วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

คัมภีร์กุรอาน พูดถึงมนุษย์อย่างไร

On April 12, 2024

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 เม.ย. 67)

เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่พระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ประทานคัมภีร์กุรอานมายังมนุษย์เพื่อเป็นทางนำในการดำเนินชีวิต (กุรอาน 2:185)

ดังนั้น คัมภีร์กุรอานจึงมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับมนุษย์ ตั้งแต่การสร้างมนุษย์  วัตถุประสงค์ของชีวิตมนุษย์  ลักษณะนิสัยของมนุษย์ทั้งด้านบวกและด้านลบ  ตลอดจนวิธีการใช้ชีวิตของมนุษย์ในด้านต่างๆ

ทำไมต้องประทานคัมภีร์กุรอานแก่มนุษย์? คำตอบก็คือ พระเจ้าผู้สร้างมนุษย์บอกว่ามนุษย์ถูกสร้างมาในสภาพที่อ่อนแอและไม่รู้  ดังนั้น เมื่อมนุษย์มีชีวิตและต้องใช้ชีวิต  มนุษย์จึงต้องการคู่มือแนะนำการใช้ชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์ต้องการคู่มือการใช้เครื่องยนตร์หรืออุปกรณ์อิเลกโทรนิคที่ตัวเองไม่ได้สร้างขึ้นมา

หากมนุษย์ไม่รู้จักตัวเองและใช้ชีวิตอย่างผิดๆ เช่น เป็นลูกจ้าง  แต่วางตัวเป็นนาย ชีวิตก็มีแต่จะพบกับความวิบัติแม้จะเรียนสูงเพียงใดก็ตาม

ในตอนหนึ่ง  คัมภีร์กุรอานพูดถึงการสร้างมนุษย์ว่า “แท้จริง เราได้สร้างมนุษย์มาในรูปแบบที่ดีที่สุด หลังจากนั้น เราได้ทำให้เขากลับไปสู่ความต่ำสุดของความต่ำ” (กุรอาน 95:4-5)

รูปแบบทางกายภาพของมนุษย์มีความสมบูรณ์มากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นใดทั้งหมด  แม้ลิงทุกสายพันธุ์จะมีมือมีนิ้วหยิบจับสิ่งของได้เหมือนมนุษย์  แต่ลิงก็ไม่สามารถใช้นิ้วจับค้อนตอกตะปูได้เหมือนกับมนุษย์ สรีระอันงดงามของมนุษย์ทำให้ศิลปินในยุคหนึ่งนิยมวาดหรือแกะรูปสลักเรือนร่างของมนุษย์เพื่อแสดงออกถึงความงามอันสุดยอด

นอกจากบอกถึงรูปแบบสรีระที่ดีที่สุดแล้ว  คัมภีร์กุรอานยังบอกนิสัยของมนุษย์อีกด้วยว่า “แท้จริง มนุษย์นั้นมักละเมิดเสมอเมื่อเขาเห็นว่าเขามั่งคั่ง” (กุรอาน 96 : 6-7 )

ไม่ผิดไปจากที่คัมภีร์กุรอากล่าวไว้  คนที่ร่ำรวยมักทำอะไรได้ตามที่ใจตัวเองต้องการ  หากใจคิดชั่วอยู่แล้ว  ความมั่งคั่งจะช่วยมนุษย์ให้ทำความชั่วได้ง่ายดายและจะละเมิดขอบเขตทุกอย่าง  คำว่าละเมิดในศัพท์ภาษาอาหรับสื่อถึงน้ำล้นขอบตลิ่งคลองจนท่วมสร้างความเสียหายให้แก่ผู้คนทั้งสองฝั่ง

เมื่อมนุษย์ใช้อำนาจทางร่างกายและความคิดไปในทางชั่วช้า  พระเจ้าก็จะให้อำนาจเขาทำความชั่วและทำให้เขาตกต่ำจนถึงที่สุด  นี่เป็นความจริงที่เราสามารถสังเกตได้ทั่วไปในสังคมมนุษย์  คนที่มีแต่ความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความเลวทราม เสพสิ่งมึนเมาและมีลักษณะเลวทรามอื่นๆจะมีความเสื่อมทรามทางศีลธรรมถึงขั้นต่ำสุด

ลองพิจารณาตัวอย่างความจริงต่อไปนี้ : เมื่อชาติใดตั้งหน้าตั้งตาเป็นศัตรูต่ออีกชาติหนึ่งอย่างหลับหูหลับตา  ชาตินั้นจะปฏิบัติต่อชาติที่ตัวเองเกลียดชังอย่างเหี้ยมโหดป่าเถื่อนทุกรูปแบบเกินกว่าที่สัตว์ป่าจะทำ  สัตว์ป่าล่าเหยื่อเพียงเพื่อเป็นอาหาร  มันไม่ใช้วิธีการฆ่าหมู่ แต่มนุษย์ฆ่าหมู่มนุษย์ด้วยกันเอง  สัตว์ป่าเพียงแค่ใช้กรงเล็บและฟันเท่านั้น  แต่มนุษย์ผู้ถูกสร้างขึ้นมาในรูปแบบที่ดีที่สุดได้ใช้สติปัญญาของตนประดิษฐ์ปืน รถถัง เครื่องบิน ระเบิดปรมาณูและอาวุธชนิดอื่นๆอีกสารพัดขึ้นมาเพื่อทำลายล้างประชากรให้หมดไปในทีเดียว

สัตว์เดรัจฉานเพียงฆ่าหรือทำให้เกิดบาดแผล  แต่มนุษย์ได้คิดค้นวิธีการอันเจ็บปวดเพื่อทรมานมนุษย์ด้วยกันเองจนแม้กระทั่งสัตว์ก็นึกไม่ถึง  หลังจากนั้น เพื่อสนองความแค้นและความโกรธต่อศัตรู เขายังบังคับผู้หญิงให้เดินเปลือยกายเป็นแถวแล้วให้ผู้ชายนับสิบคนเข้าข่มขืนต่อหน้าต่อตาของพ่อแม่ พี่น้องและสามีของพวกเธอ  ลูกๆถูกฆ่าหมู่ต่อหน้าพ่อแม่และถูกบังคับให้ดื่มเลือดของลูกตัวเอง  บางคนถูกเผาและถูกฝังทั้งเป็น

ไม่มีสายพันธุ์สัตว์ป่าใดๆในโลกนี้ที่จะเสมอเหมือนมนุษย์ในเรื่องความโหดร้ายป่าเถื่อน เช่นเดียวกับความชั่วอื่นๆ มนุษย์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถ้าเขาทำชั่วเขาก็จะชั่วช้าเลวทรามถึงขั้นต่ำสุดจนถึงขนาดที่ว่าแม้แต่ในเรื่องของศาสนาที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับมนุษย์ เขาก็ยังบูชาต้นไม้ สัตว์ ภูเขาหรือแม้กระทั่งอวัยวะเพศของผู้ชายและผู้หญิง  เขาเลี้ยงโสเภณีทางศาสนาไว้ในสถานที่แห่งการเคารพบูชาเพื่อเอาใจเทพเจ้าและทำชู้กับโสเภณีเหล่านั้นโดยถือว่ามันเป็นความดีงาม ไม่เพียงแต่เท่านั้นเขายังอ้างเรื่องความสกปรกลามกเช่นนั้นว่ามาจากเทพเจ้าและเทพีต่างๆอีกด้วย


You must be logged in to post a comment Login