วันพฤหัสที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สรุปวิธีรักษาแผลเบาหวาน เพื่อประโยชน์ในการดูแลผู้ป่วย

On July 18, 2024

แผลเบาหวานเป็นแผลเรื้อรังที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มักเกิดที่เท้า แต่สามารถเกิดขึ้นได้ที่บริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย แผลเหล่านี้หายช้าและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น การติดเชื้อ การตัดแขนหรือขา มาดูวิธีรักษาแผลเบาหวานได้ที่นี่เลย

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดแผลเบาหวาน

  • ระดับน้ำตาลในเลือดสูง

น้ำตาลในเลือดสูงส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิต ทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

  • ความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูงส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงแผลได้น้อยลง ส่งผลต่อการฟื้นฟู

  • คอเลสเตอรอลสูง

คอเลสเตอรอลสูงไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงแผลได้ลำบาก

  • สูบบุหรี่

บุหรี่มีสารพิษที่ทำลายหลอดเลือด ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงแผล

  • เป็นโรคเส้นประสาท

เบาหวานอาจทำให้เกิดโรคเส้นประสาท ทำให้สูญเสียความรู้สึกที่เท้า ไม่รู้ตัวว่าเท้ามีแผล

  • เป็นโรคหลอดเลือดส่วนปลาย

โรคหลอดเลือดส่วนปลายทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณปลายเท้าได้น้อย แผลหายช้าและเสี่ยงติดเชื้อ

  • ภาวะอ้วน

น้ำหนักตัวมากไปเพิ่มแรงกดทับบริเวณเท้า เสี่ยงต่อการเกิดแผล

วิธีรักษาแผลเบาหวาน

1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

สิ่งสำคัญที่สุดในวิธีรักษาแผลเบาหวาน คือ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และป้องกันการเกิดแผลใหม่ เนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตและกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อ

2. ดูแลแผลให้สะอาดและแห้ง

  • ล้างแผลด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสบู่อ่อน ๆ วันละ 1-2 ครั้ง – การทำความสะอาดแผลจะช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อ
  • เช็ดแผลให้แห้งสนิทด้วยผ้าสะอาด – ความชื้นที่แผลเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ทาครีมหรือยาใส่แผลตามแพทย์สั่ง – ยาจะช่วยรักษาแผล ป้องกันการติดเชื้อ และกระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ
  • เปลี่ยนผ้าปิดแผลทุกวันหรือเมื่อเปื้อน – ผ้าปิดแผลที่เปื้อนอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโร
  • ใส่ถุงเท้าที่สะอาดและแห้งทุกวัน – ถุงเท้าจะช่วยปกป้องเท้าจากการเสียดสี

3. รักษาความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลที่สูงส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงแผล ทำให้แผลหายช้า

4. เลิกสูบบุหรี่

บุหรี่มีสารพิษที่ทำลายหลอดเลือด ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงแผล

5. รักษาโรคประจำตัวอื่น ๆ

โรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควบคุมให้อยู่ในสภาวะที่ดีเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนเลือด

6. ตรวจเท้าทุกวัน

มองหาแผล รอยแตก รอยบวม หรือรอยแดง การตรวจเท้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้พบแผลได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

นอกจากวิธีที่เราสรุปมาฝากกันนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีรักษาแผลเบาหวานหรือแผลเป็นเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำวิธีรักษาแผลเบาหวานที่ถูกต้อง และรับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม


You must be logged in to post a comment Login