วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โครงการอสังหาฯ เปิดใหม่ มกราคม 2567

On February 22, 2024

คอลัมน์ :โลกอสังหาฯ

ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 22 ก.พ 67)

ช่วงต้นปีที่มีเทศกาลและวันหยุดหลายวันโครงการอสังหาริมทรัพย์มักจะเปิดตัวน้อยลง โดยในเดือนมกราคม 2567 มีโครงการเปิดตัวใหม่เพียง 19 โครงการ และเป็นบ้านระดับราคาค่อนข้างถูกถึง 46.4% ในด้านจำนวนหน่วย

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่าในเดือนมกราคม 2567  มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดขายใหม่ลดลงเหลือเพียง 19 โครงการ ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 จำนวน 11 โครงการ ซึ่งลดลงทั้งจำนวนหน่วยขาย และมูลค่าโครงการ เนื่องจากช่วงต้นปีผู้ประกอบการหลายรายยังชะลอการเปิดตัว เพื่อรอดูแนวโน้มทิศทางตลาด และนโยบายการส่งเสริมภาครัฐ ประกอบกับอุปทานคงเหลือที่ยังค้างมาจากปีที่แล้วยังคงสูง

จำนวนหน่วยอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 3,760 หน่วย ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา ประมาณ -31% เนื่องจากการเปิดขายเดือนนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 52 ของจำนวนหน่วยขายเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์ และเป็นโครงการขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ที่มีจำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อโครงการไม่สูงมากนัก  จึงทำให้เดือนนี้มีจำนวนอุปทานหน่วยขายลดลง

โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คืออาคารชุด ซึ่งมีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ 1,785 หน่วย (47.5%) รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 1,224 หน่วย (32.6%) ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 564 หน่วย (15.0%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจำนวนหน่วยขายกับเดือนที่ผ่านมา พบว่า หน่วยขายของอาคารชุดเพิ่มขึ้น จำนวน 781 หน่วย (77.8%) ส่วนบ้านเดี่ยว ลดลง 1,457 หน่วย (-54.3%) และทาวน์เฮ้าส์ ก็ลดลง 516 หน่วย (-47.8%)

มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนมกราคม 2567 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 19,245 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาประมาณ -60.5% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกับเดือนที่ผ่านมา โดยจะพบว่า อาคารชุดที่เข้าสู่ตลาดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาปานกลางค่อนข้างต่ำ ส่วนบ้านแนวราบจะมีระดับราคาปานกลาง ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยว 63.4% รองลงมาคือ อาคารชุด 14.7% ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 14.0% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ

พิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 15.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 8.5% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุด และมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาด คือ อาคารชุด ระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 1,743 หน่วย ขายได้แล้ว 27% รองลงคือทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 80 หน่วย 28% และอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว ระดับราคา 10-20 ล้านบาท จำนวน 72 หน่วย ขายได้ 13%

เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่า เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 7 บริษัท คือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ  นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป มีรายละเอียดดังนี้

ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ สำหรับอาคารชุดที่เปิดขาย 2 โครงการ จะตั้งอยู่ในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าย่านรามคำแหง และใกล้สถานศึกษาย่านรังสิต-คลองหลวง ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเปิดใหม่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพชั้นใน 2 โครงการ และส่วนโครงการที่เหลือส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ส่วนต่อขยาย และบริเวณแหล่งงาน เป็นต้น


You must be logged in to post a comment Login