- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 3 hours ago
- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
ศีลอดเพื่อชีวิตใหม่
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 22 มี.ค. 67)
การอดอาหารเป็นวิถีอย่างหนึ่งของการดำรงรักษาชีวิตและเป็นพฤติกรรมที่มีอยู่แม้แต่ในหมู่สัตว์
ในฤดูร้อนที่แห้งแล้งขาดแคลนอาหาร กบจะจำศีลอยู่ในรูใต้ดิน ม้นจะนอนนิ่งปิดหู ปิดตา ปิดปากและไม่ขยับตัวเพื่อรักษาอาหารที่สะสมไว้ในร่างกายให้นานที่สุด ถ้ามันออกไปนอกรูในช่วงหน้าแล้ง มันจะไม่ได้อาหารและมันอาจกลายเป็นอาหารของชาวบ้าน การจำศีลจึงเป็นการรักษาชีวิตของมัน
แม่ไก่ต้องอดอาหารเป็นเวลาหลายวันในช่วงฟักไข่เพื่อให้ลูกของมันออกมาสืบสายพันธุ์ หากมันออกไปหากินทุกวันในระหว่างฟักไข่ โอกาสที่ลูกของมันจะฟักเป็นตัวก็คงเป็นไปไม่ได้ การอดอาหารของแม่ไก่จึงทำไปเพื่อชีวิตลูกๆของมัน
ปลาแซลมอนถือกำเนิดในแหล่งน้ำจืดทางตอนเหนือของทวีปอเมริกา เมื่อเติบโตได้สักพักหนึ่ง ฝูงปลาแซลมอนจะว่ายออกจากแหล่งกำเนิดสู่ลำธารไปยังแม่น้ำและออกไปหากินในทะเลเป็นเวลาสามหรือสี่ปี เมื่อเติบโตและสะสมอาหารไว้ในร่างกายเต็มที่แล้ว ฝูงปลาแซลมอนจะว่ายเข้าสู่แม่น้ำมุ่งไปสู่ลำธารที่มันเคยว่ายออกมาโดยไม่กินอาหารใดๆ มันจะพยายามกระเสือกกระสนว่ายทวนน้ำขึ้นไปสู่แหล่งกำเนิดของมัน เมื่อไปถึง ตัวเมียจะวางไข่และตัวผู้จะปล่อยเชื้ออสุจิออกมาผสมกับไข่ของตัวเมีย หลังจากนั้น แซลมอนทั้งตัวผู้และตัวเมียจะเฝ้าไข่ของมันจนกระทั่งลูกของมันฟักออกมาเป็นตัว เมื่อลูกของมันโตได้สักพัก มันก็จะตายไปในสภาพของการอดอาหาร
การถือศีลอดหรือการงดเว้นจากการกินการดื่มก็เป็นที่ปฏิบัติกันในหมู่มนุษย์เช่นกัน ในคัมภีร์กุรอานที่ถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดมีข้อความตอนหนึ่งว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธา การถือศีลอดได้ถูกกำหนดแก่สูเจ้าเช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่ผู้คนก่อนหน้าสูเจ้าทั้งนี้เพื่อที่สูเจ้าจะได้ยำเกรง” (กุรอาน 2:183 )
เมื่อศึกษาประวัติศาสตร์ศาสนา เราพบว่าการอดอาหารหรือถือศีลอดเป็นที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้วโดยมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป พราหมณ์ในอินเดียถือศีลอดในวันที่ 11 และ 12 ของทุกเดือนหรือปีละ 24 วัน
โยคีฮินดูบางคนถือศีลอดด้วยการงดเว้นจากการกินการดื่มเป็นเวลา 40 วัน ผู้นับถือศาสนาเชนซึ่งเป็นศาสนาเก่าแก่พอๆกับศาสนาพุทธก็ถือศีลอดหลายสัปดาห์ในหนึ่งปี
เจ้าชายสิทธัตถะเคยใช้วิธีการอดข้าวอดน้ำต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายวันเพื่อหักดิบความต้องการของร่างกายก่อนจะหันมาดำเนินสายกลางและบรรลุธรรมอริยสัจสี่ในที่สุด
ในอียิปต์โบราณ การถือศีลอดถือเป็นการปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาอย่างหนึ่ง ในกรีซโบราณ เมื่อมีการเฉลิมฉลองเทศกาลที่เรียกว่า Thesmophoria เป็นเวลาสามวัน ในวันที่สามของเทศกาล ผู้หญิงจะถือศีลอด ส่วนในศาสนาโซโรแอสเตอร์ ถึงแม้การถือศีลอดจะไม่เป็นข้อบังคับสำหรับผู้นับถือทั่วไป แต่ในคัมภีร์ของศาสนี้ปรากฏว่ามีคำสั่งเรื่องการถือศีลอด นักบวชของศาสนานี้จึงต้องถือศีลอดอาหารเป็นเวลาห้าปี
โมเสสเคยถือศีลอดเป็นเวลา 40 วันในตอนขึ้นไปรับคัมภีร์โตราห์บนภูเขาซีนาย พวกลูกหลานอิสราเอลจึงถูกกำหนดให้ถือศีลอดตามแบบโมเสส แต่การถือศีลอดแบบโมเสสคืออดข้าวอดน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าจึงละศีลอด เสร็จแล้วก็ถือศีลอดต่อ ทำให้พวกลูกหลานอิสราเอลรุ่นหลังไม่สามารถถือได้ครบสี่วัน จึงทำให้คนพวกนี้ขาดมาตรการควบคุมจิตใจตัวเองและสร้างความเสียหายขึ้น
พระเยซูก็ถือศีลอดสี่สิบวันตามแบบของโมเสส เพราะท่านมายืนยันธรรมบัญญัติเดิมของโมเสส ยอห์น แบปติสต์ก็เคยถือศีลอดร่วมกับสาวกของท่าน
ก่อนหน้าอิสลาม ชาวอาหรับในมักก๊ะฮฺเคยถือศีลอดในวันที่เปลี่ยนผ้าคลุมก๊ะอฺบ๊ะฮฺ
ในโลกสมัยใหม่ การอดอาหารได้ถูกนำมาใช้เพื่อควบคุมน้ำหนักและรักษาสรีระ
แต่ในอิสลาม การถือศีลอดไม่เพียงแค่งดเว้นจากการกินการดื่มเท่านั้น แต่ยังต้องไม่ให้สิ่งที่เป็นบาปเข้าทางหู ทางตา ทางใจและสมองด้วย การถือศีลอดจึงเป็นการแสดงความเคารพสักการะพระเจ้าและการรักษาวิญญาณให้สะอาดไปพร้อมกัน เมื่อพ้นเดือนรอมฎอนไปแล้ว ใครที่ครองตนอีกสิบเอ็ดเดือนให้เหมือนอยู่ในเดือนรอมฎอนได้ คนผู้นั้นก็จะได้รับความสุขนิรันดร์ในวันที่พบกับพระเจ้า
You must be logged in to post a comment Login