- ตำรวจไทยโชว์ฝีมือPosted 17 hours ago
- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 2 days ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 3 days ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 4 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 7 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 1 week ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 2 weeks ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
“ปูนดอกบัว” มุ่งสร้างสังคมสีเขียว เดินหน้าโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ร่วมขับเคลื่อน “สระบุรีแซนบอกซ์” เมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำ
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/03/02-30.jpg)
“ปูนดอกบัว” เดินหน้าสู่สังคมสีเขียว เปิดตัวโครงการ “โซลาร์ฟาร์ม” โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรก ด้วยกำลังการผลิต 20 เมกกะวัตต์ ณ ตำบลพุกร่าง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12,000 ตันต่อปี สร้างแหล่งพลังงานสีเขียวเทียบเท่าปลูกต้นไม้ 1.2 ล้านต้น ร่วมขับเคลื่อน “สระบุรีแซนด์บอกซ์” เมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/03/07-11.jpg)
นายนภดล รมยะรูป กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ตราดอกบัว กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายการดำเนินธุรกิจตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งมั่นสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับกิจการที่ดี พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรทางทุกธุรกิจและทุกภาคส่วน กำหนดนโยบายและแผนระยะยาวในเรื่องการลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน เพื่อก้าวสู่สังคมสีเขียว “Go Green Society” โดยมีเป้าหมายก้าวสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี พ.ศ. 2593
ล่าสุด บริษัท เอเซียซีเมนต์เอ็นเนอจี คอนเซอร์เวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท ปูนซีเมนต์เอเชีย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกกะวัตต์ ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ 160 ไร่ ของโรงงานที่ตำบลพุกร่าง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ตามเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผลักดันและสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชนใกล้เคียง ได้รับเกียรติจากนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/03/03-29.jpg)
“ด้วยกำลังการผลิต 20 เมกกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 12,000 ตันต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 1.2 ล้านต้น โรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานสะอาด และเป็นทรัพยากรหมุนเวียนที่ใช้ได้ไม่มีวันหมด เป็นความตั้งใจของเราในการใช้นวัตกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และบริการ ร่วมถึงการดูแลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชน เพื่อก้าวย่างสู่สังคมสีเขียว Go Green Society อย่างยั่งยืน” นายนภดลกล่าว
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/03/01-30.jpg)
นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า โครงการโซลาร์ฟาร์มของบริษัท ปูนซีเมนต์เอเซียจำกัด (มหาชน) ถือเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันดำเนินการตามแนวทาง “สระบุรีแซนด์บอกซ์” เพื่อผลักดันเมืองอุตสาหกรรมให้เป็นเมืองสีเขียว คาร์บอนต่ำ และจะเป็นต้นแบบให้อีกหลายๆ จังหวัดขับเคลื่อนได้ โดยปัจจัยของความสำเร็จในการเปลี่ยนเมืองอุตสาหกรรมให้เป็นเมืองสีเขียวครั้งนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือและทำงานอย่างจริงจังระหว่างภาคราชการกับภาคเอกชน รวมถึงการได้รับความสนับสนุนจากผู้ประกอบการและประชาคมในพื้นที่ “สระบุรีแซนด์บอกซ์” จะเป็นโครงการนำร่องที่ทำให้หลายอุตสาหกรรมลุกขึ้นมาทำตาม
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/03/06-17.jpg)
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ เริ่มก่อสร้างในวันที่ 28 กันยายน 2565 เพิ่งแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม ปี 2566 โดยจะผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในโรงงาน และถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของโครงการ “สระบุรีแซนด์บอกซ์” ที่ปูนซีเมนต์เอเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ได้ร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศน์เพื่อผลักดันให้สระบุรีเป็นเมืองต้นแบบแห่งแรกในไทยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2024/03/05-27.jpg)
ที่ผ่านมา ปูนซีเมนต์เอเชีย ได้ประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นเหมืองแร่ที่มีธรรมาภิบาล และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นในการดำเนินกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสุขภาพของประชาชน ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการทำเหมืองที่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และนำประเทศก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน จนได้รับรางวัล “Thailand Green & Smart Mining Awards 2023” จากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อีกด้วย
You must be logged in to post a comment Login