- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ฮิจญ์เราะฮฺศักราช 1446
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 ก.ค. 67)
วันปีใหม่ของปฏิทินอิสลามหรือปฏิทินฮิจญ์เราะฮฺศักราชปีนี้ตรงกับวันที่ 8 เดือนกรกฎาคม 2547 ตามประกาศของจุฬาราชมนตรี
การมีปฏิทินเพื่อนับวันเดือนปีเป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความมีอารยธรรมของมนุษย์ และสิ่งสำคัญที่เป็นต้นกำเนิดของการทำปฏิทินก็คือดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่เป็นที่มาของกลางวันและกลางคืน
ชาวอียิปต์โบราณใช้ปฏิทินทางจันทรคติมาตลอด แต่ตอนหลังได้หันมาใช้ปฏิทินแบบสุริยคติ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องพิธีกรรมและการเฉลิมฉลองทางศาสนา ชาวอียิปต์ยังคงใช้ปฏิทินจันทรคติ ส่วนในชีวิตประจำวันจะใช้ปฏิทินสุริยคติที่มี 365 วัน
ก่อนคริสตกาล 45 ปี จูเลียส ซีซาร์ได้สั่งให้ทำปฏิทินที่ประกอบด้วยสิบสองเดือนตามระบบสุริยคติ ปฏิทินระบบนี้กำหนดให้ทุกสามปีมี 365 วันและในปีที่สี่มี 366 วัน เมื่อเริ่มใช้ปฏิทินนี้ วันเริ่มต้นปีใหม่ได้ถูกเปลี่ยนจากวันที่ 1 มีนาคมเป็น 1 มกราคม
ส่วนเรื่องการกำหนดให้หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวันนั้น นักประวัติศาสตร์กล่าวว่ามาจากชาวบาบิโลนผู้มีพรสวรรค์ทางด้านดาราศาสตร์และคำสั่งของกษัตริย์ซาร์กอนที่ 1 แห่งอักกัดในราว 2300 ปีก่อนคริสตกาล ทั้งนี้เนื่องจากชาวบาบิโลนให้ความสำคัญแก่เลขเจ็ด และเนื่องจากก่อนมีกล้องโทรทัศน์ดูดาว เทหวัตถุสำคัญบนท้องฟ้าที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขาก็มีจำนวนเจ็ดดวง นั่นคือ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดาวเคราะห์อื่นๆที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าอีกห้าดวง
ในแผ่นดินอาหรับก่อนหน้าอิสลาม ชาวอาหรับไม่มีปฏิทินของตนเอง แต่ชาวอาหรับอาศัยการโคจรของดวงจันทร์ในการนับเดือนและเดือนของชาวอาหรับมี 12 เดือน แต่ละเดือนมีชื่อระบุด้วย ในจำนวน 12 เดือนนี้มีเดือนต้องห้ามทำสงครามปล้นชิงสี่เดือน สามในสี่เดือนต้องห้ามนี้คือเดือนก่อนหน้าและหลังเดือนซุลฮิจญะฮฺซึ่งเป็นเดือนทำฮัจญ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่คนที่เดินทางไปและกลับจากการทำฮัจญ์
เมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มเผยแผ่อิสลาม นบีมุฮัมมัดยังคงใช้ปฏิทินทางจันทรคติตามประเพณีของชาวอาหรับ แต่เดือนรอมฎอนได้กลายเป็นเดือนที่มีความสำคัญขึ้นมาเพราะคัมภีร์กุรอานได้ถูกประทานมาในเดือนรอมฎอนและเดือนนี้เป็นเดือนที่ผู้ศรัทธาในพระเจ้าถูกกำหนดให้ถือศีลอด
ความแตกต่างระหว่างปฏิทินสุริยคติและปฏิทินจันทรคติคือ หนึ่งปีในปฏิทินสุริยคตินับจากโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ ส่วนปฏิทินจันทรคตินับจากการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์เป็นหนึ่งเดือน ครบสิบสองเดือนเมื่อใดก็เป็นหนึ่งปี การกำหนดว่าหนึ่งปีมี 12 เดือนเป็นการกำหนดของพระเจ้าที่กล่าวไว้ในคัมภีร์กุรอาน
ในขณะที่ปีหนึ่งในปฏิทินสุริยคติมี 365วันกว่าๆและเดือนในแต่ละปีจะมี 28,30 และ 31 วัน ปฏิทินจันทรคติจะมีจำนวนวันในแต่ละปีน้อยกว่าประมาณ 10-11 วันเพราะแต่ละเดือนจะมีเพียง 29 หรือ 30 วันเท่านั้น การเริ่มต้นเดือนใหม่จะเริ่มจากการปรากฏของจันทร์เสี้ยวแรกของเดือนใหม่
วันใหม่ของปฏิทินจันทรคติเริ่มต้นเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในขณะที่วันใหม่ของปฏิทินสุริยะคติเริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืน
ในสมัยที่นบีมุฮัมมัดยังมีชีวิต แม้ผู้คนจะรู้จักการนับเดือนและรู้ว่าหนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวันโดยวันศุกร์เป็นวันสำคัญที่สุดในสัปดาห์ แต่ก็ยังไม่มีการใช้ปฏิทิน จนกระทั่งหลังสมัยนบีมุฮัมมัดจากไปไม่ถึงยี่สิบปี อาณาเขตของอิสลามแผ่ขยายออกไปถึงอาณาจักรเปอร์เซียและดินแดนส่วนหนึ่งของอาณาจักรไบแซนติน เคาะลีฟะฮฺที่เมืองหลวงต้องส่งคนไปปกครองยังหัวเมืองต่างๆและจำเป็นต้องมีการโต้ตอบจดหมายกัน แต่เนื่องจากไม่มีปฏิทิน จดหมายจึงไม่ได้ระบุปี ทำให้เกิดความสับสนว่าจดหมายหรือคำสั่งฉบับใดมาก่อน สาวกของนบีมุฮัมมัดจึงเริ่มคิดทำปฏิทินขึ้น
ในการปรึกษาหารือกันเพื่อทำปฏิทิน มีสาวกบางคนเสนอให้เอาวันเกิดหรือวันเสียชีวิตของนบีมุฮัมมัดเป็นจุดเริ่มต้นศักราชอิสลาม แต่สาวกหลายคนเห็นสมควรว่าน่าจะใช้วันที่นบีมุฮัมมัดอพยพ(ฮิจญ์เราะฮฺ)จากมักก๊ะฮฺมาถึงเมืองมะดีนะฮฺดีกว่าเพราะการอพยพครั้งนั้นของท่านทำให้สถานภาพของมุสลิมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ปฏิทินฮิจญ์เราะฮฺศักราชจึงเกิดขึ้นมา
You must be logged in to post a comment Login