัติดีขึ้นซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการพัฒนาความรู้ การปรับเปลี่ยนเครื่องจักร รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนข้อกำหนด มาตรฐานการใช้งานของแต่ละหน่วยงานให้สอดคล้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการส่งเสริมใช้งาน 2) การพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่ลดการปลดปล่อย CO2 ในกระบวนการผลิตและการก่อสร้าง 3) การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยลดระยะเวลา แรงงาน รวมทั้งลดของเสีย (Waste) จากการก่อสร้าง 4) การวิจัยพัฒนาการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) และเชื้อเพลิงขยะ (RDF) เพื่อใช้ทดแทนถ่านหิน ซึ่งจะสามารถช่วยลดการปล่อย CO2 ประมาณ 9 – 12 ล้านตัน CO2 /ปี และลดการเกิดฝุ่น PM 2.5 จากการเผาของภาคเกษตร และช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร รวมทั้งทำให้การจัดการขยะของจังหวัดสระบุรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 5) การวิจัยและพัฒนา Carbon Capture and Utilization/Storage (CCUS) เป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยลด CO2 เนื่องจากยังมี CO2 ที่ยังเหลืออยู่จากกระบวนการต่าง ๆ ในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งโครงการ CCUS ยังเป็นเรื่องใหม่ของประเทศและเทคโนโลยีด้านนี้ยังมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุนข้อมูล เทคโนโลยี และเงินทุนทั้งในและต่างประเทศในการศึกษาและวิจัย
ดร. ชนะ นายก TCMA กล่าวย้ำตอนท้ายว่า “TCMA พร้อมสนับสนุนจังหวัดสระบุรี รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องจริงจังดำเนินงาน PPP-Saraburi Sandbox การรวมพลังความร่วมมือจากทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อน ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’ ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ได้ผลลัพธ์แบบ win-win-win เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย”
You must be logged in to post a comment Login